
คลัง มอบของขวัญปีใหม่
คลัง ดึงทุกหน่วยงาน มอบของขวัญปีใหม่ ลดค่าโอนบ้าน ดึงแบงก์รัฐ ลดดอกเบี้ย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยพิเศษ ชำระดีมีเงินคืน ลดภาษี Easy E-Receipt
คลัง ดึงทุกหน่วยงาน มอบของขวัญปีใหม่ ลดค่าโอนบ้าน ดึงแบงก์รัฐ ลดดอกเบี้ย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยพิเศษ ชำระดีมีเงินคืน ลดภาษี Easy E-Receipt
ครม.ลดค่าธรรมเนียมการโอน จดจำนอง หนุนซื้อบ้านหลังแรกและมือสอง อีก 1 ปี กระตุ้นภาคอสังหาฯ ดันจีดีพีเพิ่มร้อยละ 0.5
กระทรวงการคลัง 26 ธ.ค.-ครม. เห็นขอบกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ ปี 2567 ร้อยละ 1-3
กรุงเทพฯ 19 ธ.ค.-คลัง หนุนยานยนต์ไฟฟ้า แนะค่ายรถยนต์ใช้สิทธิ์เฟส 2 EV3.5 แบตเตอรี่ 50 kwh ขึ้นไป รับเงินอุดหนุน 100,000 บาท/คัน เผย 11 เดือนแรก จดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า 67,056 คัน เพิ่มขึ้น 7.9 เท่า
ตามที่มีการแชร์ข้อความ “อย่ารับสายเบอร์โทรศัพท์ 082-810-3575 เพราะอาจโดนดูดเงินหมดบัญชี” นั้น บทสรุป : ต้องตระหนักและระวัง แต่ไม่ได้รุนแรงฉับพลันตามที่แชร์กัน ทั้งนี้ โดยทั่วไปเพียงแค่รับสายโทรศัพท์ ไม่สามารถทำให้เงินหายออกจากบัญชีได้ แต่หากรับสายแล้วหลงกลคำพูดของมิจฉาชีพ แล้วยอมทำตาม เช่น ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอมหรือกรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะโดนโจรกรรมทั้งเงินและข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับเบอร์ดังกล่าว ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า มีรายงานข่าวเตือนว่าเป็นเบอร์โทรที่คนร้ายใช้โทรศัพท์ไปหาคนจำนวนมาก ในช่วงเดือนเมษายน 2566 และเบอร์เดิมกลับมาเป็นข่าวอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2566 ข่าวระบุว่า เบอร์ดังกล่าว มิจฉาชีพจะโทรมาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง หลอกลวงให้ผู้เสียหายกดยกเลิกสิทธิโครงการของรัฐฯ ที่หมดเขตไปแล้ว ซึ่งกระทรวงการคลัง ยืนยัน ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่ติดต่อหาประชาชนเพื่อยกเลิกสิทธิ์หรือมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้แก่บุคคลใดทั้งสิ้น แต่หากผู้เสียหายหลงเชื่อและสอบถามขั้นตอน มิจฉาชีพจะทำทีให้ความช่วยเหลือ โดยให้แอดไลน์เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตัวปลอม และจะส่งลิงก์ให้ผู้เสียหายดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเป๋าเงินหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวและล็อกอินเข้าสู่ระบบ รวมถึงหลอกให้ตั้งรหัสผ่าน และนำรหัสผ่านดังกล่าวไปใช้โจรกรรมต่อไป อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพสามารถเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ไปได้เรื่อย ๆ และไม่จำเป็นที่ว่าผู้ใช้งานเบอร์นี้ในอนาคตจะต้องเป็นมิจฉาชีพเสมอไป เนื่องจากเบอร์อาจถูกปิดและนำกลับมาจัดสรรใหม่ คำแนะนำจาก ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ จะเห็นได้ว่า การรับสายโทรศัพท์ไม่ว่าจะเป็นเลขหมายใด ๆ เพียงอย่างเดียว โดยทั่วไปจึงไม่สามารถทำให้เงินหายหมดบัญชีได้ รวมทั้ง […]
กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. –คลัง ออกมาตรการ เร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ หนุนใช้ “สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์”
กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. -ธ.ก.ส. เร่งพักชำระหนี้เกษตรกร 1.6 ล้านคน มูลหนี้กว่า 2.2 แสนล้านบาท หนุนชมชุมชนต้นแบบการฟื้นฟูอาชีพ สร้างรายสร้าง จังหวัดเชียงราย
ทำเนียบฯ 12 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรี ย้ำแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบให้จบภายในรัฐบาลนี้ ห่วงหนี้บัตรเครดิตอาการหนัก 67,000 ล้านบาท ดึง ธ.ก.ส. ออมสิน สางหนี้ครู ตำรวจ
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซียปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ในวันนี้ โดยแต่งตั้งผู้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของลูกจ้าง หรือ อีพีเอฟ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนที่ 2
กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.- คลัง สั่งกรมสรรพากรคุมเข้มเจ้าหน้าที่สรรพากร เงินคืนภาษี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายดนัย ดำรงชัยโยธิน นักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ สรรพากรพื้นที่สาขาบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ กับพวกรวม 4 ราย ร่ำรวยผิดปกติกว่า 2 พันล้านบาท คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงให้กรมสรรพากรดำเนินการลงโทษไล่ออกกรณีร่ำรวยผิดปกติ ความผิดดังกล่าว เป็นการยกยอกเงินหลวง เนื่องจากสรรพากรได้ออกเช็คมาแล้ว เพื่อคืนภาษีให้กับเอกชนผู้ขอคืนภาษีตามปกติ โดยภาคเอกชนไม่ได้มีความผิด รู้เห็นเป็นใจ จึงไม่ใช่การโกงคืนภาษี แต่เจ้าหน้าที่สรรพากรกลับทำการเปลี่ยนแปลง เพิ่มตัวเลขการคืนภาษี และเปลี่ยนชื่อบัญชี ถือว่า เป็นการยักยอกเงินหลวง ปัญหาดังกล่าว ตั้งแต่เกิดปัญหาตั้งแต่ปี 2565 กรมสรรพากร จึงสั่งให้ออกไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา สำหรับขั้นตอนสอบสวน เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งคำร้องดำเนินคดีการกระทำความผิด เมื่อหลักฐานชัดเจน เข้าสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช. จึงได้เปลี่ยนเป็นไล่ออก ถือเป็นการเอาผิดทางวินัยสำหรับข้าราชการ สำหรับการดำเนินคดีอาญา การเรียกร้องเงินคืนต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม กระทรวงการคลังจึงสั่งการให้กรมสรรพากร คุมเข้มปัญหาดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีปัญหาการยักยอกเงินหลวงในขั้นตอนการขอคืนภาษีจากผู้ประกอบการภาคเอกชน.-515 สำนักข่าวไทย
กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.-“รัฐบาล-ก.ล.ต.” ร่วมตั้งหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งเป้าไทยเป็นศูนย์กลางระดมทุนในภูมิภาค ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงยุทธศาสตร์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจดิจิทัล หวังให้เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ของไทย จึงต้องการสร้างระบบระดมทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลให้เอื้อต่อการเกิดของธุรกิจดิจิทัล รัฐบาล ก.ล.ต. และกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญการกำกับดูแลที่เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัล ในการระดมทุนสินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรมทางการเงินอย่างครบวงจร การตั้งหน่วยงานใหม่ เพื่อทำหน้าที่เกาะติดพัฒนาการเทคโนโลยีทางการเงิน รูปแบบทางธุรกิจใหม่ๆ พิจารณาคำขออนุญาต กำกับดูแลการออกเสนอขายโทเคนดิจิทัล ให้ความเห็นชอบและกำกับดูแลผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล กำกับดูแลระบบคราวด์ฟันดิง การเสนอขายหลักทรัพย์คราวด์ฟันดิง ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะถูกดำเนินการอย่างเท่าทัน โดยบุคลากรเฉพาะด้าน หน่วยงานเฉพาะด้าน ที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง นับเป็นการปลดล็อคตัวแรกสำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล อีกหนึ่งความสำเร็จของนโยบายรัฐบาลที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ประชาชน เป็นก้าวแรก ทำให้ไทยก้าวไปสู่ระบบการระดมทุนคู่ขนาน ทั้งธุรกิจพื้นฐานและธุรกิจดิจิทัล จะเติบโตควบคู่กันไป โดยรัฐบาลตั้งเป้ายกระดับประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการระดมทุนทั้งสองรูปแบบของภูมิภาค.-515 สำนักข่าวไทย
นายกฯ เรียก ผบ.ทสส. คุยช่วยแรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน ลุยแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5