ชัวร์ก่อนแชร์ : เปิดไทม์ไลน์ข่าวปลอม “ไทยกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดโควิด-19 เฟส 3”

30 มีนาคม 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์


ตามที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า “ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เฟส 3” พร้อมระบุรายชื่อสถานที่ที่ไม่ควรเดินทางไปนั้น เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วพบว่า “ไม่เป็นความจริง”

บทสรุป : ไม่เป็นความจริง เป็นประเด็นเก่าที่มีการแชร์ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2563 ที่ผ่านมา และถูกนำกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง

ไทม์ไลน์

·      26 ก.พ. 63 เริ่มพบต้นตอการแชร์ข้อมูล “ด่วน สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน…”
·      24 ก.พ. 63 สธ. แถลงข่าวพร้อมรับมือหากเกิดการระบาดในระยะ 3
·      12 มี.ค. 63 สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิดเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย
·      13 มี.ค. 63 พบการแชร์ 30 พื้นที่เสี่ยง ที่ผู้ป่วยกลุ่มก้อน 11 ราย เดินทางไป
·      6 ก.ย. 63 ข้อความประเทศไทยเข้าสู่เฟส 3 ถูกแชร์อีกครั้ง แต่เพิ่มพื้นที่เสี่ยงเข้ามา
·      3 ก.ย. 63 สธ.แถลงข่าวพบผู้ต้องขังติดโควิดรายแรกในรอบ 100 วัน
·      ข้อความที่ถูกแชร์รวมข้อมูลวันที่ 26 ก.พ.63 และ 13 มี.ค.63 เข้าด้วยกัน
·      11 ม.ค. 64 ข้อมูลเท็จวนกลับมาแชร์ซ้ำรอบที่ 3
·      25 มี.ค. 64 กรมควบคุมโรคยืนยันประเทศไทยยังไม่เข้าสู่เฟส 3 ขออย่าเชื่อข้อมูลเท็จ


ข้อความที่ถูกแชร์

ด่วน!!!  สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน ตั้งใจฟังให้ดี ประเทศไทยกำลังเข้าเฟส 3 เฝ้าระวังผู้ป่วยเป็นพัน งดเข้าที่ชุมชนแออัด ใส่หน้ากากป้องกันตนเองดีที่สุด // แถลงการณ์ทุกช่องละ ตอนนี้

ศรีนครินทร์ ฉะเชิงเทรา บิ๊กซีพระรามสี่ เซ็นทรัลพระรามสาม ตลาดนัดจตุจักร สะพานขาว เดอะมอลล์บางกะปิ ระยอง จันทบุรี รังสิต สระบุรี ปากช่อง สมุย เซ็นทรัลอิสวิว สยามพารากอนสยามเซ็นเตอร์พระรามเก้า ปิ่นเกล้า เหม่งจ๋าย อารีย์ พาหุรัด เยาวราช ทาวน์อินทาวน์ Show DC สำเพ็ง ราชวิถี วัดราชกุญชรซอยลาซาล สุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ Big c เอกมัย BTS เอกมัย เพลินจิต ชิดลม  ทองหล่อ เป็นพื้นที่สีแดงแล้วนะ ระวังด้วยค่ะ


สืบหาต้นตอ

เปิดต้นตอการแชร์ เริ่มพบ 26 ก.พ. 63!

ข้อความการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 พบในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 โดยเริ่มจากการส่งต่อข้อความสั้นๆ ผ่านสื่อโซเซียลมีเดีย “ด่วน สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน ตั้งใจฟังให้ดี ประเทศไทยกำลังเข้าเฟส 3 เฝ้าระวังผู้ป่วยเป็นพัน งดเข้าที่ชุมชนแออัด ใส่หน้ากากป้องกันตนเองดีที่สุด” พร้อมคลิปวิดีโอการแถลงข่าว ณ ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข

24 ก.พ. 63 สธ. แถลงพร้อมรับมือหากเกิดการระบาดในระยะ 3

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบความเชื่อมโยงแล้วพบว่า ก่อนวันที่จะมีการแชร์ข้อมูลว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3 นั้น ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวความคืบหน้าของสถานการณ์โรคไวรัสโควิด-19 โดยในช่วงหนึ่งของการแถลงข่าวในนาทีที่ 11.52 มีการระบุว่า “…..ระยะต่อไปหลังจากนี้ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมต่างๆ จะเป็นตัวกำหนดของการแพร่ระบาดในระยะต่อไปหรือระยะที่เราเรียกว่าระยะที่ 3 ก็จะมีการชี้แจงเข้าไปทุกหน่วย…..”

สาธารณสุขย้ำไม่ใช่การแพร่ระบาดในรอบที่ 3

จากนั้นในนาทีที่ 25.53 ของคลิปวิดีโอมีการสอบถามเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิดในระยะที่ 3 ว่า “…..รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข อาจมีการประกาศให้เป็นระยะ 3 ที่นี้ว่าการระบาดระยะ 3 มันจะใช่หรือป่าว เพราะเรายังยืนยันอยู่ที่ระยะ 2 แล้วถ้าระยะ 3 มันจะก่อให้เกิดการแพนิคหรือไม่….”

จากนั้นนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงทันทีภายหลังมีการสอบว่า ในช่วงบ่ายวันนี้( 24 ก.พ.63) จะมีประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติที่รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธาน และคณะกรรมการอีก 30 ท่าน ขอนำเรียนว่าวาระสำคัญวาระหนึ่งก็คือพิจารณาการประกาศโรคติดต่ออันตราย ส่วนประเด็นพิจารณาประกาศระยะ 3 ไม่ได้อยู่ในวาระ อย่างไรก็ตามการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยอยู่ในเชิงรุกตลอด แม้ตอนนี้เราจะอยู่ในระยะ 2 ต้นๆ แต่เราทำงานในเชิงรุกตลอด ซึ่งหมายความว่า เราจะมีการเตรียมแผนเพื่อรับมือไว้ในระยะ 3 อยู่แล้ว

ตัวคลิปวิดีโอไม่ระบุวันที่ชัดเจน เป็นบ่อเกิดของความเข้าใจที่คาดเคลื่อน

ข้อความดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนสับสน เกิดความตื่นตระหนก และเข้าใจว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยได้เข้าสู่การแพร่ระบาดของโรคในระลอก 3 แล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะบริบทของการแถลงข่าวในวันดังกล่าว เป็นเพียงการชี้แจงการเตรียมความพร้อมเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดในระยะที่ 3 ไม่ได้เป็นการแถลงข่าวว่าประเทศไทยเข้าสู่การแพร่ระบาดในรอบที่ 3 อีกทั้งคลิปวิดีโอที่มีการแถลงข่าว ไม่ได้มีภาพหรือข้อความที่แสดงถึงวันที่ เดือน ปี ในการแถลงข่าว ดังนั้นเมื่อมีการส่งต่อคลิปวิดีโอ อาจทำให้ผู้รับสารเข้าใจว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวันเวลาที่ได้รับคลิปวิดีโอในช่วงเวลานั้นๆ 

12 มี.ค. 63 สธ.แถลงพบผู้ป่วยโควิดเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย

วันที่ 12 มีนาคม 2563 นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ในวันนี้(12 มี.ค.63) มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้ 1 ราย เป็นหญิงอายุ 62 ปี รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร และพบผู้ป่วยยืนยันเป็นกลุ่มก้อน 11 ราย อายุ 25 – 38 ปี เป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นการค้นพบจากการขยายการคัดกรองการป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจเป็นกลุ่มก้อน

13 มี.ค. 63 พบการแชร์ 30 พื้นที่เสี่ยง ที่ผู้ป่วยกลุ่มก้อน 11 ราย เดินทางไป

ภายหลังการแถลงข้อมูลการพบผู้ป่วยโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน 11 ราย ประชาชนได้ส่งข้อมูลเข้ามาสอบถามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ในวันที่ 13 มีนาคม 2563 ถึงการแชร์ข้อความ 30 สถานที่ ที่ผู้ป่วยกลุ่มก้อน 11 ราย ได้เดินทางไป โดยเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุข ออกมาชี้แจงว่า เรื่องพื้นที่เสี่ยงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่หลักๆ เราควรปรับพฤติกรรมในการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรสวมหน้ากากอนามัย สิ่งสำคัญคือการล้างมือให้สะอาด และไม่ไปสัมผัสบริเวณใบหน้าและดวงตา

6 ก.ย. 63 ข้อความประเทศไทยเข้าสู่เฟส 3 วนกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง แต่เพิ่มพื้นที่เสี่ยงเข้ามา

จากนั้นในวันที่ 6 กันยายน 2563 ข้อมูลที่ระบุว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3 ได้ถูกนำมาเผยแพร่อีกครั้ง ผ่านผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก
รายหนึ่ง แต่ได้มีการเพิ่มเติมสถานที่ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาด้วย โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวมีผู้ติดตามมากกว่า 4,105 คน และมีการแชร์ข้อมูลต่อไปอีก 11 ครั้ง ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวออกมา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ผลิตอินโฟรกราฟิกออกมาชี้แจงภายในวันเดียวกัน(6 กันยายน 2563) ว่า เป็นข่าวปลอม

3 ก.ย. 63 สธ.แถลงข่าวพบผู้ต้องขังติดโควิดรายแรกในรอบ 100 วัน

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบ แล้วพบว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าว กรณีพบผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรก ในรอบ 100 วัน ที่ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ เป็นผู้ต้องขังใหม่ อยู่ในทัณฑสถานบําบัดพิเศษกลาง เข้ามาในเรือนจำวันที่ 26 สิงหาคม 2563 ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ตรวจพบว่าติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 ซึ่งในห้องมีผู้ต้องขังอื่นร่วมด้วย 30 คน

 “กรณีนี้เป็นการตรวจพบผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อยู่ระหว่างการกักกันก่อนที่จะเข้าสู่แดนปกติของทัณฑสถาน รายนี้เป็นการติดเชื้อภายในประเทศ หลังจากที่ผ่านมา 100 วัน ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อในประเทศ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้ดำเนินการสอบสวนโรค ซึ่งพบว่ามีผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ” นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในช่วงการแถลงข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก ในรอบ 100 วัน ที่ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ

ข้อความที่พบในวันที่ 6 ก.ย.63 เป็นการรวมข้อความของวันที่ 26 ก.พ.63 และ 13 มี.ค.63 เข้าด้วยกัน

การแถลงข่าวครั้งนี้ของกระทรวงสาธารณสุข ถือเป็นการแถลงข่าวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 เนื่องจากเป็นการพบผู้ป่วยรายแรก ในรอบ 100 วัน ที่ไม่มีรายงานตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ และจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ข้อความที่พบในวันที่ 6 กันยายน 2563 เป็นการนำข้อมูลข่าวปลอมที่พบในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 และ ข้อมูลเท็จที่พบในวันที่ 13 มีนาคม 2563 มารวมกัน

11 ม.ค. 64 ข้อมูลเก่าวนกลับมาแชร์ซ้ำรอบที่ 3

ล่าสุด การแชร์ข้อความว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3 ของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้วนกลับมาแชร์ซ้ำอีกครั้ง โดยมีประชาชนส่งข้อมูลดังกล่าวมาสอบถามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ว่าเป็นความจริงหรือไม่ และมีการส่งต่อข้อมูลดังกล่าวเข้ามาสอบถามกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์มากขึ้นเรื่อยๆ และสอบถามข้อมูลเข้ามาอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2564  

25 มี.ค. 64 กรมควบคุมโรคยืนยันประเทศไทยยังไม่เข้าสู่เฟส 3 ขออย่าเชื่อข้อมูลเท็จ

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์จึงได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา และพบว่า “ไม่เป็นความจริง”  โดยกรมควบคุมโรคได้ขอความร่วมมืออย่าหลงเชื่อข่าวปลอมดังกล่าว และขอให้ติดตามสถานการณ์การประกาศจากช่องทางหลักของกรมฯ

อย่างไรก็ตามการแชร์ข่าวปลอมข้อมูลเท็จในครั้งนี้ อาจเริ่มมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นกับ Cluster ที่ จ.สมุทรสาคร ในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และพบตัวเลขผู้ป่วยระดับนิวไฮ ของ Cluster ที่ จ.สมุทรสาครเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา รวมถึงการติดเชื้อโควิด-19 ของดีเจดังในช่วงกลางเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลว่าประเทศไทยกำลังเข้าสู่การระบาดในเฟส 3 แล้วหรือไม่

บทสรุป : ประเทศไทยยังไม่เข้าสู่การระบาดใหญ่รอบที่ 3 มักพบข้อมูลเท็จภายหลังการแถลงข่าวใหญ่จากทางการ

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงการแชร์ข้อความว่า “ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เฟส 3” นั้น ไม่เป็นความจริง และ มีจุดสังเกตว่า ทุกครั้งที่มีการแถลงข่าวจากทางราชการเมื่อพบสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งสำคัญ หรือพบการระบาดใหญ่ในกลุ่มคนหมู่มาก มักจะมีข่าวปลอม ข้อมูลเท็จเผยแพร่ตามมาในภายหลัง ซึ่งอาจจะเป็นการตื่นตระหนก หรือฟังสารไม่ครบถ้วน แล้วเกิดการส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่คาดเคลื่อน นำมาสู่การแชร์ข่าวปลอม ข้อมูลเท็จโดยไม่ตั้งใจ หรืออาจจะมีขบวนการเผยแพร่ข่าวปลอมเพื่อหวังให้เกิดอะไรบางอย่างขึ้นในสังคมก็เป็นอีกเรื่องที่น่าคิด

ข้อมูลอ้างอิง

1.[Live] แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
https://www.facebook.com/127034180656279/videos/220092839168989
2.ด่วน!!!  สาธารณสุขประกาศฉุกเฉิน ตั้งใจฟังให้ดี
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3339534396272186&id=100006469767348
3.กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1475254409327440&id=470988516420706
4. แถลงข่าววันที่ 3 กันยายน 2563 กรณีผู้ต้องขังติดโควิด
https://www.facebook.com/470988516420706/videos/329252695155021
5.ข่าวปลอม อย่าหลงเชื่อ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1635436189975927&id=470988516420706
6. [Live] การแถลงข่าวจาก ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด19 หรือ ศบค.ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลวันศุกร์ที่ 1 มกราคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/239551237663208
7.รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2563
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/27100
8.กรมควบคุมโรค ชี้แจงกรณีมีการแชร์ข่าว“สธ.ประกาศฉุกเฉิน และประเทศไทยกำลังเข้าสู่เฟส 3” ไม่เป็นความจริง ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1635603739959172&id=470988516420706

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย