ชัวร์ก่อนแชร์ : เปิดไทม์ไลน์ข่าวปลอม “ไทยกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดโควิด-19 เฟส 3”

30 มีนาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


ตามที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เฟส 3” พร้อมระบุรายชื่อสถานที่ที่ไม่ควรเดินทางไปนั้น เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วพบว่า “ไม่เป็นความจริง”

บทสรุป : ไม่เป็นความจริง เป็นประเด็นเก่าที่มีการแชร์ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2563 ที่ผ่านมา และถูกนำกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง

ไทม์ไลน์

·      26 ก.พ. 63 เริ่มพบต้นตอการแชร์ข้อมูล “ด่วน สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน…”
·      24 ก.พ. 63 สธ. แถลงข่าวพร้อมรับมือหากเกิดการระบาดในระยะ 3
·      12 มี.ค. 63 สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิดเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย
·      13 มี.ค. 63 พบการแชร์ 30 พื้นที่เสี่ยง ที่ผู้ป่วยกลุ่มก้อน 11 ราย เดินทางไป
·      6 ก.ย. 63 ข้อความประเทศไทยเข้าสู่เฟส 3 ถูกแชร์อีกครั้ง แต่เพิ่มพื้นที่เสี่ยงเข้ามา
·      3 ก.ย. 63 สธ.แถลงข่าวพบผู้ต้องขังติดโควิดรายแรกในรอบ 100 วัน
·      ข้อความที่ถูกแชร์รวมข้อมูลวันที่ 26 ก.พ.63 และ 13 มี.ค.63 เข้าด้วยกัน
·      11 ม.ค. 64 ข้อมูลเท็จวนกลับมาแชร์ซ้ำรอบที่ 3
·      25 มี.ค. 64 กรมควบคุมโรคยืนยันประเทศไทยยังไม่เข้าสู่เฟส 3 ขออย่าเชื่อข้อมูลเท็จ


ข้อความที่ถูกแชร์

ด่วน!!!  สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน ตั้งใจฟังให้ดี ประเทศไทยกำลังเข้าเฟส 3 เฝ้าระวังผู้ป่วยเป็นพัน งดเข้าที่ชุมชนแออัด ใส่หน้ากากป้องกันตนเองดีที่สุด // แถลงการณ์ทุกช่องละ ตอนนี้

ศรีนครินทร์ ฉะเชิงเทรา บิ๊กซีพระรามสี่ เซ็นทรัลพระรามสาม ตลาดนัดจตุจักร สะพานขาว เดอะมอลล์บางกะปิ ระยอง จันทบุรี รังสิต สระบุรี ปากช่อง สมุย เซ็นทรัลอิสวิว สยามพารากอนสยามเซ็นเตอร์พระรามเก้า ปิ่นเกล้า เหม่งจ๋าย อารีย์ พาหุรัด เยาวราช ทาวน์อินทาวน์ Show DC สำเพ็ง ราชวิถี วัดราชกุญชรซอยลาซาล สุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ Big c เอกมัย BTS เอกมัย เพลินจิต ชิดลม  ทองหล่อ เป็นพื้นที่สีแดงแล้วนะ ระวังด้วยค่ะ


สืบหาต้นตอ

เปิดต้นตอการแชร์ เริ่มพบ 26 ก.พ. 63!

ข้อความการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 พบในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 โดยเริ่มจากการส่งต่อข้อความสั้นๆ ผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย “ด่วน สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน ตั้งใจฟังให้ดี ประเทศไทยกำลังเข้าเฟส 3 เฝ้าระวังผู้ป่วยเป็นพัน งดเข้าที่ชุมชนแออัด ใส่หน้ากากป้องกันตนเองดีที่สุด” พร้อมคลิปวิดีโอการแถลงข่าว ณ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข

24 ก.พ. 63 สธ. แถลงพร้อมรับมือหากเกิดการระบาดในระยะ 3

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบความเชื่อมโยงแล้วพบว่า ก่อนวันที่จะมีการแชร์ข้อมูลว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3 นั้น ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 โดยในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวในนาทีที่ 11.52 มีการระบุว่า “…..ระยะต่อไปหลังจากนี้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมต่างๆ จะเป็นตัวกำหนดของการแพร่ระบาดในระยะต่อไปหรือระยะที่เราเรียกว่าระยะที่ 3 ก็จะมีการชี้แจงเข้าไปทุกหน่วย…..”

สาธารณสุขย้ำไม่ใช่การแพร่ระบาดในรอบที่ 3

จากนั้นในนาทีที่ 25.53 ของคลิปวิดีโอมีการสอบถามเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิดในระยะที่ 3 ว่า “…..รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข อาจมีการประกาศให้เป็นระยะ 3 ที่นี้ว่าการระบาดระยะ 3 มันจะใช่หรือป่าว เพราะเรายังยืนยันอยู่ที่ระยะ 2 แล้วถ้าระยะ 3 มันจะก่อให้เกิดการแพนิคหรือไม่….”

จากนั้นนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงทันทีภายหลังมีการสอบว่า ในช่วงบ่ายวันนี้( 24 ก.พ.63) จะมีประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติที่รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน และคณะกรรมการอีก 30 ท่าน ขอนำเรียนว่าวาระสำคัญวาระหนึ่งก็คือพิจารณาการประกาศโรคติดต่ออันตราย ส่วนประเด็นพิจารณาประกาศระยะ 3 ไม่ได้อยู่ในวาระ อย่างไรก็ตามการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยอยู่ในเชิงรุกตลอด แม้ตอนนี้เราจะอยู่ในระยะ 2 ต้นๆ แต่เราทำงานในเชิงรุกตลอด ซึ่งหมายความว่า เราจะมีการเตรียมแผนเพื่อรับมือไว้ในระยะ 3 อยู่แล้ว

ตัวคลิปวิดีโอไม่ระบุวันที่ชัดเจน เป็นบ่อเกิดของความเข้าใจที่คาดเคลื่อน

ข้อความดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนสับสน เกิดความตื่นตระหนก และเข้าใจว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยได้เข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคในระลอก 3 แล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะบริบทของการแถลงข่าวในวันดังกล่าว เป็นเพียงการชี้แจงการเตรียมความพร้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดในระยะที่ 3 ไม่ได้เป็นการแถลงข่าวว่าประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในรอบที่ 3 อีกทั้งคลิปวิดีโอที่มีการแถลงข่าว ไม่ได้มีภาพหรือข้อความที่แสดงถึงวันที่ เดือน ปี ในการแถลงข่าว ดังนั้นเมื่อมีการส่งต่อคลิปวิดีโอ อาจทำให้ผู้รับสารเข้าใจว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวันเวลาที่ได้รับคลิปวิดีโอในช่วงเวลานั้นๆ 

12 มี.ค. 63 สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิดเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย

วันที่ 12 มีนาคม 2563 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ในวันนี้(12 มี.ค.63) มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้ 1 ราย เป็นหญิงอายุ 62 ปี รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และพบผู้ป่วยยืนยันเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย อายุ 25 – 38 ปี เป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นการค้นพบจากการขยายการคัดกรองการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน

13 มี.ค. 63 พบการแชร์ 30 พื้นที่เสี่ยง ที่ผู้ป่วยกลุ่มก้อน 11 ราย เดินทางไป

ภายหลังการแถลงข้อมูลการพบผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน 11 ราย ประชาชนได้ส่งข้อมูลเข้ามาสอบถามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ในวันที่ 13 มีนาคม 2563 ถึงการแชร์ข้อความ 30 สถานที่ ที่ผู้ป่วยกลุ่มก้อน 11 ราย ได้เดินทางไป โดยเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุข ออกมาชี้แจงว่า เรื่องพื้นที่เสี่ยงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่หลักๆ เราควรปรับพฤติกรรมในการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัย สิ่งสำคัญคือการล้างมือให้สะอาด และไม่ไปสัมผัสบริเวณใบหน้าและดวงตา

6 ก.ย. 63 ข้อความประเทศไทยเข้าสู่เฟส 3 วนกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง แต่เพิ่มพื้นที่เสี่ยงเข้ามา

จากนั้นในวันที่ 6 กันยายน 2563 ข้อมูลที่ระบุว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3 ได้ถูกนำมาเผยแพร่อีกครั้ง ผ่านผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
รายหนึ่ง แต่ได้มีการเพิ่มเติมสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาด้วย โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวมีผู้ติดตามมากกว่า 4,105 คน และมีการแชร์ข้อมูลต่อไปอีก 11 ครั้ง ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวออกมา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ผลิตอินโฟรกราฟิกออกมาชี้แจงภายในวันเดียวกัน(6 กันยายน 2563) ว่า เป็นข่าวปลอม

3 ก.ย. 63 สธ.แถลงข่าวพบผู้ต้องขังติดโควิดรายแรกในรอบ 100 วัน

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบ แล้วพบว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าว กรณีพบผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรก ในรอบ 100 วัน ที่ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ เป็นผู้ต้องขังใหม่ อยู่ในทัณฑสถานบําบัดพิเศษกลาง เข้ามาในเรือนจำวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ตรวจพบว่าติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 ซึ่งในห้องมีผู้ต้องขังอื่นร่วมด้วย 30 คน

 “กรณีนี้เป็นการตรวจพบผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อยู่ระหว่างการกักกันก่อนที่จะเข้าสู่แดนปกติของทัณฑสถาน รายนี้เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ หลังจากที่ผ่านมา 100 วัน ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อในประเทศ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ดำเนินการสอบสวนโรค ซึ่งพบว่ามีผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ” นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในช่วงการแถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก ในรอบ 100 วัน ที่ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ

ข้อความที่พบในวันที่ 6 ก.ย.63 เป็นการรวมข้อความของวันที่ 26 ก.พ.63 และ 13 มี.ค.63 เข้าด้วยกัน

การแถลงข่าวครั้งนี้ของกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นการแถลงข่าวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 เนื่องจากเป็นการพบผู้ป่วยรายแรก ในรอบ 100 วัน ที่ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ข้อความที่พบในวันที่ 6 กันยายน 2563 เป็นการนำข้อมูลข่าวปลอมที่พบในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 และ ข้อมูลเท็จที่พบในวันที่ 13 มีนาคม 2563 มารวมกัน

11 ม.ค. 64 ข้อมูลเก่าวนกลับมาแชร์ซ้ำรอบที่ 3

ล่าสุด การแชร์ข้อความว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3 ของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้วนกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง โดยมีประชาชนส่งข้อมูลดังกล่าวมาสอบถามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ว่าเป็นความจริงหรือไม่ และมีการส่งต่อข้อมูลดังกล่าวเข้ามาสอบถามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์มากขึ้นเรื่อยๆ และสอบถามข้อมูลเข้ามาอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2564  

25 มี.ค. 64 กรมควบคุมโรคยืนยันประเทศไทยยังไม่เข้าสู่เฟส 3 ขออย่าเชื่อข้อมูลเท็จ

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์จึงได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา และพบว่า “ไม่เป็นความจริง”  โดยกรมควบคุมโรคได้ขอความร่วมมืออย่าหลงเชื่อข่าวปลอมดังกล่าว และขอให้ติดตามสถานการณ์การประกาศจากช่องทางหลักของกรมฯ

อย่างไรก็ตามการแชร์ข่าวปลอมข้อมูลเท็จในครั้งนี้ อาจเริ่มมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับ Cluster ที่ จ.สมุทรสาคร ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และพบตัวเลขผู้ป่วยระดับนิวไฮ ของ Cluster ที่ จ.สมุทรสาครเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา รวมถึงการติดเชื้อโควิด-19 ของดีเจดังในช่วงกลางเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่การระบาดในเฟส 3 แล้วหรือไม่

บทสรุป : ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่การระบาดใหญ่รอบที่ 3 มักพบข้อมูลเท็จภายหลังการแถลงข่าวใหญ่จากทางการ

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงการแชร์ข้อความว่า “ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เฟส 3” นั้น ไม่เป็นความจริง และ มีจุดสังเกตว่า ทุกครั้งที่มีการแถลงข่าวจากทางราชการเมื่อพบสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งสำคัญ หรือพบการระบาดใหญ่ในกลุ่มคนหมู่มาก มักจะมีข่าวปลอม ข้อมูลเท็จเผยแพร่ตามมาในภายหลัง ซึ่งอาจจะเป็นการตื่นตระหนก หรือฟังสารไม่ครบถ้วน แล้วเกิดการส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่คาดเคลื่อน นำมาสู่การแชร์ข่าวปลอม ข้อมูลเท็จโดยไม่ตั้งใจ หรืออาจจะมีขบวนการเผยแพร่ข่าวปลอมเพื่อหวังให้เกิดอะไรบางอย่างขึ้นในสังคมก็เป็นอีกเรื่องที่น่าคิด

ข้อมูลอ้างอิง

1.[Live] แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
https://www.facebook.com/127034180656279/videos/220092839168989
2.ด่วน!!!  สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน ตั้งใจฟังให้ดี
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3339534396272186&id=100006469767348
3.กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1475254409327440&id=470988516420706
4. แถลงข่าววันที่ 3 กันยายน 2563 กรณีผู้ต้องขังติดโควิด
https://www.facebook.com/470988516420706/videos/329252695155021
5.ข่าวปลอม อย่าหลงเชื่อ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1635436189975927&id=470988516420706
6. [Live] การแถลงข่าวจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด19 หรือ ศบค.ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลวันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/239551237663208
7.รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2563
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/27100
8.กรมควบคุมโรค ชี้แจงกรณีมีการแชร์ข่าว“สธ.ประกาศฉุกเฉิน และประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3” ไม่เป็นความจริง ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1635603739959172&id=470988516420706

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” พรุ่งนี้

ทำเนียบ 15 มิ.ย.-รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ ต้อนรับ “โอปอล สุชาตา” Miss World 2025 ร่วมโชว์พลังหญิง นำเสนอวัฒนธรรมที่สร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยในทุกมิติ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2568) รัฐบาลเตรียมเปิดตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับ “โอปอล” นางสาวสุชาตา ช่วงศรี Miss World คนแรกของประเทศไทย ที่เพิ่งคว้ามงกุฎระดับโลกในการประกวด Miss World ประจำปี 2025 ที่ประเทศอินเดีย มีกำหนดการเข้าพบนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเวลา 10.00 น. การพบปะกันในครั้งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของสตรีไทย ที่สามารถสร้างชื่อเสียงและแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิสตรี การศึกษา และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในปัจจุบัน การเข้าเยี่ยมคารวะของ Miss World 2025 ยังเป็นการส่งสารเชิงบวกต่อประชาคมโลกว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านความเท่าเทียมทางเพศอีกด้วย […]