“ภูมิธรรม” หารือ เอกอัครราชทูตอียู ขอบคุณสหภาพยุโรปหนุนงบช่วยพลเรือน

ทำเนียบ 28 ส.ค.-“ภูมิธรรม” หารือ เอกอัครราชทูตอียู ชื่นชมบทบาทส่งเสริมความสัมพันธ์-ความร่วมมือไทยและสหภาพยุโรป เดินหน้าเร่งรัดจัดทำ FTA พร้อมขอบคุณสหภาพยุโรปสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำไทยยึดมั่นกติกาสากล

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายเดวิด เดลี (H.E. Mr.David Daly) เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป( EU )ประจำประเทศไทย ในโอกาสอำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการ


นายภูมิธรรม กล่าวขอบคุณและแสดงความชื่นชมในบทบาทของเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป ประจำประเทศไทยที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและสหภาพยุโรปอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยที่จะสานต่อและขยายความร่วมมือกับสหภาพยุโรปให้แน่นแฟ้นและรอบด้านยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ไทย–สหภาพยุโรปให้มีความมั่นคงและเข้มแข็งในทุกมิติ

เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ กล่าวถึงความสัมพันธ์ไทย–สหภาพยุโรปที่มีพัฒนาการที่มั่นคงและก้าวหน้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันถึงความพร้อมของสหภาพยุโรปที่จะสนับสนุนและร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิดในการยกระดับความสัมพันธ์ให้มีความเข้มแข็ง ครอบคลุม และยั่งยืน ตลอดจนย้ำว่าการผลักดันกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างไทย-สหภาพยุโรป (Comprehensive Partnership and Cooperation Agreement – PCA) ถือเป็นกลไกการหารือทวิภาคีที่สำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดทิศทางความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในระยะยาว โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์และค่านิยมที่ทั้งไทยและสหภาพยุโรปมีร่วมกันอย่างรอบด้านและครอบคลุมทุกมิติ


นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน ดังนี้
ด้านสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา รองนายกรัฐมนตรีฯ ขอบคุณสหภาพยุโรปที่ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อช่วยเหลือพลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ตลอดจนแสดงความห่วงใยต่อเสถียรภาพ ความมั่นคง และสันติภาพของทั้งสองประเทศ พร้อมย้ำว่าการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปมีส่วนช่วยอย่างสำคัญต่อการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และช่วยคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น

โดยเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป ได้แสดงความเสียใจต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันถึงความตั้งใจและความพร้อมที่จะให้การสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยแสดงความเชื่อมั่นว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขสถานการณ์ผ่านสันติวิธี ลดระดับความตึงเครียด และนำไปสู่ความมั่นคงและสันติภาพที่ยั่งยืนในระยะยาว

ด้านความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยและสหภาพยุโรป (FTA) รองนายกรัฐมนตรีฯ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเจรจาให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มั่นคงและก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนและท้าทาย พร้อมยินดีที่การเจรจา FTA รอบล่าสุดที่จัดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ณ กรุงเทพฯ สามารถตกลงในหลักการได้แล้ว 7 ข้อบท จาก 24 ข้อบท ถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญและสะท้อนถึงความคืบหน้าของการเจรจา


ด้านเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ได้ยืนยันความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับไทยอย่างใกล้ชิด ในการเจรจา FTA ไทย-EU ครั้งต่อไป (รอบที่ 7) ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ระหว่างวันที่ 29 กันยายน ถึง 3 ตุลาคม 2568 เพื่อผลักดันให้การเจรจาความตกลงการค้าเสรีสามารถเดินหน้าได้อย่างเป็นรูปธรรมและเอื้อต่อการขยายตลาดของทั้งสองฝ่ายในระยะยาว และเชื่อมั่นว่าความตกลง FTA ฉบับนี้จะเป็นความตกลงการค้าเสรีที่สะท้อนถึงการผสมผสานประเด็นการค้าแบบดั้งเดิมกับประเด็นร่วมสมัย อาทิ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ ให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับบริบทเศรษฐกิจโลกยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น

ด้านการประมงที่ผิดกฎหมายฯ(IUU) รองนายกรัฐมนตรีฯ ขอบคุณสหภาพยุโรปที่ให้ความสำคัญต่อประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำถึงความก้าวหน้าของไทยในการดำเนินมาตรการแก้ไขอย่างจริงจังและเข้มงวด จนสามารถยกระดับการจัดการประมงให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ส่งผลให้ไทยได้รับการยกเลิกสถานะใบเหลือง อยู่ในสถานะ “IUU-Free” และได้รับการจัดให้อยู่ใน Tier 2 ต่อเนื่องเป็นปีที่สาม ที่ผ่านมาไทยได้ปรับปรุงพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 (ค.ศ.2015) เพื่อส่งเสริมการทำการประมงอย่างยั่งยืนควบคู่กับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตชาวประมงไทย พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อขับเคลื่อนประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ยืนยันว่าสหภาพยุโรปพร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับไทยในการผลักดันการทำประมงให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลอย่างยั่งยืน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมประมงไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของชาวประมง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจฐานทรัพยากร ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคมในภาพรวม

นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า ไทยยึดมั่นในกติกาสากล และพร้อมทำงานเคียงข้างสหภาพยุโรปในฐานะหุ้นส่วนสำคัญ เพื่อผลักดันความร่วมมือในทุกมิติ ครอบคลุมประเด็นท้าทายยุคใหม่ อาทิ การปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมทางไซเบอร์ ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อประโยชน์ของภูมิภาคและประชาคมโลกโดยรวม.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย