ชัวร์ก่อนแชร์ : เตือนฉีดยาชา-ทำฟัน หลังรับวัคซีนโควิด-19 ทำให้ตายได้ จริงหรือ ?

14 มิถุนายน 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง/เรียบเรียง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์/พีรพล อนุตรโสตถิ์


ตามที่มีการแชร์ข้อมูลว่า ใครก็ตามที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ห้ามรับการฉีดยาชา ไม่ว่าจะไปถอนฟันหรือทำอะไรก็ตาม เพราะจะทำให้เสียชีวิตได้ ต้องรอให้ผ่าน 1 เดือนไปก่อน แล้วถึงจะฉีดยาชาได้ นั้น ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่เป็นความจริง

บทสรุป :  ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ


·        ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว สามารถฉีดยาชาและทำฟันได้ ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตตามที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย  

·        ไม่มีข้อกำหนดใดระบุว่า ต้องรอ 4 สัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีนแล้ว ถึงจะฉีดยาชาได้

ข้อมูลที่ถูกแชร์

มีการส่งต่อข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก โดยระบุว่า “นี่อะเพิ่งไปอ่านเจอข้อมูลของจีนมา. เขาบอกคนที่ฉีดวัคซันแล้ว ไม่เกิน 1 เดือน ห้ามฉีดยาชาเด็ดขาด. ไม่ว่าจะไปถอนฟัน. หรือทําอะไร.  ต้องผ่าน 1 เดือนไปแล้วถึงฉีดยาชาได้  ที่จีนมีคนไปฉีดวัคซีนแล้วไม่กี่วัน ก็ไปถอนฟัน หมอฟันฉีดยาชาเข้าไปไม่เกิน5 นาที ช็อคตายเลย”


รวมถึง “….ใครก็ตามที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน coronavirus นั้นถูกห้ามไม่ให้ใช้ยาชาทุกชนิดแม้แต่ยาชาเฉพาะที่หรือยาชาที่สำนักงานทันตแพทย์เพราะเป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของบุคคล ที่ได้รับการฉีดวัคซีน มีระดับอันตรายสูงและมีโอกาสเสียชีวิตทันที  ดังนั้นผู้ที่ได้รับวัคซีนจะต้องรอ 4 สัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีน…ญาติของเพื่อนคนหนึ่งได้รับวัคซีนเมื่อสองวันก่อน ไปหาหมอฟันเมื่อวานนี้ และเสียชีวิตทันทีหลังจากได้รับยาชาเฉพาะที่!…” โดยข้อความดังกล่าวได้ถูกส่งต่อเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์เป็นจำนวนมาก

Fack Check : ตรวจสอบข้อเท็จจริง

            ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบจาก เฟซบุ๊กชื่อ Matana Kettratad ซึ่งเป็นของ อ.ทพญ.ดร.มัทนา เกษตระทัต อาจารย์คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยืนยันว่า ในระดับสากล ไม่มีคำแนะนำตามที่แชร์กัน ดังนั้น ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว สามารถฉีดยาชาและทำฟันได้ ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่อย่างใด

ทันตแพทย์ ยืนยัน สามารถทำฟันได้ทั้งก่อนและหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19

อ.ทพญ.ดร.มัทนา เกษตระทัต อาจารย์คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ไม่มีการห้ามเรื่องการใช้ยาชาเฉพาะที่กับผู้ที่เพิ่งได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 และสามารถทำฟันได้ทั้งก่อน และหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ส่วนงานผ่าตัดถอนฟันถ้ามีอาการปวดบวมจำเป็นต้องทำ ก็สามารถทำได้เลยไม่ว่าจะฉีดวัคซีนวันไหน แต่ถ้าเป็นงาน elective สามารถรอก่อน 2-3 วัน แต่ไม่ควรรอเกิน 1 สัปดาห์

* Elective คือ งานที่ไม่เร่งด่วน เช่น อุดฟัน ขูดหินปูน ทำฟันปลอม ฟอกสีฟัน เป็นต้น

“รศ.ดร.เจษฎา” ระบุ ฉีดยาชาทำฟันแล้วเสียชีวิต ไม่ใช่เรื่องจริง

ขณะที่ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ระบุผ่าน   เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว สามารถฉีดยาชา สามารถทำฟันได้นะครับ มีการแชร์ข้อความที่อ้างว่าเป็นข้อมูลมาจากเมืองจีนว่า “หลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วง 1 เดือน ห้ามฉีดยาชา เพราะเคยมีคนจีนที่ฉีดวัคซีนแล้วไปทำฟัน เพราะฉีดยาชา ก็ตายไปใน 5 นาที”!? ไม่จริงนะครับ! คนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว สามารถจะฉีดยาชาได้ตามปกติ ไม่ได้จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตอย่างที่ว่า”

ไม่มีข้อกำหนดใดระบุว่า ต้องรอ 4 สัปดาห์ แล้วถึงฉีดยาชาได้

รศ.ดร.เจษฎา ระบุต่อว่า ประการแรก ไม่ได้มีข้อห้ามเรื่องการฉีดยาชา การทำฟัน หรือจริงๆ แล้ว ก็ไม่ได้ห้ามอะไรเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่เราฉีดวัคซีน covid19 แล้วเรายังกินดื่ม ออกกำลังกาย ดูทีวี เล่นเกม หรือมีเพศสัมพันธ์  ได้ตามปกติเหมือนก่อนที่จะรับการฉีดวัคซีน และชัดเจนว่าไม่มีข้อกำหนดที่ไหน ที่บอกว่าต้องรอ 4 สัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีนแล้วถึงจะฉีดยาชาได้

วัคซีนโควิด-19 ไม่ได้ทำปฏิกิริยาแล้วเปลี่ยนให้ยาชากลายเป็นสารพิษได้

ประการต่อมา วัคซีนโรคโควิดไม่ได้จะไปทำให้ยาชาเปลี่ยนสภาพกลายเป็นยาพิษได้ เพราะการทำงานของวัคซีนนั้น ก็เพียงแค่ทำให้ร่างกายเรารับสัญญาณของการมีโปรตีนเชื้อไวรัสโควิดเข้ามา และกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เรียนรู้จดจำวิธีการสร้างสารแอนติบอดี้ขึ้นมาต่อสู้ เมื่อมีเชื้อโรคเข้ามาอยู่จริงๆ วัคซีนไม่ได้จะไปทำปฏิกิริยาอื่นๆกับร่างกายที่จะไปเปลี่ยนให้ยาชากลายเป็นสารพิษได้

การใช้ยาชาในปริมาณที่สูงมากอาจมีผลต่อความดันโลหิตได้

“ประการสำคัญคือ ไม่เคยมีข่าวเรื่องที่คนฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วไปทำฟันและเสียชีวิตเพราะฉีดยาชา ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริง ต้องเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกไปแล้ว ดังนั้น เรื่องที่กล่าวอ้างกันรู้ ก็เป็นเพียงแค่ข่าวปลอมโรคโควิดจากประเทศจีนอีกเรื่องนึง ในหลายร้อยหลายพันเรื่อง ที่ผ่านมาแล้วครับ ปล. อย่างไรก็ตาม เวลาไปทำฟันหรือหาหมอด้วยโรคใดๆ ที่ต้องฉีดยาชา ก็อาจจะแจ้งคุณหมอหน่อยว่าไปฉีดวัคซีน covid มา เพราะการใช้ยาชาในปริมาณที่สูงมากๆ อาจจะมีผลต่อความดันโลหิตได้ ซึ่งถ้าพึ่งฉีดวัคซีนมาใหม่ๆ อาจส่งผลเสริมต่อผลข้างเคียงของวัคซีนที่อาจเกิดขึ้น คุณหมอจะได้ปรับปริมาณยาชาให้เหมาะสม ข้อมูลจาก https://www.techarp.com/science/anaesthetic-kill-covid-19/?amp=1&fbclid=IwAR2lkeP_NIP24tZ5JpXKR93hbfJ54HIit49__H0gc4zqsyqDVBPD8bHdBCA” รศ.ดร.เจษฎา ระบุ

“RCS-CDC” ระบุตรงกันว่า การทันตกรรมหรือผ่าตัดเร่งด่วนสามารถทำได้ทันที

อ.ทพญ.ดร.มัทนา เกษตระทัต อาจารย์คณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังให้ข้อมูลอ้างอิงถึงแนวปฏิบัติ 2 ฉบับ ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีการระบุห้ามใช้ยาชาแต่อย่างใด

