ส่องทีมสิ่งแวดล้อมทรัมป์ 2.0 ตัวแทนบริษัทก่อมลพิษยกแผง


11 กุมภาพันธ์ 2568
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


การขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของ โดนัลด์ ทรัมป์ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายหลายอย่างในหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐ

หนึ่งในนั้นคือบุคลากรในสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ที่ได้รับการเปิดเผยว่า เต็มไปด้วยบุคคลที่เคยเป็นตัวแทนองค์กรธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันและสารเคมี ซึ่งเป็นตัวการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม


1.ลี เซลดิน

ตัวเต็งตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ได้แก่ ลี เซลดิน ทนายความและอดีตสมาชิกรัฐสภา ซี่งได้รับการเสนอชื่อโดย โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน

ในช่วงที่ผู้นำสหรัฐฯ ถูกดำเนินคดีถอดถอนออกจากตำแหน่งในปี 2019 ลี เซลดิน ถือเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนที่ภักดีที่สุดของ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยทรัมป์ชื่นชมภูมิหลังทางกฎหมายของเซลดินและความภักดีต่อนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของเขา


ในอดีต ลี เซลดิน เคยทั้งยอมรับและไม่ยอมรับการมีอยู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) และเคยออกเสียงทั้งสนับสนุนและคัดค้านนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมในรัฐสภา

โดยในช่วง 8 ปีที่เขาดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขาลงคะแนนเสียง “ต่อต้านสิ่งแวดล้อม” 203 เสียงและ “สนับสนุนสิ่งแวดล้อม” 32 เสียง ส่งผลให้กลุ่มสิ่งแวดล้อม League of Conservation Voters ให้คะแนนตลอดชีพของเขาที่ 14%

ในวันที่เขาได้รับการแต่งตั้งจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ทาง ลี เซลดิน ได้ประกาศทาง X ว่า เขาจะทำให้การลงทุนด้านพลังงานของสหรัฐฯ กลับมามั่งคั่งอีกครั้ง โดยจะรีบฟื้นฟูอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน พร้อมกับปกป้องการเข้าถึงอากาศสะอาดและน้ำสะอาดในเวลาเดียวกัน

ลี เซลดิน ยังเปิดใจต่อสำนักข่าว Fox News ว่า ใน 100 วันแรก เขาจะยกเลิกกฎระเบียบที่บังคับให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องอยู่ในสภาวะยากลำบาก เพราะมีกฎระเบียบที่รัฐบาลฝ่ายซ้ายบังคับใช้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทำให้ธุรกิจต่าง ๆ เดินไปในทิศทางที่ผิดพลาด

2.เดวิด โฟตูฮี

ส่วนตำแหน่งรองหัวหน้าฝ่ายบริหารสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อได้แก่ เดวิด โฟตูฮี ผู้เคยอยู่ในหน่วยงาน EPA ในช่วงรัฐบาลของทรัมป์ชุดแรกมาก่อน

เดวิด โฟตูฮี เป็นทนายความที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ได้ใช้ความรู้ทางกฎหมายเพื่อการปกป้องบริษัทเอกชนที่ถูกหน่วยงาน EPA ร้องเรียนเรื่องการละเมิดนโยบายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง

เขาเคยเป็นตัวแทนผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าถ่านหินรายใหญ่ เพื่อท้าทายกฎเกณฑ์การป้องกันไม่ให้เถ้าถ่านหินปนเปื้อนน้ำใต้ดิน

ปี 2021 เขาเป็นตัวแทนบริษัทโรงกระดาษ ในคดีฟ้องร้องที่ยื่นโดยเจ้าของที่ดินในรัฐเมน เนื่องจากที่ดินของพวกเขาปนเปื้อนสารเพอร์ฟลูออโรอัลคิลและโพลีฟลูออโรอัลคิล (PFAS) หรือที่เรียกว่า สารเคมีตลอดกาล (Forever Chemicals) ซึ่งเป็นสารเคมีที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อมเป็นเวลานานและเชื่อมโยงกับโรคมะเร็งและโรคอื่น ๆ หลายชนิด

ปี 2023 เดวิด โฟตูฮี ยังท้าทายการห้ามใช้แร่ใยหินของ EPA โดยให้เหตุผลในนามของผู้ผลิตรถยนต์ว่า สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม ล้มเหลวในการแสดงให้เห็นว่า แร่ใยหินก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างสมเหตุผล

การโต้แย้งดังกล่าว เป็นการท้าทายความพยายามของรัฐบาล โจ ไบเดน ที่มีเป้าหมายป้องกันการปนเปื้อนแร่ใยหินในสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมกับอีก 55 ประเทศ ที่ร่วมกันกำหนดมาตรการห้ามใช้แร่ใยหิน ซึ่งพบหลักฐานเชื่อมโยงกับการก่อโรคมะเร็งปอด มะเร็งเยื่อหุ้มปอด มะเร็งรังไข่ และมะเร็งกล่องเสียง

3.อเล็กซ์ โดมิงเกซ

อเล็กซ์ โดมิงเกซ อดีตผู้แทนบริษัทน้ำมันและทำงานให้กับสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน ถูกวางตัวให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยผู้บริหารของ EPA จะมีบทบาทสำคัญในการยกเลิกกฎระเบียบด้านสภาพอากาศที่เกิดจากมลพิษของยานยนต์ ที่รัฐบาลของ โจ ไบเดน เคยตั้งเป้าเอาไว้ ด้วยการกำหนดให้รถยนต์โดยสารรุ่นใหม่มากกว่าครึ่งหนึ่งที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในปี 2032 จะต้องปล่อยมลพิษเป็นศูนย์

การยกเลิกกฎระเบียบด้านสภาพอากาศ เป็นไปตามความต้องการของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน ที่ส่งข้อความเรียกร้องไปถึง โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อขอให้ยกเลิกกฎระเบียบด้านมลพิษจากท่อไอเสีย เนื่องจากการเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้า จะส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมัน

4.ดร.แนนซี เบ็ค

แนนซี เบ็ค อดีตผู้แทนบริษัทเคมีภัณฑ์ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสของ American Chemistry Council ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาอาวุโสของ EPA ด้านความปลอดภัยของสารเคมีและมลพิษ

ในสมัยรัฐบาลของทรัมป์ชุดแรก แนนซี เบ็ค ผลักดันการผ่อนปรนกฎระเบียบเกี่ยวกับสารเคมี ซึ่งการสอบสวนระบุว่าถือเป็นการแทรกแซงทางการเมืองต่อหน่วยงานที่กำหนดนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม

แนนซี เบ็ค ยังร่างกฎเกณฑ์ใหม่ซึ่งทำให้การติดตามผลต่อสุขภาพจากสาร PFAS หรือสารเคมีตลอดกาลทำได้ยากขึ้น เธอยังช่วยผ่อนปรนข้อจำกัดการเข้าถึงแร่ใยหินและสารเมทิลีนคลอไรด์ ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายที่พบในทินเนอร์

5.ดร.ลินน์ แอน เดเคลวา

ลินน์ แอน เดเคลวา อดีตผู้บริหารระดับสูงในกลุ่มการค้าอุตสาหกรรมเคมี และเคยอยู่ในหน่วยงาน EPA ในช่วงรัฐบาลของทรัมป์ชุดแรก โดยครั้งนี้เธอกลับมายัง EPA เพื่อดูแลงานด้านการควบคุมสารเคมีชนิดใหม่

ลินน์ แอน เดเคลวา เคยทำงานให้กับดูปองต์ บริษัทชั้นนำด้านสารเคมีมานานกว่าสามทศวรรษ ซึ่งรายงานของ EPA ระบุว่า ภายใต้การบริหารของดร.เดเคลวา พนักงานจะถูกบังคับให้รับรองสารเคมีชนิดใหม่ และจะถูกเพ่งเล็งหากพวกเขาแสดงความกังวลต่ออันตรายจากสารเคมีดังกล่าว

เจน ดักแกน ผู้อำนวยการบริหารของ Environmental Integrity Project กลุ่มตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม แสดงความเห็นต่อทีมงาน EPA ชุดใหม่ภายใต้การบริหารงานของ โดนัลด์ ทรัมป์ สมัยที่ 2 ว่า เป็นเรื่องน่าตกใจที่ได้เห็นอดีตนักล็อบบี้ยิสต์และทนายความในอุตสาหกรรมด้านพลังงานและเคมี ซึ่งไม่นานมานี้เพิ่งจะถูกว่าจ้างให้มาช่วยต่อสู้กับ EPA ในข้อหาละเมิดนโยบายลดมาตรฐานมลพิษ แต่ปัจจุบันพวกเขากลับได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EPA) ซึ่งพวกเขาจะมีอำนาจล้มล้างกฎระเบียบที่มีไว้เพื่อปกป้องประชาชนจากอุตสาหกรรมด้านพลังงานและเคมีเหล่านั้นนั่นเอง

ดิมิทรี คาราคิตซอส นักล็อบบี้ด้านพลังงานและสารเคมีของพรรครีพับลิกันกล่าวว่า ทีมงาน EPA ชุดใหม่จะนำประสบการณ์จาก 8 ปีที่แล้วมาเป็นบทเรียน ตอนนี้พวกเขามีความเข้าใจนโยบายและขอบข่ายหน้าที่ของ EPA เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้การกำหนดนโยบายมีความราบรื่นกว่าการทำงานในสมัยแรกอย่างมาก

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.nytimes.com/2025/01/25/climate/epa-staff-oil-gas-chemical-industry-lobbyists.html
https://www.factcheck.org/2024/12/where-trumps-picks-for-epa-interior-and-energy-stand-on-climate-change/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]