ชัวร์ก่อนแชร์ : ผลิตภัณฑ์ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ได้ 20 – 30 ปี จริงหรือ ?

19 กุมภาพันธ์ 2564
ตรวจสอบข้อเท็จจริง / เรียบเรียง โดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์, พงศ์อิทธิ์ เชิดชูวงศ์, ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์, กลาง ณัฐนที

บนสังคมออนไลน์ แชร์ภาพพร้อมข้อความแนะนำ ผลิตภัณฑ์ช่วยต่อสู้กับริ้วรอยและความหย่อนคล้อย คืนความอ่อนเยาว์กลับไปได้ 20-30 ปี  ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบกับผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าว “ไม่เป็นความจริง

บทสรุป


  • “ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ” ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ไม่มีครีมหรือสารชนิดใดที่จะชะลอวัยคนได้ 20 – 30 ปี และไม่มีครีมตัวไหนที่ทำให้เราขาวขึ้นอย่างปลอดภัยภายใน 3 – 7 วัน
  • คำแนะนำจากแพทย์ : เคล็ดลับการมีผิวที่สุขภาพดี และสวยได้อย่างปลอดภัย คือการดื่มน้ำมาก ๆ หลบเลี่ยงแสงแดด ใช้ครีมบำรุงผิว และทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

สืบหาต้นตอ ข้อมูลที่ถูกแชร์
บนสังคมออนไลน์ แชร์เว็บไซต์โฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมความงามชนิดหนึ่ง ซึ่งมีภาพและข้อความ อ้างว่าเจ้าสาวอายุ 64 ปี แต่งงานกับชายหนุ่มอายุเพียง 32 ปี  หลังเจ้าสาวใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้ร่างกายและใบหน้าได้ 20-30 ปี เว็บไซต์ดังกล่าวถูกแชร์อย่างแพร่หลายบนโลกออนไลน์ ทำให้มีผู้ส่งเรื่องเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับแพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ได้รับการยืนยันว่า ข้อความโฆษณาผลิตภัณฑ์ดังกล่าว “ไม่เป็นความจริง” พร้อมให้เหตุผลว่า “ไม่มีครีมตัวไหนหรือสารตัวไหนที่จะชะลอวัยคนได้ 20 – 30 ปี ยกเว้นเราไปผ่าตัดดึงหน้า แล้วก็ไม่มีครีมตัวไหนที่ทำให้เราขาวขึ้นอย่างปลอดภัยภายใน 3 – 7 วัน”

แพทย์หญิงมิ่งขวัญ อธิบายเพิ่มเติมว่า เซลล์ผิวหนังของมนุษย์จะมีวงจรชีวิตหรือระยะเวลาในการผลัดเซลล์ 21 – 28 วัน โดยวัยรุ่นจะใช้เวลาประมาณ 21 วัน เมื่ออายุมากขึ้นจะใช้เวลาประมาณ 28 วัน เพราะฉะนั้นจะต้องใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ ในการบำรุงผิวให้เห็นผลอย่างชัดเจน

“หากพบโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าทำให้ผิวดีขึ้นภายใน 3 – 7 วัน ให้ตั้งข้อสงสัยเบื้องต้นว่า ไม่น่าเป็นไปได้ในทางวิชาการ” ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าว

แนะนำวิธีตรวจสอบโฆษณาที่เกินจริงด้วยตนเอง
เว็บไซต์ดังกล่าวอ้างว่า ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้สกัดจากธรรมชาติ มีใบรับรองและมาตรฐานในการผลิต พร้อมมีข้อความสนับสนุนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนข้อมูลส่วนตัว เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังติดต่อกลับ และมีตัวเลขกำกับระยะเวลาในการกดสั่งซื้อสินค้าราคาโปรโมชั่นด้วย

ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง แนะนำว่า ประชาชนสามารถนำชื่อสถาบัน หรือชื่อแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ถูกอ้างอิงไปค้นหาในเว็บไซต์ “แพทยสภา” หากไม่พบ สามารถวิเคราะห์ได้ว่าโฆษณานั้นเป็นเท็จ อีกวิธีคือการนำภาพบนเว็บไซต์ไปค้นหาที่มาของภาพ เพื่อตรวจสอบว่ามีการตัดต่อภาพ หรือมีการแอบอ้างนำภาพมาใช้หรือไม่

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบที่มาของภาพต่าง ๆ บนเว็บไซต์ขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว พบว่ามีความผิดปกติและมีแนวโน้มหลอกลวง โดยภาพที่อ้างว่าเป็นรูปถ่ายเจ้าสาวนั้น นำมาจากเว็บไซต์จำหน่ายภาพออนไลน์ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด ขณะที่ภาพที่อ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ ก็เป็นภาพตัดต่อ ที่นำภาพศีรษะของ ชายสูงอายุ มาซ้อนทับบนภาพถ่ายของ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดังนั้น เว็บไซต์ที่ใช้ภาพอย่างบิดเบือนเหล่านี้ จึงไม่มีความน่าเชื่อถือ

ที่ผ่านมา ภาครัฐบังคับใช้กฎหมายกับเว็บไซต์ที่โฆษณาเกินจริงอย่างเข้มงวด ซึ่งมีด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น เจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่งงานกัน ลูกไม่ให้แม่เข้าบ้านเพราะจำไม่ได้ หรือ ตม.ไม่ให้เข้าประเทศเพราะหน้าไม่เหมือนในพาสปอร์ต ส่วนใหญ่เว็บไซต์เหล่านี้จะปรากฏบนเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อให้คนกดเข้าไปอ่าน

เผยเคล็ดลับในการดูแลผิว ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง
ด้านเคล็ดลับในการดูแลผิว แพทย์หญิงมิ่งขวัญ ให้คำแนะนำว่า อันดับแรกต้องสวยจากภายใน คือเรื่องของจิตใจและอาหารที่รับประทาน ควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง ถัดมาคือสวยจากภายนอก เช่น การทาครีมบำรุงผิวเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ครีมราคาแพง สิ่งสำคัญของผิวคือต้องมีความชุ่มชื้นที่พอเหมาะ เริ่มตั้งแต่กระบวนการทำความสะอาด ควรใช้สบู่ที่เหมาะสม ไม่แรงจนไปลอกความชุ่มชื้นออกจากผิวหนัง เมื่อพบปัญหาผิวหนังเหี่ยวย่นหรือมีริ้วรอย ให้วิเคราะห์หาสาเหตุเพื่อแก้ไขปัญหา ดังนี้

สาเหตุที่ผิวหนังเหี่ยวย่นหรือมีริ้วรอย

  1. อายุที่เพิ่มมากขึ้นตามวัย
    การป้องกัน : ไม่สามารถป้องกันได้ เพราะเป็นกระบวนการของร่างกาย จึงไม่อาจฝืนธรรมชาติได้
  2. แสงแดด โดยเฉพาะแสงแดดจัด
    การป้องกัน : ใช้ครีมกันแดด
  3. มลภาวะหรือการเกิดอนุมูลอิสระ
    การป้องกัน : หลบเลี่ยงมลภาวะ ทาผลิตภัณฑ์ หรือ รับประทานอาหาร ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ

นอกจากนี้ควรระวัง การใช้ครีมบำรุงผิวหรือครีมเร่งผิวขาวที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงทั้งระยะสั้นและระยะยาว เช่น ทำให้แพ้แสง ผิวแดงเห่อ เซลล์สร้างเม็ดสีถูกทำลาย มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนัง หลอดเลือดฝอยขยายตัว และทำให้ผิวกระดำกระด่างได้

บทสรุป : ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ
สำหรับโฆษณาผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยต่อสู้กับริ้วรอยและความหย่อนคล้อย คืนความอ่อนเยาว์กลับไปได้ 20-30 ปี แพทย์หญิงมิ่งขวัญ ยืนยันว่า “ไม่จริง และ ไม่ควรแชร์ต่อ”  ผิวที่ดีก็คือผิวที่มีสุขภาพดี มีความชุ่มชื้นเพียงพอ ไม่มีริ้วรอย สิว และฝ้า ซึ่งเราสามารถดูแลตัวเองได้ ด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ หลบเลี่ยงแสงแดด ใช้ครีมบำรุงผิวและทาครีมกันแดด เราก็จะได้ผิวที่มีสุขภาพดี และสวยได้อย่างปลอดภัย


🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” 🎯
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย