กรุงเทพฯ 3 ต.ค.- รมว. เกษตรฯ เผย สั่งการให้กรมชลประทานเร่งระบายออกจากพื้นที่น้ำท่วม ขณะเดียวกันให้แบ่งน้ำจากลำน้ำสายหลักออกสู่ลำน้ำสาขาเพื่อลดผลกระทบจากภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะที่ลุ่มน้ำยมต้องป้องกันไม่ให้น้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัย ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยาต้องพร่องน้ำเพื่อรองรับน้ำเหนือที่จะไหลลงมาเพิ่ม แต่ยังมั่นใจ กรมชลประทานสามารถรับสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนักในระยะนี้ได้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยปรับแผนการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำ เขื่อนระบายน้ำ และระบบชลประทาน เพื่อหน่วงน้ำที่ไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำสายหลักให้มากที่สุดตามศักยภาพในแต่ละช่วงเวลา รวมถึงการจัดจราจรทางน้ำเพื่อลดผลกระทบจากน้ำที่จะไหลหลากลงมายังแม่น้ำยม แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำชี-มูล สำหรับลุ่มน้ำวัง ปริมาณน้ำในแม่น้ำวังเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบกับจังหวัดลำปางและตากบางส่วน แนวโน้มสถานการณ์ลดลง โดยกรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนที่เป็นห่วงคือ ลุ่มน้ำยม กรมชลประทานรายงานว่า ได้ใช้ประตูระบายน้ำ (ปตร.) แม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) หน่วงน้ำไว้ด้านเหนือปตร. เพื่อลดผลกระทบน้ำหลากบริเวณพื้นที่เศรษฐกิจและตัวเมืองสุโขทัย พร้อมกันนี้จัดจราจรน้ำด้วยการผันน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำยม ไปเก็บไว้ในที่ทุ่งบางระกำเพื่อช่วยหน่วงน้ำ ไม่ให้ไหลลงมากระทบต่อพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง ทั้งนี้ได้ย้ำว่า ต้องป้องกันไม่ให้น้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัยซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ฝนที่ตกในพื้นที่ตอนบนส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น โดยที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,640 ลบ.ม./วินาที […]