ชัวร์ก่อนแชร์ : 10 ข้อดีของกะปิ จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ 10 ข้อดีของกะปิ เช่น บำรุงกระดูก ป้องกันฟันผุ มีวิตามิดี บี 12 โอเมก้า 3 จริงหรือไม่ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผศ.ดร.กิตณา แมคึเน็น อาจารย์ภาควิชาโภชนาการและการกำหนดอาหาร คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ข้อความที่แชร์มีทั้งจริง และเป็นเหตุเป็นผลที่ไม่เกี่ยวข้องกัน


ข้อ 1. กะปิบำรุงกระดูก ?

แคลเซียมจะถูกปลดปล่อยจากกะปิถ้าผ่านความร้อน

ในกะปิมีแคลเซียมจริง ถ้ากะปินั้นทำจากเคยหรือกุ้งก็มีแคลเซียมที่สูง


กะปิคุณภาพดี น้ำหนัก 100 กรัม จะมีปริมาณแคลเซียมได้มากถึง 1,300-1,400 มิลลิกรัม

กะปิที่คุณภาพไม่ดี หรือรอง ๆ ลงมา น้ำหนัก 100 กรัม อาจจะเหลือแคลเซียมประมาณ 400-500 มิลลิกรัม

มีการเปรียบเทียบปริมาณแคลเซียมในกะปิกับแคลเซียมในนมวัว โดยบอกว่าแคลเซียมในกะปิมีมากกว่าในนมวัวหลายเท่า ซึ่งเรื่องนี้จะต้องคิดตามน้ำหนัก ดังนี้

กะปิหนัก 100 กรัม มีแคลเซียมประมาณ 1,300-1,500 มิลลิกรัม แต่คนเราไม่สามารถกินกะปิได้ครั้งละ 1 ขีด เหมือนกับดื่มนม และในกะปิมีโซเดียมสูงมากด้วย

แคลเซียมเป็นแร่ธตุที่พบมากที่สุดในร่างกาย เกือบทั้งหมดจะอยู่ในกระดูกและฟัน ในร่างกายคนหนัก 50 กิโลกรัม จะมีแคลเซียมอยู่ประมาณ 1 กิโลกรัม แคลเซียมมีหน้าที่สำคัญต่อการทำงานของร่างกายเกือบทุกส่วน และที่สำคัญยังมีหน้าที่สร้างกระดูก ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของร่างกาย ความต้องการแคลเซียมเพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ ดังนี้

เพศชายและเพศหญิง อายุ 9-18 ปี ต้องการแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน

เพศชายและเพศหญิง อายุ 19-50 ปี ต้องการแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน

ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ต้องการแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน

เพศชายและเพศหญิง อายุมากกว่า 50 ปี ต้องการแคลเซียม 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน

อาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ โยเกิร์ต นม 1 แก้ว (250 ซีซี มีแคลเซียม 300 มิลลิกรัม) ปลากระป๋อง บรอกโคลี  ผักใบเขียว

ข้อ 2. กะปิมีวิตามินบี 12 ส่งผลดีกับเลือดมาก ขาดกะปิจะทำให้ป่วยเลือดจางได้ ?

กะปิมีวิตามินบี 12 เป็นเรื่องจริง และวิตามินบี 12 เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดแดงก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่ากินกะปิแล้วจะทำให้เลือดไม่จาง ที่สำคัญในแต่ละครั้งคนเราไม่สามารถกินกะปิปริมาณมาก ๆ ได้

เลือดจาง (Anemia) เป็นภาวะที่ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อยกว่าปกติ ทำให้นำออกซิเจนไปยังเซลล์และเนื้อเยื่อในอวัยวะต่าง ๆ ได้น้อยลง ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ผิวซีดหรือผิวเหลือง มาจากหลายปัจจัย ดังนี้

การขาดสารอาหาร เป็นผลมาจากการกินอาหารที่ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 หรือกรดโฟลิก (องค์ประกอบที่จําเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง) การขาดธาตุเหล็กเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยภาวะเลือดจาง

ฮอร์โมน ภายในเลือดจะมีฮอร์โมนที่ชื่อว่า อีริโทรโพอิติน (Erythropoietin) ที่ผลิตได้จากไต มีหน้าที่กระตุ้นไขกระดูกในการสร้างเม็ดเลือดแดง แต่เมื่อร่างกายมีฮอร์โมนชนิดนี้ต่ำกว่าปกติจะส่งผลให้เกิดภาวะเลือดจางได้

ภาวะโรคเรื้อรัง การรักษาโรคเรื้อรังบางโรคจะส่งผลกระทบต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง โดยการทำลายไขกระดูก เช่น โรคมะเร็งบางชนิด การติดเชื้อเอชไอวี (HIV) โรคไตวายเรื้อรัง หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

การตั้งครรภ์ ภาวะเลือดจางสามารถเกิดขึ้นได้กับหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงอายุครรภ์ 6 เดือนแรก เนื่องจากการขาดสารอาหารประเภทธาตุเหล็กและกรดโฟลิก รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในเลือด

กะปิมีวิตามินบี 12 แต่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นกะปิจึงไม่ใช่แหล่งหลักของวิตามินบี 12 ที่จะทำให้เลือดไม่จาง

ข้อ 3. มีการศึกษาโดยทันตแพทย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่ว่ากะปิผ่านความร้อนช่วยให้ฟันไม่ผุ ?

เรื่องนี้มีการศึกษาจริง แต่เป็นการเปรียบเทียบในห้องทดลองโดยใช้ฟันที่หลุดออกมาแล้ว ทดสอบโดยการเติมสารละลายที่เหมือนกับอยู่ในแกงส้ม ก็คือคล้าย ๆ แกงเหลืองของทางภาคใต้

สูตรที่เติมกะปิ อนุภาคของชั้นเคลือบฟันที่ถูกสลายไปน้อยกว่าในแกงส้มสูตรที่ไม่มีกะปิอย่างชัดเจน ก็อนุมานว่าการได้กินกะปิจะช่วยทำให้ฟันไม่ผุหรือไม่สึกเร็ว

ข้อ 4. กะปิมีกรดไขมัน “โอเมก้า 3” มาก ?

เรื่องนี้จากการศึกษาวิจัยพบว่ามีกรดไขมันโอเมก้า 3 จริง แต่ปริมาณคงไม่ได้มีมากเมื่อเทียบกับปลาชนิดอื่น ๆ

ดังนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีจึงควรกินปลาเสริมในบางมื้อ เช่น กินปลาทูทอดกับน้ำพริกกะปิ ก็จะดีต่อสุขภาพมากกว่ากินปลาทูทอดเพียงอย่างเดียว

ข้อ 5. เชื้อดีที่หมักอยู่ในกะปิมีสารพัดจุลินทรีย์ที่ช่วยเป็น “โพรไบโอติกในลำไส้” เสริมภูมิให้เชื้อร้ายไม่มาทำอันตราย ?

กะปิมีเชื้อจุลินทรีย์มากมายเป็นเรื่องจริง และการหมักกะปิโดยใช้เกลือก็เป็นการฆ่าเชื้อโรคบางส่วนที่ทำให้บูดเน่าเสีย

กะปิมีโพรไบโอติกจริงหรือไม่ คิดว่ามีจริงแต่ปริมาณมากน้อยแค่ไหนไม่รู้

อย่างไรก็ตาม ถ้ากรรมวิธีการผลิตกะปิไม่สะอาด แทนที่จะได้โพรไบโอติกก็อาจจะได้เชื้อก่อโรคอื่น ๆ ด้วย

ข้อ 6. กะปิมี “แอสตาแซนทิน” กินแล้วช่วยคลายเครียดให้ดวงตา ไม่เหนื่อยล้าเมื่อยตา และล้างสนิมแก่ออกจากตาได้ดี ?

ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่คำนวณหรือไปวิเคราะห์ว่ากะปิมีแอสตาแซนทิน (Astaxanthin) เพียงแต่กะปิมีวิตามินเอ

วิตามินเอได้มาจากไหน ถ้าบอกว่ากะปิทำมาจากกุ้งทั้งเปลือกอยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะมีแอสตาแซนทิน แต่จะหวังผลในการกินกะปิเพื่อสุขภาพสายตา โดยเฉพาะคำว่า “ล้างสนิมออกจากตา” คิดว่าเกินจริง

ข้อ 7. กะปิเป็นแหล่ง” วิตามินดี” ที่ดี ?

จากการค้นข้อมูลยังไม่พบว่ากะปิมีวิตามินดีปริมาณเท่าไหร่

ในความเป็นจริงกะปิไม่น่าจะมีวิตามินดีมากพอจนถึงขนาดที่จะบอกว่า “กะปิเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินดี”

ข้อ 8. น้ำมันดีในกะปิช่วยหล่อลื่นให้เลือดไหลปรู๊ดปร๊าดไม่ขาดช่วง ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันตามหลอดเลือดที่สำคัญ ?

กะปิมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของสารลดการอักเสบ สารลดการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด แต่การหวังจะกินกะปิเพื่อให้เลือดไหลปรู๊ดปร๊าด (รวดเร็ว ฉับไว ไม่ขาดช่วง)  อย่างที่อ้างสรรพคุณนั้น คิดว่าเป็นการกล่าวเกินจริง

ข้อ 9. โอเมก้า 3 ในกะปิ ช่วยหล่อลื่นให้สมองแล่นไวเหมือนกับได้น้ำมันออโต้ลูปบำรุงสมอง ?

การที่ร่างกายได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารชนิดใดก็ตาม ย่อมจะส่งผลดีต่อระบบประสาทและสมอง แต่ว่ากะปิไม่ได้เป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมก้า 3

ข้อ 10. พิชิตโรคใจ ทั้งปกป้องห้องหัวใจและป้องกันหัวสมอง ?

กรดไขมันโอเมก้า 3 ดีต่อระบบหลอดเลือดและสมอง แต่กะปิไม่ใช่แหล่งที่ดีของกรดโอเมก้า 3 ในลักษณะหวังผลเพื่อสุขภาพ

สรุปแล้ว 10 ประโยชน์ของกะปิที่แชร์กันนี้ ความเห็นส่วนตัวไม่ควรแชร์

กะปิมีคุณค่ามีประโยชน์จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ทดแทนอาหารมื้อหลักอื่น ๆ ได้

สัมภาษณ์โดย ณัฐวัฒน์ จิตรมั่น

เรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : 10 ข้อดีของกะปิ จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยึดรถบอสดิไคอน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน ขณะที่พนักงานสอบสวนชุดเล็กประชุมสรุปรายงานผลการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมรายงานคณะทำงานชุดใหญ่พรุ่งนี้

ระเบิดสะพานโจร

“ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง

กสทช. จับมือตำรวจ สานต่อยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง อย่างอุกอาจ เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ว.วชิรเมธี

พระพยอมชี้ ท่าน ว.วชิรเมธี นั่งบนหิมะ ไม่ผิดวินัยสงฆ์

เพจดังลงภาพท่าน ว.วชิรเมธี นั่งสมาธิบนหิมะที่ญี่ปุ่น ด้านพระพยอมชี้ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ คิดว่าท่าน ว.วชิรเมธี คงอยากทดสอบความอดทน

ข่าวแนะนำ

ต่างชาติประทับใจซ้อมขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

วันนี้มีการซ้อมใหญ่เสมือนจริง ครั้งที่ 2 ขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งไม่เพียงแต่คนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็ประทับใจกับความงดงาม

“พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ” ยันไม่ปล่อยผ่านคดีตากใบ เร่งตามผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ

ผบ.ตร.เผยคดีตากใบ เร่งติดตามตัวผู้ต้องหาก่อนหมดอายุความ เข้าตรวจค้น 29 ครั้ง เฝ้าจุดระวังติดตามกว่า 180 ครั้ง ยันไม่ปล่อยผ่าน