ตร.เผยคดีเงินวัดม่วงหายคืบหน้ามาก ยันไม่มีอาชญากรรมใดไม่ทิ้งร่องรอย

กรุงเทพฯ 8 ก.ค. – ผกก.สน.เพชรเกษม ระบุคดีเงินเจ้าอาวาสวัดม่วงล่องหน 10 ล้าน คืบหน้าไปมาก ยืนยันไม่มีอาชญากรรมใดที่ไม่ทิ้งร่องรอย ขอเวลาตำรวจทำงานอีกนิด ใกล้รู้เงินหายไปไหน ด้านชาวบ้านที่ศรัทธาเจ้าอาวาสบุกให้กำลังใจ


พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยตัวแทนเจ้าหน้าที่จาก บก.ปปป. ป.ป.ท. และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินข้ามสะพานจาก สน.เพชรเกษม ไปยังกุฏิเจ้าอาวาสวัดม่วง โดยระหว่างทาง พ.ต.อ.ปราโมทย์ บอกกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ เพียงแค่ว่า เป็นการมาตรวจสอบเอกสารรายรับรายจ่ายและที่มาทรัพย์สินของเจ้าอาวาส ส่วนรายละเอียดต้องรอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบเอกสารและชี้แจงอีกที

จากนั้นบรรดาคณะเจ้าหน้าที่ได้มาถึงที่กุฏิเจ้าอาวาส โดยพบว่า พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ก่อนที่จะเดินออกจากกุฏิพร้อมพระเลขา เพื่อมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่อย่างละเอียด ที่ศาลาประดิษฐ์ กลีบบัว ซึ่งเป็นศาลาการเปรียญของวัด โดยระหว่างทางผู้สื่อข่าวได้กราบนมัสการสอบถามพระคุณเจ้าถึงรายละเอียดการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในวันนี้ และความรู้สึกว่ามีความเครียดหรือกังวลหรือไม่ ปรากฏว่าพระคุณเจ้าโบกมือปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว


ขณะเดียวกัน พบว่ามีพระลูกวัดจำนวนหนึ่งและชาวบ้านในพื้นที่เดินทางเข้ามาหน้ากฏิเจ้าอาวาส เพื่อมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส โดยคุณยายรายหนึ่ง อายุประมาณ 80 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พวกตนเป็นชาวบ้านในพื้นที่และตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส เนื่องจากท่านมีวัฏฏะการปฏิบัติที่ดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย โดยเฉพาะเรื่องสีกา

ส่วนเรื่องทรัพย์สิน เป็นเพราะท่านเป็นคนประหยัดมัธยัสถ์และเก็บเล็กประสมน้อย ไม่ค่อยใช้เงิน จึงทำให้ท่านมีเงินเก็บมาก และเงินของท่านก็นำไปก่อสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์วัดให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองงดงาม โดยเฉพาะพระอุโบสถ ส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องปกติที่พระสงฆ์ในปัจจุบันจะมีทรัพย์สินเงินทองเก็บสะสมเป็นของส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องแปลกในปัจจุบัน รวมทั้งมองว่าไม่ใช่เรื่องบาปด้วย เชื่อว่าที่ท่านซื้อทองอาจเป็นเพราะทองคำมีราคาสูง ท่านอาจซื้อเพื่อเก็บมูลค่าไว้และนำเงินมาทำนุบำรุงวัด จึงทำให้ตนมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการกลั่นแกล้งมากกว่า โดยเฉพาะพระนิทัศน์ ซึ่งเป็นพระลูกวัด โดยคุณยายถึงกับสบถคำหยาบออกมา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พระนิทัศน์เป็นคนอย่างไร แต่คุณแม่ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเรื่องความขัดแย้งระหว่างเจ้าอาวาสกับพระนิทัศน์ อ้างว่าตัวเองไม่รู้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า แสดงว่ามีเรื่องการเมืองภายในวัดหรือไม่ คุณยายบอกว่า “ใช่”

จากนั้น พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ได้เดินทางออกจากศาลาผ่านทางประตูหลัง เพื่อหลบเลี่ยงสื่อมวลชน หลังจากใช้เวลาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ไม่นาน ซึ่งมีสื่อมวลชนบางส่วนได้พยายามวิ่งไปกราบสอบถามว่าให้ข้อมูลอย่างไรบ้าง เจ้าอาวาสพูดสั้น ๆ เพียงแค่ว่า “ให้ข้อมูลไปหมดแล้ว ให้รอดูในข่าว” เมื่อผู้สื่อข่าวกราบสอบถามว่า เจ้าอาวาสมีความรู้สึกเครียดหรือไม่ เจ้าอาวาสไม่ตอบอะไร ก่อนจะเดินกลับเข้ากุฏิไป แล้วหลังจากนั้นเจ้าอาวาสก็เดินกลับมาที่ศาลาอีกครั้ง เพื่อมาพูดคุยกับเจ้าหน้าที่


ด้าน พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ทาง สน.เพชรเกษม ได้มาอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงานที่มาตรวจสอบวัด เบื้องต้นทั้ง 3 หน่วยงานเข้ามาตรวจสอบบัญชีวัดและบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหาเส้นทางการเงินของวัดและของเจ้าอาวาส ซึ่งทางเจ้าอาวาสให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยข้อมูลที่ทั้ง 3 หน่วยงานมาตรวจสอบวัดในวันนี้ ทางพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม จะประสานขอข้อมูลไปวิเคราะห์ประกอบสำนวนคดีต่อไป

ส่วนหากพบความผิดปกติจะมีความผิดหรือไม่ เรื่องนี้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากบัญชีของวัดจะต้องเสนอไปยังสำนักพุทธฯ อยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะต้องตรวจค้นสถานที่ภายในวัดหรือไม่ พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับว่า ทั้ง 3 หน่วยงานจะดำเนินการตรวจสอบค้นภายในพื้นที่วัดหรือไม่

พ.ต.อ.ปราโมทย์ ยืนยันว่า คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เก็บข้อมูลทุกฝ่ายอย่างครบถ้วน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูล ต้องให้เวลาตำรวจทำงานสักระยะ เพื่อที่ตำรวจจะทำความจริงให้กระจ่าง เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชน พร้อมกล่าววลีเด็ดว่า “ไม่มีอาชญากรรมใดที่ไม่มีการทิ้งร่องรอยเอาไว้”, “ทุกคนที่เกี่ยวข้องสามารถเป็นผู้ต้องหาได้หมด” และ “กมฺมุนา วตฺตตีโลโก : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา”

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนพฤติกรรมของพระภายในวัดหรือไม่ พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ไม่มี และที่ผ่านมาตำรวจ สน.เพชรเกษม ก็มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยภายในวัดอยู่แล้ว หากพบความผิดปกติอะไรภายในวัด ทางตำรวจก็จะดำเนินการทันที สำหรับประเด็นที่ว่า ในวันเกิดเหตุที่ทางตำรวจได้เข้าไปตรวจค้นภายในกุฏิ พบสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่นหรือไม่ พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่นแต่อย่างใด ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิด เบื้องต้นพบว่ายังไม่สามารถกู้คืนได้ยาว แต่ทางตำรวจจะพยายามตรวจสอบและไล่ให้ครบทุกมิติ

ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนพนัน พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คาดว่าน่าจะเป็นการสร้างประเด็นขึ้นมา และในท้องที่ไม่มีสิ่งผิดกฎหมายอยู่แล้ว.-415-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้ว ร่วมประชุม RBC ชุดใหญ่ที่สระแก้ว

สระแก้ว 22 ส.ค.-การประชุม RBC ระดับกองเลขาฯ ไทย-กัมพูชา รอข้ามคืน ฝ่ายกัมพูชาส่งข้อเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจ ก่อนเปิดโต๊ะเจรจา ‘ตี1’ เสร็จ ‘ตี2’ นำเข้า RBC วงใหญ่ 10 โมงเช้าวันนี้ ซึ่งฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้วตามกำหนด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับกองเลขานุการ ที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 ซึ่งเดิมกำหนดในเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มาถึงเวลา 18.00 น. กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพบก ชี้แจงว่า การประชุมยังดำเนินการอยู่ ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล ซึ่งฝ่ายกัมพูชาต้องให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองพิจารณา ก่อนขึ้นโต๊ะเจรจากับฝ่ายไทย จนถึงเวลาประมาณ 00.05 ของวันที่ 22ส.ค. พลโท ซอ กึมปะ รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ประธานคณะทำงาน และคณะของฝ่ายกัมพูชา เดินทางมาถึง สโมสร […]

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]