“จิรายุ” ยันพวก “สีเทา” ไม่มีโอกาสขอใช้สัญชาติไทยแน่
“จิรายุ” ยันพวก “สีเทา” ไม่มีโอกาสขอใช้สัญชาติไทยแน่ หลัง สมช. ขอ ครม. เห็นชอบให้เฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ไทยมานานกว่า 30-40 ปี
“จิรายุ” ยันพวก “สีเทา” ไม่มีโอกาสขอใช้สัญชาติไทยแน่ หลัง สมช. ขอ ครม. เห็นชอบให้เฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ไทยมานานกว่า 30-40 ปี
9ส.ค. กทม.-รัฐมนตรีวัฒนธรรม ร่วมฉลองความหลากหลายชาติพันธุ์ ชู Soft Power ชาติพันธุ์ พลังสร้างสรรค์ชาติ วันสากลแห่งสหประชาชาติว่าด้วยชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมของโลก ประจำปี 2567 ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) กรุงเทพฯ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้เป็นประธานเปิดงาน Soft Power ชาติพันธุ์ พลังสร้างสรรรค์ชาติ และร่วมเฉลิมฉลองวันสากลแห่งสหประชาชาติว่าด้วยชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิมของโลก ประจำปี 2567 โดยมีนางสาว พลอย ธนิกุล” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นายโกมาตร จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) นายเกรียงไกร ชีช่วง ประธานสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย(สชพ.) ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และมีพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์จากทั่วประเทศกว่า 60 กลุ่มชาติพันธุ์ร่วมงาน ณ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) กรุงเทพฯ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในโอกาสนี้ว่า “รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมเฉลิมฉลองกับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์จากทั่วประเทศทั้ง 60 กลุ่มชาติพันธุ์ ในโอกาส […]
“ไชยามพวาน” ตั้งคำถามคนเร่ร่อน-กลุ่มชาติพันธุ์-ผู้อยู่ในเรือนจำ เข้าเกณฑ์รับเงินดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ หลัง “ภูมิธรรม” บอกพระสงฆ์เป็นพลเมืองได้รับสิทธิ
นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่แม่จัน สวมเสื้อชนเผ่าอิ้วเมี่ยนที่ชาวบ้านมอบให้ พร้อมรับฟังปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ คาดร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ จบเดือนนี้ ใช้เวลาพิสูจน์สัญชาติจาก 180 วัน เหลือ 5 วัน ลั่น จนท.รัฐต้องดูแลเท่าเทียมเสมอภาค
เนปิดอว์ 30 พ.ค.- รายงานของกลุ่มนานาชาติ 2 กลุ่มระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมาเสียการควบคุมพื้นที่เป็นวงกว้าง รวมถึงการเข้าถึงพรมแดนระหว่างประเทศ เปิดทางให้กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธหลายกลุ่มแผ่อิทธิพลควบคุมพื้นที่ได้มากขึ้น คณะกรรมการที่ปรึกษาพิเศษเพื่อเมียนมา (SAC-M) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนานาชาติที่รวมตัวกันรายงานและวิเคราะห์สถานการณ์ในมียนมาหลังการรัฐประหารปี 2564 ออกรายงานประเมินในวันนี้ว่า รัฐบาลเมียนมาสูญเสียการควบคุมเมืองต่าง ๆ คิดเป็นร้อยละ 86 ของพื้นที่ทั้งประเทศ และเป็นที่อาศัยของประชากรร้อยละ 67 ของประชากรทั้งประเทศ 55 ล้านคน โดยได้ละทิ้งพื้นที่สำคัญและถูกบีบให้ต้องเป็นฝ่ายตั้งรับในพื้นที่ที่รัฐบาลยังควบคุมอยู่ในเวลานี้ ขณะเดียวกันไครซิสกรุ๊ป ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรออกรายงานประเมินว่า กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่มีชัยชนะทางทหารหลายครั้งกำลังรวบรวมการควบคุมพื้นที่ที่แผ่ขยายกว้างขึ้น และหลายกลุ่มกำลังเดินหน้าไปสู่การตั้งรัฐปกครองตนเอง การที่กองทัพสูญเสียพื้นที่มากขึ้นและกลุ่มผู้ปกครองชนชั้นนำไม่พอใจมากขึ้นได้ทำให้อนาคตทางการเมืองของพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำคนปัจจุบันตกอยู่ในความไม่แน่นอน แม้ว่าเขาได้ตั้งเจ้าหน้าที่ที่จงรักภักดีให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงก็ตาม รายงานของทั้ง 2 กลุ่มนี้เสนอแนะว่า เนื่องจากรัฐบาลเมียนมากำลังสูญเสียการควบคุมพรมแดนเกือบทั้งหมดของประเทศ และองค์การการปกครองที่ไม่ใช่รัฐมีแนวโน้มจะแผ่ขยายมากขึ้น ประเทศเพื่อนบ้านเมียนมา กลุ่มระดับภูมิภาค และประชาคมโลกจึงควรเพิ่มการติดต่อประสานงานกับกลุ่มต่อต้านและภาคประชาสังคม เพื่อเร่งจัดส่งความช่วยเหลือให้แก่ประชาชนชาวเมียนมา ข้อมูลของสหประชาชาติระบุว่า มีชาวเมียนมากลายเป็นคนพลัดถิ่นในประเทศมากเป็นประวัติการณ์ คนกว่า 3 ล้านคนต้องอพยพเพราะการสู้รบที่ทวีความรุนแรงขึ้น.-814.-สำนักข่าวไทย
กทม. 14 พ.ค.-“แพทองธาร” เผย “ทักษิณ” ดอดคุยกลุ่มชาติพันธุ์ เชื่อเพราะห่วงใยบ้านเมือง อยากช่วยให้ชาติสงบ
“สุทิน” เชื่อหาก “ทักษิณ” ช่วยเจรจากลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมาจริง ถือเป็นเรื่องดี พร้อมชี้ว่า ปัญหาขัดแย้งในหลายประเทศ บางครั้งไม่ได้จบด้วยไตรภาคีหรือทวิภาคี แต่จบด้วยไม่มีภาคี โดยให้เอกชนที่มีบารมีเป็นสื่อกลาง
ปธ.กมธ.มั่นคง จ่อเรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องแจงปม “ทักษิณ” เจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา ชี้ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล ห่วงผลเจรจาผูกมัดประเทศ
เบอร์ลิน 20 เม.ย.- สื่อใหญ่ในเยอรมนีรายงานความเห็นของนักวิเคราะห์ว่า รัฐบาลทหารเมียนมากำลังต่อสู้อย่างหนักเพื่อความอยู่รอด แต่ก็ยังคงสามารถระดมสรรพกำลังในการตอบโต้ฝ่ายต่อต้านอย่างหนักหน่วงได้ เว็บไซต์ดีดับเบิลยู (DW) ซึ่งเป็นสื่อระดับโลกของเยอรมนีอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนว่า กองทัพเมียนมากำลังอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างยิ่งและพ่ายแพ้ในศึกหลายด้านทั่วประเทศ หลังจากเสียเมืองเมียวดีที่เป็นเมืองพรมแดนสำคัญให้แก่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) ซึ่งจับมือกับกลุ่มต่อต้าน เป็นการสูญเสียทางสัญลักษณ์จากการที่ทหารกว่า 600 นายและครอบครัวยอมจำนนโดยดี และสูญเสียทางเศรษฐกิจเพราะเป็นเมืองการค้ากับไทยที่มีการค้าขายสินค้ามูลค่าปีละหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซาชารี อาบูซา นักวิชาการของวิทยาลัยสงครามแห่งชาติในสหรัฐที่ศึกษาเรื่องเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านที่กำลังสู้รบกับกองทัพเมียนมาใน 8 พื้นที่ไม่มีกลุ่มใดแข็งแกร่งหรือซับซ้อนเป็นพิเศษ เพียงแต่กองทัพเมียนมาตึงตัวจนไม่สามารถแบ่งกำลังพลไปเอาชนะได้ ด้านเดวิด สกอตต์ มาเธียสัน นักวิเคราะห์อิสระมองว่า เมียนมามีพื้นที่กว้างใหญ่มากพอที่จะให้กองทัพล่าถอย ประกอบกับกองทัพมีเครือข่ายฐานที่มั่นและการผลิตอาวุธ การเสียดินแดนจึงยังไม่ได้หมายความว่ากองทัพพ่ายแพ้ ขณะที่โฆษกของเคเอ็นยูเองยอมรับว่า กังวลว่ากองทัพจะตอบโต้อย่างหนัก เพราะที่ผ่านมากองทัพมักใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงเมื่อเสียดินแดน ขณะนี้กองกำลังภายใต้การควบคุมของสภาบริหารแห่งรัฐหรือเอสเอซี (SAC) ที่กองทัพเมียนมาตั้งขึ้นหลังการรัฐประหารปี 2564 กำลังถูกกลุ่มต่อต้านกดดันจนต้องล่าถอยในหลายรัฐทั้งกะฉิ่น ยะไข่ กะยา และฉาน นับจากกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 3 กลุ่มจับมือกันตั้งพันธมิตร 3 ภราดรภาพ เปิดฉากปฏิบัติการ1027 ในวันที่ 27 ตุลาคม 2566 ยึดได้ที่ตั้งทางทหารและเมืองต่าง ๆ ในรัฐฉาน.-814.-สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 8 เม.ย.- กลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ชี้ว่า การที่รัฐบาลทหารเมียนมาเสียเมืองเมียวดีให้แก่กลุ่มชาติพันธุ์ที่จับมือกับกลุ่มต่อต้าน ทำให้สูญเสียช่องทางการค้าสำคัญ นายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ให้ความเห็นกับเว็บไซต์อัลจาซีราว่า เมืองเมียวดีที่อยู่บริเวณพรมแดนเมียนมา ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยเป็นเส้นทางการค้าสำคัญ เพราะถึงแม้จะเกิดการสู้รบครั้งใหม่นับตั้งแต่กองทัพรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 การค้าทวิภาคีข้ามพรมแดนช่วงเดือนเมษายน 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567 ยังคงมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 36,730 ล้านบาท) การสูญเสียเมืองเมียวดีจึงเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของเมียนมา เพราะเมืองนี้ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาจุดผ่านแดนอย่างเป็นทางการระหว่างไทยกับเมียนมา อัลจาซีรารายงานว่า ก่อนหน้านี้สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (KNU) อ้างว่า กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นแอลเอ (KNLA) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของเคเอ็นยูได้ร่วมกับนักรบต่อต้านรัฐประหารของกองกำลังปกป้องประชาชนหรือพีดีเอฟ (PDF) เข้ายึดที่ตั้งทางทหารในเมืองเมียวดี พร้อมกับเผยแพร่ภาพถ่ายอาวุธและเครื่องกระสุนที่ยึดได้ อัลจาซีราระบุว่า เคเอ็นยูเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธเก่าแก่ที่สุดในเมียนมา และได้ให้การฝึกอาวุธแก่นักรบของพีดีเอฟ เป็นกองกำลังที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจี (NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลเงาของกลุ่มนักการเมืองเมียนมาที่ถูกรัฐประหาร เอ็นยูจีเผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า พีดีเอฟได้ใช้โดรนโจมตีกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล.-814.-สำนักข่าวไทย
นายกฯ สวมชุดชาติพันธุ์ลีซู เปิดงานกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมท่องเที่ยววิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ยันรัฐบาลให้ความสำคัญความเสมอภาคเท่าเทียม ดันร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ เข้าสภาฯ ไม่เกิน ก.ค.นี้ ขณะที่วันพรุ่งนี้ (17 มี.ค.) ยังปฏิบัติภารกิจที่เชียงใหม่และลำพูน
รัฐสภา 28 ก.พ.-สภาฯ รับหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครอง-ส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ หนุนกลุ่มชาติพันธุ์ ได้รับสวัสดิการ และมีรายได้จากการท่องเที่ยวได้