วร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : 4 ปรสิตใกล้ตัวคนไทย ที่มีภัยต่อสมอง

ปรสิตหลายชนิดเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจส่งผลร้าย มีบางชนิดอาจจะส่งผลถึงสมองของเรา มาทำความรู้จัก 4 ปรสิตใกล้ตัวคนไทย ที่มีภัยต่อสมอง


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.ทวี สายวิชัย ภาควิชาปรสิตวิทยาและกีฏวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

“ปรสิต” สิ่งมีชีวิตที่เข้าสู่ร่างกายของเราแล้วอาจส่งผลร้าย และบางชนิดอาจจะมีภัยถึงสมองได้


ตัวที่ 1. “อะมีบา” ?

อะมีบา (Amoeba) หรือเชื้ออะมีบา เป็นสัตว์เซลล์เดียวประเภทโปรโตซัว (protozoa) ชนิดหนึ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า มีขนาดใหญ่กว่าแบคทีเรียไม่มากนัก

ปกติแล้ว “อะมีบา” เข้าสู่ร่างกายคนจากการกินอาหาร ดื่มน้ำ ที่มีการปนเปื้อนของอะมีบาระยะติดต่ออยู่ โดยส่วนใหญ่ปนออกมากับอุจจาระ และอุจจาระไปปนเปื้อนกับผัก ผลไม้ น้ำ เมื่อคนเรากินเข้าไป อะมีบาตัวนี้จะมีผลกับลำไส้ ไปทำลายเซลล์ลำไส้ เมื่อเซลล์ลำไส้ทำงานไม่ได้ก็จะเกิดอาการท้องร่วง และอาการอาจจะรุนแรงกว่าท้องร่วงได้


ถ้าอาการรุนแรง ปรสิตชนิดนี้จะกินเซลล์ลำไส้ลึกลงไปถึงหลอดเลือดฝอยที่มาเลี้ยงลำไส้ เข้าสู่กระแสเลือด จากนั้นส่วนใหญ่จะไปที่ปอดและสมอง เมื่อปรสิตไปที่ไหนก็จะกินเซลล์ตัวนั้น ไปที่สมองก็จะเกิดเป็นฝีที่สมอง

อะมีบาบางชนิดก่อให้เกิดโรคในคนได้ เป็นอะมีบาที่อาศัยเป็นอิสระในธรรมชาติตามแหล่งน้ำ ดิน โคลนเลน มีด้วยกัน 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์เนจีเรีย ฟาวเลอรี (Naegleria fowleri) และสายพันธุ์อะคันทามีบา (Acanthamoeba)

สายพันธุ์เนจีเรีย ฟาวเลอรี ถูกพบเป็นครั้งในปี พ.ศ. 2526 และยังพบในประเทศเขตร้อนหรือเขตอบอุ่นเกือบทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยพบได้จากการสำรวจแหล่งน้ำในหลายจังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ นอกจากนี้ยังมีเพิ่มเติมจากปทุมธานีและสมุทรปราการ ซึ่งพบได้ตามแหล่งน้ำขังในเขตอุตสาหกรรมทั่วไปด้วย 

อะมีบาสายพันธุ์ดังกล่าว สามารถเจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิสูงถึง 45 องศาเซลเซียส พวกมันสามารถพบได้ตามแหล่งน้ำโดยทั่วไป ยกเว้นน้ำกร่อยหรือน้ำทะเล 

ในส่วนของสายพันธุ์อะคันทามีบา ถูกพบครั้งแรก พ.ศ. 2501 สามารถพบได้เกือบทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยมีการสำรวจพบจากแหล่งน้ำธรรมชาติ จังหวัดนครราชสีมา สามารถพบได้ตามแหล่งน้ำ ดิน และโคลนเลนเช่นเดียวกับสายพันธุ์เนจีเรีย ฟาวเลอรี แต่ที่ต่างกันคือ สามารถพบได้ในน้ำกร่อยและน้ำทะเลด้วย โดยจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุดที่อุณหภูมิ 25–35 องศาเซลเซียส 

ตัวที่ 2. ท็อกโซพลาสมา กอนดิอาย

 ท็อกโซพลาสมา กอนดิอาย (Toxoplasma gondii) ตัวนี้เป็น “โปรโตซัว” ปกติก็ก่อโรคบิด เป็นพยาธิที่อยู่ระหว่างหนูกับแมว ระยะติดต่อก็จะปนออกมากับอุจจาระแมว เสร็จแล้วหนูมากินอาหารที่มีการปนเปื้อนกับอุจจาระแมว หนูก็จะได้รับเชื้อโปรโตซัวไป

การเข้าสู่ร่างกายคนของปรสิตชนิดนี้ เกิดจากที่บางครั้งหมู วัว ไก่ กินอาหารที่มีการปนเปื้อนของอุจจาระแมว ก็จะได้รับพยาธิชนิดนี้เข้าไป แล้วคนกินเนื้อสัตว์เหล่านี้ที่ไม่สุก ก็จะมีพยาธิตัวนี้ติดเข้าไปได้

บางคนอาจจะเลี้ยงแมว ตอนเก็บอุจจาระแมวอาจจะมีการปนเปื้อนตามเล็บมือ เวลาไปกินอาหารเราก็ได้รับพยาธิตัวนี้ พยาธิตัวนี้ก็จะไชทะลุลำไส้ เข้าสู่กระแสเลือด แล้วก็ไปตามอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งสมองด้วย

ปรสิตชนิดนี้ยังเป็นภัยต่อเด็กที่อยู่ในท้องแม่ด้วย โดยติดต่อผ่าน ‘รก’ ได้ เชื้อก็จะผ่าน ‘รก’ มาหาลูกที่อยู่ในท้อง เวลาคลอดออกมาเป็นทารก บางครั้งก็จะมีการเสียชีวิตตอนแรกคลอด หรือถ้าไม่เสียชีวิตตอนแรกคลอด อาการทางสมองก็จะค่อย ๆ พัฒนารุนแรงขึ้น คุณแม่สามารถตรวจได้ เมื่อทราบว่าคุณแม่ติดปรสิต ก็สามารถที่จะปรึกษาคุณหมอได้เป็นระยะ ๆ

ตัวที่ 3. ปรสิตอีกตัวหนึ่งที่ควรระวังคือ พยาธิตืดหมู ?

พยาธิตัวตืด (Taenia spp.) ที่ควรระวังก็คือ พยาธิตัวตืดวัว (Taenia saginata) และพยาธิตัวตืดหมู (Taenia solium) มีทั้งระยะตัวอ่อนกับระยะตัวเต็มวัย

พยาธิระยะตัวเต็มวัย อยู่ในคนก็สามารถที่จะออกไข่ อยู่ในปล้อง พอปล้องหลุดก็ปล้องแตก ไข่ก็จะปนออกมากับอุจจาระคน

พยาธิระยะตัวอ่อน จะอยู่ในเนื้อหมู คนกินเนื้อหมูดิบก็จะได้รับเข้าไป ซึ่งเมื่อพยาธิตืดหมูเข้าสู่ร่างกายแล้วอาจจะไปสู่สมองได้

บางครั้งการจัดการของอุจจาระไม่ค่อยดี เช่น อาจจะมีการปนเปื้อนของอุจจาระคนกับอาหารที่กิน หรือแม้กระทั่งดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนของไข่พยาธิตืดหมู เวลากินเข้าไปตัวอ่อนที่อยู่ในไข่ก็จะออกมาจากไข่ แล้วไชทะลุลำไส้ จากนั้นเข้าสู่กระแสเลือด แล้วพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนตามกล้ามเนื้อต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งรวมถึงสมองด้วย

ตัวที่ 4. ปรสิตอีกตัวที่ใกล้ตัวคนไทย คือ พยาธิปอดหนู ?

พยาธิปอดหนู (Angiostrongylus Cantonensis) หรือพยาธิหอยโข่ง

“พยาธิปอดหนู เป็นพยาธิตัวกลมที่เป็นสาเหตุของโรคสมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบในคน ซึ่งพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติการกินเนื้อหอยโข่ง หอยเชอรี่ หรือเนื้อสัตว์จำพวกกุ้ง ปู กบ และตะกวด ปรุงแบบดิบ ๆ หรือดิบ ๆ สุก ๆ เช่น นำมาทำก้อย ยำ ลาบ พล่า หรือการกินพืช ผักสด หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนด้วยตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิหอยโข่ง   

พยาธิหอยโข่งนั้นโดยธรรมชาติเป็นพยาธิของหนู เช่น หนูนา หนูท่อ หนูป่า พยาธิตัวเต็มวัยเพศผู้และเพศเมียจะอาศัยอยู่ในหลอดเลือดแดงของปอดหนู เมื่อหนูถ่ายอุจจาระจะมีพยาธิตัวอ่อนปะปนมา เมื่อหอย (ทั้งหอยบก หอยน้ำจืด และตัวทาก) กินตัวอ่อนของพยาธิหรือตัวอ่อนของพยาธิไชเข้าตัวหอยจะเจริญเติบโตเป็นตัวอ่อนระยะติดต่อขดตัวอยู่ในกล้ามเนื้อหรืออวัยวะของหอย และเมื่อคนนำหอยมากินโดยไม่ทำให้สุกก่อน ตัวอ่อนระยะติดต่อของพยาธิจะเข้าสู่ร่างกาย ไปตามกระแสเลือด แล้วเคลื่อนที่เข้าสู่สมอง

เมื่อ “พยาธิเข้าไปในสมองแล้ว” จะเจริญเติบโตและเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการอักเสบของสมองและเยื่อหุ้มสมอง ผู้ป่วยจะมีจำนวนเม็ดเลือดขาวชนิดอีโอสิโนฟิล (eosinophil) ขึ้นสูงในน้ำไขสันหลัง ผู้ป่วยบางรายอาจหมดสติได้ บ่อยครั้งที่พยาธิเคลื่อนที่เข้าไปอยู่ในลูกตา ทำให้เยื่อบุภายในตาฉีกขาดและมีเลือดออก อาจจะทำให้ตาบอดได้ การกินเนื้อสัตว์ชนิดอื่นที่ปรุงไม่สุก อาทิ กุ้งฝอย ปู กบ ตะกวด ซึ่งกินหอยที่มีพยาธิ ก็มีโอกาสได้รับพยาธิเข้าสู่ร่างกายได้เช่นกัน

คนที่ติดโรคพยาธิหอยโข่งมี “สัญญาณอันตราย” ตั้งแต่ไม่แสดงอาการ มีอาการเพียงเล็กน้อย หรือมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนพยาธิที่กินเข้าไป รวมทั้งภาวะภูมิคุ้มกันและสุขภาพอนามัยของผู้ได้รับพยาธิ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง คอแข็งและหลังแข็ง บางรายอาจพบอาการอัมพาตบางส่วนของแขน ขา หรือใบหน้าได้

เนื่องจากพยาธิชนิดนี้ไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นตัวแก่ในร่างกายคนได้ สุดท้ายพยาธิก็จะตายในตัวของคนเรา แต่ว่าก่อนตายเวลาพยาธิไชไปที่สมอง จะทำให้ปวดศีรษะรุนแรงมาก เมื่อพยาธิออกจากสมองจะเลื้อยไปอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายและสุดท้ายก็ตาย

ป้องกันปรสิตชนิดต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย ?

การป้องกันที่ดีที่สุด หลีกเลี่ยงการกินเนื้อปลาและเนื้อสัตว์ทุกชนิดแบบสุก ๆ ดิบ ๆ กินอาหารที่ไม่มีการปนเปื้อน หรือล้างผักและผลไม้ให้สะอาด

โรคที่เกิดจากการกินอาหารเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆ ถึงแม้จะเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยเหมือนโรคติดเชื้อชนิดอื่น แต่ก็เป็นโรคที่บั่นทอนสุขภาพ และทำให้เกิดโรครุนแรงและเสียชีวิตได้ 

เปลี่ยนพฤติกรรมการกินป้องกันโรคได้ นั่นคือกินอาหารที่ปรุงสุกด้วยความร้อนสูงเท่านั้น ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ จะเข้าสู่ร่างกาย

สัมภาษณ์โดย ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : 4 ปรสิตใกล้ตัวคนไทย ที่มีภัยต่อสมอง

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พปชร.” เปิดตัว 21 ว่าที่ผู้สมัคร อดีตเด็กเพื่อไทยยกขบวนซบพรึ่บ

พปชร. 8 ก.ค.- “พปชร.” เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. 21 คน อดีตเด็กเพื่อไทยยกขบวนซบ “ลุงป้อม” พรึ่บ อีสานมาเพียบ “นุกูล แสงศิริ – ศักดา คงเพชร” โผล่ด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรค พปชร.แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรค พปชร. จำนวน 21 คน โดยนายสันติ กล่าวว่า ขอขอบคุณว่าที่ผู้สมัครทุกๆ คนที่เห็นความตั้งใจจริงของพรรค พปชร. ซึ่งพรรคมีนโยบายทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เพื่อประเทศชาติ พรรค พปชร.จะทำทุกสิ่งเพื่อที่จะยกระดับ คุณภาพ ศักยภาพของเยาวชน และเราจะสร้างงาน สร้างอาชีพ พัฒนาพี่น้องชาวชนบท เรื่องพืชไร่ เรื่องการศึกษาอะไรต่างๆ เป็นนโยบายที่จะยกระดับลูกหลานของเราให้ทัดเทียมนานาอารยะประเทศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับว่าที่ผู้สมัคร สส. 21 คนที่เปิดตัวกับพรรค พปชร.ครั้งนี้ พบว่า เกือบทั้งหมดเป็นอดีต สส. และอดีตผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย […]

มท. ชงตั้งอธิบดี-ผู้ว่าฯ เด้ง “ไชยวัฒน์-นฤชา” เข้ากรุ

กทม 8 ก.ค.-มท. ชงตั้งอธิบดี-ผู้ว่าฯ เด้ง “ไชยวัฒน์-นฤชา” สายน้ำเงินเข้ากรุผู้ตรวจ ด้าน “นิรัตน์” ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผงาดนั่งปกครอง “ภพชนก” ผู้ว่าฯ เพชรบุรีคุมท้องถิ่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทยเตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจราชการ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เป็นอธิบดีกรมการปกครอง และ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น.-319.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด ทลายเครือข่ายก๊กอาน คนสนิท “ฮุนเซน”

กทม. 8 ก.ค.-ตร.ไซเบอร์ ปูพรม 19 จุด เปิดยุทธการปิดตึกบัญชีม้า ล่านายทุนเขมร ทลายเครือข่ายก๊กอาน เจ้าพ่อ crown casino คนสนิท “ฮุนเซน” ยึดรถหรู-เงิน 27 ล้าน เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 สนธิกำลังปิดล้อมตรวจค้น 19 จุด ในพื้นที่ กทม.สมุทรปราการ ชลบุรี […]

ครม.เห็นชอบตาม มท. เสนอเด้ง “2 อธิบดี” เข้ากรุผู้ตรวจฯ

ทำเนียบรัฐบาล 8 ก.ค.-ครม. เห็นชอบตามที่ มท. เสนอย้ายอธิบดีกรมการปกครอง-อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า ที่ประชุม ครม. ได้แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมา โดยเห็นชอบให้ นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมให้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครองแทน ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยให้ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแทน.-312 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม ปัดโต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน

สุรินทร์ 8 ก.ค.- ทบ. พาสื่อทัวร์ปราสาทตาเมือนธม หวังเรียกนักท่องเที่ยวดูโบราณสถาน มองเป็นเรื่องดี หลังประชาชนทะลักเข้าชมปราสาท เผยไม่โต้กัมพูชากล่าวหาไทยรุกราน มุ่งยึดการสื่อสาร ไทย-กัมพูชา ไม่พัฒนาไปสู่ความตึงเครียด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) อยากให้พาสื่อมวลชนส่วนกลางมาลงพื้นที่ ทั้ง จ.สุรินทร์ จ.บุรีรัมย์ จ.อุบลราชธานี โดยอยากให้สื่อสัมผัสกับพื้นที่จริง 2 ส่วน โดยส่วนที่ 1 คือทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ ส่วนที่ 2 เรื่องของพื้นที่ส่วนหลังในเรื่องความพร้อมต่าง ๆ ที่ทางทหารและฝ่ายปกครองได้เตรียมความพร้อมกันไว้ ซึ่งปราสาทตาเมือนธมเป็นจุดแรกที่เป็นจุดที่มาลงพื้นที่หลังฟังคำบรรยายของกองกำลังสุรนารี โดยส่วนหนึ่งที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อเยี่ยมชมโบราณสถาณที่สำคัญ ตามจริงเราขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรเมื่อปี พ.ศ. 2478 รวมถึงได้มีการมอบสิ่งของบำรุงขวัญและให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่ผ่านมามีปากเสียงกันในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการรับรายงานเรื่องนี้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ได้รับรายงาน ส่วนที่ผ่านมาก็เป็นไปตามที่สื่อมวลชนได้รับข้อมูล ถือว่าไม่ได้อยู่ในจุดที่น่ากังวล ผู้ปฏิบัติงานทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก็สามารถใช้ความสัมพันธ์ในลักษณะที่เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ […]

“แพทองธาร” ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก

ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 8 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ SPLASH – Soft Power Forum 2025 ชี้วัฒนธรรมไทยมีครบถ้วนทุกองค์ประกอบที่จะทำให้ต่างชาติหลงรัก กำลังกลายเป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ ชูแนวคิดวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ยกระดับสู่เวทีโลก ตั้งเป้าส่งออกอัญมณีให้ถึง 1 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH – Soft Power Forum 2025) ณ เวทีกลาง Exhibition Hall 4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ โดยมีรัฐมนตรี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนเข้าร่วม โดยนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่มีโอกาสได้มางานนี้อีกครั้ง ซึ่งปีที่แล้วเป็นปีที่แรก และปีนี้งานยิ่งใหญ่กว่าเดิม มีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นใจ ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมีสิ่งที่เราคาดการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจและอีกหลายปัจจัยทั่วโลก ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้เราต้องมีการปรับตัวที่เพิ่มมากขึ้น ตนเชื่อว่าการเข้าสู่บริบทของการเปลี่ยนแปลงนั้น การเข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก […]

ตร.เผยคดีเงินวัดม่วงหายคืบหน้ามาก ยันไม่มีอาชญากรรมใดไม่ทิ้งร่องรอย

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – ผกก.สน.เพชรเกษม ระบุคดีเงินเจ้าอาวาสวัดม่วงล่องหน 10 ล้าน คืบหน้าไปมาก ยืนยันไม่มีอาชญากรรมใดที่ไม่ทิ้งร่องรอย ขอเวลาตำรวจทำงานอีกนิด ใกล้รู้เงินหายไปไหน ด้านชาวบ้านที่ศรัทธาเจ้าอาวาสบุกให้กำลังใจ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยตัวแทนเจ้าหน้าที่จาก บก.ปปป. ป.ป.ท. และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินข้ามสะพานจาก สน.เพชรเกษม ไปยังกุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วง โดยระหว่างทาง พ.ต.อ.ปราโมทย์ บอกกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ เพียงแค่ว่า เป็นการมาตรวจสอบเอกสารรายรับรายจ่ายและที่มาทรัพย์สินของเจ้าอาวาส ส่วนรายละเอียดต้องรอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบเอกสารและชี้แจงอีกที จากนั้นบรรดาคณะเจ้าหน้าที่ได้มาถึงที่กุฏิเจ้าอาวาส โดยพบว่า พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนที่จะเดินออกจากกุฏิพร้อมพระเลขา เพื่อมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อย่างละเอียด ที่ศาลาประดิษฐ์ กลีบบัว ซึ่งเป็นศาลาการเปรียญของวัด โดยระหว่างทางผู้สื่อข่าวได้กราบนมัสการสอบถามพระคุณเจ้าถึงรายละเอียดการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในวันนี้ และความรู้สึกว่ามีความเครียดหรือกังวลหรือไม่ ปรากฏว่าพระคุณเจ้าโบกมือปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว ขณะเดียวกัน พบว่ามีพระลูกวัดจำนวนหนึ่งและชาวบ้านในพื้นที่เดินทางเข้ามาหน้ากฏิเจ้าอาวาส เพื่อมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส โดยคุณยายรายหนึ่ง อายุประมาณ 80 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนเป็นชาวบ้านในพื้นที่และตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส เนื่องจากท่านมีวัฏฏะการปฏิบัติที่ดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย […]

สหรัฐประกาศมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36%

วอชิงตัน 8 ก.ค. – สหรัฐประกาศมาตรการล่าสุดเรียกเก็บภาษี 36% จากสินค้านำเข้าจากประเทศไทย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังเตือนอย่างชัดเจนไม่ให้ไทยใช้มาตการตอบโต้ และเรียกร้องให้ประเทศไทยเปิดตลาดเพิ่มเติม การเรียกเก็บภาษีครั้งใหม่นี้ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่แข็งกร้าวและกว้างขวางของวอชิงตัน เพื่อแก้ไขสิ่งที่พวกเขาถือเป็น “ความไม่สมดุลทางการค้า” กับคู่ค้าทั่วโลก ในจดหมายที่โพสต์บนแพลตฟอร์ม “ทรูธ โซเชียล” (Tuth Social) ของเขาในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม นายทรัมป์ระบุว่าภาษีตอบโต้ 36% นี้จะใช้กับ “สินค้าไทยทุกประเภท นอกเหนือจากภาษีเฉพาะภาคส่วนที่มีอยู่” และจะเรียกเก็บกับสินค้าที่ขนส่งผ่านประเทศไทยเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงขึ้นด้วย จดหมายของนายทรัมป์ยังระบุว่าอัตราภาษีนี้ยังน้อยกว่าสิ่งที่ประเทศไทยจำเป็นต้องทำเพื่อขจัดความไม่สมดุลทางการค้าที่สำคัญ เขายังกล่าวว่า จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีหากประเทศไทย หรือบริษัทของไทย ตัดสินใจสร้างหรือผลิตสินค้าภายในสหรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยืนยันความต้องการที่จะทำการค้ากับประเทศไทยต่อไป แต่ยืนกรานว่าจะต้อง “สมดุลและเป็นธรรม”เขายังเชิญประเทศไทยให้เข้าร่วมเศรษฐกิจพิเศษของสหรัฐ โดยยอมรับว่าสหรัฐได้เจรจาการค้ากับประเทศไทยมาหลายปีแล้ว เนื่องจากปัญหาความไม่สมดุลที่ยืดเยื้อ นอกจากนั้นยังตือนว่า หากประเทศไทยตัดสินใจขึ้นภาษีเพื่อตอบโต้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากภาษี 36% ที่ประกาศไปแล้ว นายทรัมป์ย้ำเหตุผลของเขาด้วยว่า การขาดดุลการค้าก่อให้เกิดภัยคุกคามที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐและความมั่นคงของชาติ อย่างไรก็ตาม จดหมายดังกล่าวยังเสนอแนวทางที่เป็นไปได้สำหรับการปรับปรุงอัตราภาษีด้วย นายทรัมป์ระบุว่าหากประเทศไทย […]