ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : ไหล่ติด


20 เมษายน 2568

ภาวะไหล่ติด หรือที่มีชื่อทางการแพทย์ว่า Adhesive Capsulitis เป็นภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ สร้างความเจ็บปวดและข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยหลายราย แม้ภาวะนี้อาจดูเหมือนเป็นเพียงอาการปวดเมื่อยธรรมดาในระยะแรก แต่หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การจำกัดการเคลื่อนไหวของหัวไหล่อย่างถาวรได้ บทความนี้จะพาไปรู้จักสาเหตุ อาการ การฟื้นตัวตามธรรมชาติ ไปจนถึงบทบาทสำคัญของกายภาพบำบัดในการฟื้นฟู


ภาวะไหล่ติดคืออะไร?

ผู้เชี่ยวชาญ อธิบายถึงภาวะไหล่ติดคือการอักเสบของเส้นเอ็นและแคปซูลหุ้มข้อบริเวณข้อไหล่ แคปซูลหุ้มข้อนี้โดยปกติจะมีลักษณะยืดหยุ่นและช่วยรองรับการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ แต่เมื่อเกิดการอักเสบขึ้น แคปซูลนี้จะค่อย ๆ หนาตัวขึ้น ตึงตัว และเกิดการหดรั้ง ทำให้พื้นที่ภายในข้อไหล่ลดลง การเคลื่อนไหวของกระดูกต้นแขนที่อยู่ในเบ้าข้อไหล่จึงถูกจำกัดไปด้วย

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง


ภาวะไหล่ติดสามารถเกิดขึ้นได้โดยมีสาเหตุที่หลากหลาย บางครั้งอาจเริ่มต้นจากเพียงการเคลื่อนไหวแขนที่ผิดท่าเล็กน้อยหรือการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยที่ผู้ป่วยอาจจำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ภาวะนี้ยังมีความเชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับโรคประจำตัวบางชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะไหล่ติดได้สูงกว่าคนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ยังรวมถึง:

  • การไม่เคลื่อนไหวหัวไหล่เป็นเวลานาน เช่น หลังการผ่าตัด, หลังการบาดเจ็บ, หรือการใส่เฝือก
  • โรคไทรอยด์
  • โรคพาร์กินสัน
  • โรคหัวใจและหลอดเลือดบางชนิด

กลไกที่โรคเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะไหล่ติดยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่อาจเกี่ยวข้องกับการอักเสบในร่างกายหรือการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

อาการและการดำเนินของโรค

ภาวะไหล่ติดมักมีการดำเนินของโรคเป็น 3 ระยะ

  1. ระยะปวด: เป็นระยะแรกที่ผู้ป่วยเริ่มมีอาการปวดที่หัวไหล่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเคลื่อนไหว อาการปวดมักจะรุนแรงขึ้นในเวลากลางคืน ในระยะนี้ การเคลื่อนไหวของข้อไหล่จะค่อยๆ ถูกจำกัดลง ผู้ป่วยจะเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถยกแขนขึ้น, หมุนแขนออก หรือหมุนแขนเข้าได้เท่าเดิม ระยะนี้อาจคงอยู่ได้ตั้งแต่ 2-9 เดือน
  2. ระยะยึดติด:  ในระยะนี้ อาการปวดมักจะลดลงหรือคงที่ แต่อาการข้อไหล่ติดจะเด่นชัดที่สุด การเคลื่อนไหวของหัวไหล่ถูกจำกัดอย่างมาก ทำให้ทำกิจวัตรประจำวันได้ลำบาก เช่น หวีผม ใส่เสื้อผ้า ติดกระดุม หรือเอื้อมหยิบของ ระยะนี้อาจกินเวลานาน 4-12 เดือน
  3. ระยะฟื้นตัว: เป็นระยะที่การเคลื่อนไหวของข้อไหล่เริ่มกลับคืนมาอย่างช้าๆ อาการติดขัดค่อยๆ ดีขึ้น ผู้ป่วยเริ่มขยับแขนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ระยะนี้เป็นระยะที่ยาวนานที่สุด โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ 5 เดือนถึง 2 ปี หรือในบางกรณีอาจนานกว่านั้น

การวินิจฉัย

การวินิจฉัยภาวะไหล่ติดส่วนใหญ่อาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกายโดยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด ผู้เชี่ยวชาญจะทดสอบพิสัยการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ ทั้งแบบที่ผู้ป่วยขยับเอง (Active ROM) และแบบที่ผู้ตรวจช่วยขยับ (Passive ROM) หากพบว่าทั้งการเคลื่อนไหวแบบ Active และ Passive ROM ถูกจำกัดในหลายทิศทาง โดยเฉพาะการหมุนแขนออก (External Rotation) มักจะบ่งชี้ถึงภาวะไหล่ติด การตรวจภาพถ่าย เช่น X-ray หรือ MRI อาจทำในบางกรณีเพื่อแยกแยะภาวะอื่น ๆ ที่อาจมีอาการคล้ายกัน เช่น ข้อไหล่เสื่อม หรือการฉีกขาดของเส้นเอ็น

แนวทางการรักษาและการฟื้นฟู

แม้ว่าในหลายกรณีภาวะไหล่ติดสามารถค่อย ๆ ฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 1.5 – 2 ปี แต่กระบวนการนี้อาจสร้างความทรมานและข้อจำกัดในการใช้ชีวิตเป็นเวลานาน การแทรกแซงทางการแพทย์และการฟื้นฟูจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยบรรเทาอาการปวด เร่งกระบวนการฟื้นตัว และป้องกันการสูญเสียการเคลื่อนไหวอย่างถาวร

บทบาทของกายภาพบำบัด: กายภาพบำบัดถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาภาวะไหล่ติด นักกายภาพบำบัดจะประเมินสภาพผู้ป่วยอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล ซึ่งอาจประกอบด้วย:

  • การบริหารเพื่อเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหว: เป็นหัวใจหลักของการฟื้นฟู โดยมีเป้าหมายเพื่อยืดคลายแคปซูลข้อที่ตึงตัว การบริหารจะค่อยๆ เพิ่มความยืดหยุ่นและความสามารถในการเคลื่อนไหวของข้อไหล่ ควรทำอย่างสม่ำเสมอและถูกต้องตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด
  • การจัดการความปวด: อาจใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด เช่น อัลตราซาวด์, แผ่นร้อน/เย็น, หรือการประคบเพื่อช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ
  • การเสริมสร้างความแข็งแรง: เมื่ออาการปวดและข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวดีขึ้น อาจมีการออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบ ๆ หัวไหล่ เพื่อเพิ่มความมั่นคงและการทำงานของข้อไหล่

การรักษาอื่นๆ:

  • การใช้ยา: แพทย์อาจพิจารณาให้ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด โดยเฉพาะในระยะแรก
  • การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์: การฉีดยาเข้าในข้อไหล่สามารถช่วยลดการอักเสบและอาการปวดได้อย่างรวดเร็วในบางราย
  • การขยับข้อภายใต้การดมยาสลบ: เป็นหัตถการที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการขยับข้อไหล่ของผู้ป่วยภายใต้การดมยาสลบ เพื่อคลายการยึดติด มักใช้ในกรณีที่ภาวะไหล่ติดมีความรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ
  • การผ่าตัดส่องกล้อง: ในกรณีที่รุนแรงและเรื้อรัง อาจพิจารณาการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อตัดส่วนของแคปซูลข้อที่หนาและหดรั้งออก

ข้อควรระวังและคำแนะนำ

ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลที่ถูกต้อง และให้ข้อควรระวังเกี่ยวกับการออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูหัวไหล่ที่พบได้ทั่วไปทางออนไลน์ การทำท่าบริหารที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง อาจทำให้อาการแย่ลงหรือเกิดการบาดเจ็บเพิ่มเติมได้

คำแนะนำที่สำคัญที่สุดคือ

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่น ๆ: หากคุณเริ่มมีอาการปวดหรือข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ ควรรีบไปพบแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและเริ่มการรักษาตั้งแต่ระยะแรก การดูแลที่รวดเร็วมีแนวโน้มที่จะให้ผลการรักษาที่ดีกว่าและช่วยเร่งกระบวนการฟื้นตัว
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของนักกายภาพบำบัด: การทำท่าบริหารที่ถูกต้องและสม่ำเสมอตามโปรแกรมที่นักกายภาพจัดให้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัว
  • หลีกเลี่ยงการฝืน: แม้การบริหารจะช่วยเพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหว แต่ไม่ควรฝืนทำจนรู้สึกปวดรุนแรง ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายใต้ขีดจำกัดที่เหมาะสม

สรุป

ภาวะไหล่ติดเป็นภาวะที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว และอาจสร้างความท้าทายให้กับผู้ป่วย แต่ด้วยความเข้าใจในธรรมชาติของโรค การวินิจฉัยที่ถูกต้อง และการดูแลรักษาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทของกายภาพบำบัด ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของหัวไหล่ให้กลับคืนมาได้ในระดับที่ดี การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะภาวะไหล่ติดและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง


ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ :  ศ.ดร.กภ.ประวิตร เจนวรรธนะกุล นักกายภาพบำบัดระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ นายกสภากายบำบัด สัมภาษณ์เมื่อ 20 มีนาคม 2568

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
เรียบเรียงโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]