Royal College of Surgeons of England  (RCS) ระบุข้อมูลสําหรับศัลยแพทย์เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของผู้ป่วยที่รอการผ่าตัดว่า การผ่าตัดเร่งด่วนและจําเป็น ควรเกิดขึ้นโดยทันที โดยไม่ต้องคํานึงถึงสถานะการฉีดวัคซีน ส่วนการผ่าตัดที่ไม่เร่งด่วนสามารถรอก่อน 2-3 วันได้ หรือมากที่สุดคือ 1 สัปดาห์ เพื่อจะได้แยกอาการได้ว่า หากคนไข้มีไข้เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีน หรือภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด

Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ระบุสิ่งที่สามารถทําได้ก่อนหรือหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 ดังนี้ 1.งานที่เกี่ยวกับเลือด 2.ขั้นตอนทางทันตกรรม 3.การสแกน CT 4. สิ่งที่เกี่ยวกับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKGs) 5. การทดสอบความเครียดของหัวใจ 6.การส่องกล้องลําไส้ใหญ่ 7.อัลตราซาวด์ 8.การสอบคัดกรองทางการแพทย์อื่น ๆ อย่างไรก็ตามสามารถปรึกษากับแพทย์หากมีคําถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนทั้งก่อนและหลัง 

กรมการแพทย์” โดยสถาบันทันตกรรมแจงวัคซีนโควิด 19 ไม่มีผลต่อการรักษาทางทันตกรรม

วันที่ 15 มิถุนายน 2564 นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึง ปัจจุบันพบว่า มีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อออนไลน์ ประเด็นมีผู้ได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยาชาในการรักษาทางทันตกรรม หลังรับวัคซีนโควิด 19 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อประชาชน โดยการรักษาทางทันตกรรมที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาชาร่วมด้วยนั้น สามารถทำได้ทั้งก่อนและหลังการรับวัคซีนโควิด 19 ภายใต้ความปลอดภัยของผู้ป่วยและประสิทธิผลการรักษาที่ดีที่สุด ซึ่งก่อนการรักษาควรได้รับคำแนะนำและประเมินตามขั้นตอนโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

“ทันตแพทย์” ระบุยาชาที่ใช้ทางทันตกรรมมี 2 รูปแบบ ไม่มีผลต่อภูมิคุ้มกันทั้งก่อนและหลังฉีดวัคซีนโควิด

ทันตแพทย์หญิงสุมนา โพธิ์ศรีทอง ทันตแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาชาที่ใช้ในการรักษาทางทันตกรรม ประกอบด้วย ตัวยาชา ยาที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่วนของสารป้องกันการเสื่อมสลายของยาทั้งสองชนิด และส่วนของตัวทำละลาย โดยยาชาที่ใช้ทางทันตกรรม มี 2 รูปแบบคือ ยาชาชนิดฉีด และชนิดเจล ใช้เพื่อระงับความรู้สึกในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา และบรรเทาอาการปวดภายหลังการรักษา ซึ่งไม่มีผลต่อภูมิคุ้มกันทั้งก่อนและหลังการรับวัคซีนโควิด 19 ในปริมาณยาชาที่เหมาะสมและถูกต้อง ดังนั้นผู้ที่เข้ารับการรักษาทางทันตกรรมสามารถรับการฉีดยาชา เพื่อทำหัตถการทางทันตกรรมได้อย่างปลอดภัย

“ทั้งนี้ในหัตถการที่ไม่เร่งด่วน ควรเข้ารับการรักษาก่อนรับวัคซีนหรือภายหลังรับวัคซีนโควิด-19 2-3 วัน แต่ไม่เกิน 1 สัปดาห์ เพื่อลดความคลาดเคลื่อนในการวินิจฉัยแยกโรค เช่น ภาวะไข้ ว่ามีอาการข้างเคียงจากการรักษาทางทันตกรรมหรืออาการข้างเคียงจากวัคซีน ส่วนในกรณีอาการฉุกเฉินเร่งด่วนทางทันตกรรม สามารถขอคำแนะนำและรับคำปรึกษา รวมถึงประเมินอาการจากทันตแพทย์ได้ ตามแนวทางบริการทางทันตกรรมวิถีใหม่ New Normal Dental Services”ทันตแพทย์หญิงสุมนา กล่าว

ข้อมูลอ้างอิง
https://m.facebook.com/728270582/posts/10157603795240583/?d=n
https://www.rcseng.ac.uk/coronavirus/vaccinated-patients-guidance/
https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/vaccines/expect/other-procedures.html
https://www.facebook.com/jessada.denduangboripant/posts/2198595503604405
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2127880084021415&id=643148052494633

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย