ชัวร์ก่อนแชร์: ดื่มนมบ่อยทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน จริงหรือ?

13 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีคลิปวิดีโอข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในหลายประเทศ โดยอ้างว่าการดื่มนมไม่มีประโยชน์ต่อความแข็งแรงของกระดูก เนื่องจากความเป็นกรดของนมจะไปดึงแคลเซียมออกมาจากกระดูก นำไปสู่โรคกระดูกพรุน การรับโปรตีนจากนมวัวในปริมาณมาก ยังกระตุ้นการขับแคลเซียมทางปัสสาวะ และอ้างว่าประชากรป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ส่วนใหญ่จะมาจากชาติตะวันตกที่นิยมการดื่มนมวัว


บทสรุป :

  1. เป็นข้ออ้างจากหมอที่ถูกห้ามรักษาในออสเตรเลียเพราะเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
  2. ความเป็นกรดในนมจะหายไปจากกระบวนการย่อยอาหาร
  3. แคลเซียมจากการดื่มนม ป้องกันการไม่ให้ร่างกายดึงแคลเซียมจากกระดูก ลดโอกาสโรคกระดูกพรุน
  4. ชาติตะวันตกที่นิยมดื่มนมแต่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนบ่อย มาจากหลายปัจจัย ทั้งสังคมผู้สูงอายุและการขาดวิตามินดีจากแสงแดด เป้นต้น

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ข้ออ้างจากหมอที่ถูกห้ามรักษา


เจ้าของข้อความกล่าวอ้างที่แชร์ทางออนไลน์ คือ บาร์บารา โอนีล นักธรรมชาติบำบัดชาวออสเตรเลีย ที่ถูกสั่งห้ามรักษาผู้ป่วยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลียเป็นการถาวรตั้งแต่ปี 2019 จากข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางการแพทย์โดยไม่มีหลักฐานซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพประชาชน

แคลเซียมในนมวัวและร่างกายมนุษย์

โครงสร้างหลักของนมวัวมีน้ำเป็นส่วนประกอบ 87% โดย 13% ที่เหลือได้แก่ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ได้แก่ แคลเซียม และ ฟอสฟอรัส

โดยน้ำนม 1 ลิตรมีโปรตีน 35 กรัม และปริมาณแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัม

มนุษย์มีปริมาณแคลเซียมในร่างกายประมาณ 920-1,200 กรัม โดย 99% อยู่ที่กระดูกและฟัน มีสัดส่วนคิดเป็น 1.5% ของน้ำหนักตัว

ข้อมูลจาก Academy of Nutrition and Dietetics หน่วยงานด้านอาหารและโภชนาการของสหรัฐอเมริการะบุว่า แคลเซียมคือแร่ธาตุที่ร่างกายมนุษย์ผลิตเองไม่ได้ การดื่มนมวัวซึ่งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด จึงมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก

การขับแคลเซียมทางปัสสาวะจากการดื่มนม

มีการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มนมมากเกินไปกับความแข็งแรงของกระดูก จากกระบวนการขับแคลเซียมทางปัสสาวะ อย่างไรก็ดี งานวิจัยหลายชิ้นต่างยืนยันว่า การได้รับแคลเซียมอย่างเหมาะสมจากน้ำนม มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างชัดเจน

การดื่มนมไม่ใช่สาเหตุของโรคกระดูกพรุน

มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ หรือ International Osteoporosis Foundation ได้จัดทำข้อมูล Fact Sheet เพื่อชี้แจงประเด็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดื่มนมและโรคกระดูกพรุนดังนี้

  1. นมมีความเป็นกรด การบริโภคนมและโยเกิร์ตเพิ่มความเป็นกรดในเลือด ร่างกายจึงต้องดึงแคลเซียมจากกระดูกเพื่อป้องกันสภาวะกรดเกินในร่างกาย การดื่มนมจึงเสี่ยงทำให้กระดูกพรุน – ข้อมูลเท็จ

นมและโยเกิร์ตไม่ใช่อาหารที่สร้างกรดในร่างกาย ความเป็นกรดในนมจะหายไประหว่างกระบวนการย่อยอาหาร หากร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมอย่างเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องดึงแคลเซียมมาจากกระดูก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคกระดูกพรุน

  1. ชาติตะวันตกที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม กลับพบผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ แสดงว่านมคือสาเหตุของโรคกระดูกพรุน – ข้อมูลเท็จ

สาเหตุการเกิดโรคกระดูกพรุนมีหลายปัจจัย ทั้งอายุ พันธุกรรม และ พฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การทำกิจกรรม รวมถึงน้ำหนักตัว ทั้งหมดนี้ล้วนมีความสัมพันธ์ต่อโรคกระดูกมากกว่าการดื่มนม

หลายประเทศที่มีประชากรป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนจำนวนมาก พบว่าเป็นประเทศที่ประชากรมีอายุขัยยืนยาว เช่น ประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย การมีอายุยืนยาวส่งผลให้พบจำนวนผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนมากขึ้นเช่นกัน

แม้การดื่มนมอย่างเดียวจะไม่รับประกันการป้องกันโรคกระดูกพรุน แต่การดื่มนมก็ไม่ใช่สาเหตุของการป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนเช่นกัน

การกินเกลือไม่ช่วยเสริมกระดูก

บาร์บารา โอนีล ยังเผยแพร่ความเชื่อผิด ๆ ด้วยการแนะนำให้ผู้ฟังเลี่ยงการดื่มนมวัว แล้วหันมารับแคลเซียมจากการบริโภคเกลือแทน

แม้การบริโภคเกลืออย่างเหมาะสม จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมคลอไรด์ที่เพียงพอต่อร่างกาย อย่างไรก็ดี ในเกลือมีปริมาณแคลเซียมที่น้อยมาก การบริโภคเกลือจำนวนมากกลับยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายและสุขภาพของกระดูกโดยรวม

ข้อมูลจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ระบุว่า เกลือ 1 ช้อนชา มีแคลเซียมเพียง 1.44 มิลลิกรัมเท่านั้น

สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIH) ระบุว่า ผู้ใหญ่ควรได้รับแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน

ดังนั้นการบริโภคเกลือเพียงอย่างเดียว นอกจากไม่ช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอแล้ว ยังส่งผลเสียต่อการรับโซเดียมคลอไรด์มากเกินปกติอีกด้วย

องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ระบุว่า ใน 1 วันไม่ควรบริโภคโซเดียมเกิน 2,300 มิลลิกรัมหรือปริมาณเกลือ 1 ช้อนชา แต่พบว่าชาวอเมริกันบริโภคโซเดียมเฉลี่ย 3,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งการได้รับโซเดียมมากเกินไปเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคความดันเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง

ข้อมูลจากภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยว่า คนไทยบริโภคโซเดียมเกือบ 3,632 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 1.8 ช้อนชา สูงกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้เกือบ 2 เท่า โดยมาตรฐานของ WHO กำหนดว่าใน 1 วันไม่ควรบริโภคโซเดียมเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัมหรือปริมาณเกลือ 1 ช้อนชา หรือปริมาณน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา และปริมาณซีอิ๊วไม่เกิน 5 ช้อนชา

นอกจากนี้ งานวิจัยปี 2012 ของคณะแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ยังพบว่า การบริโภคโซเดียมมากเกินไป ทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมจากทางปัสสาวะมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ แคลเซียมปริมาณสูงในปัสสาวะ ยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดก้อนนิ่วในไตเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://leadstories.com/hoax-alert/2024/04/fact-check-dairy-consumption-does-not-lead-to-calcium-deficiency-due-to-acidity.html
https://factly.in/this-video-alleging-milk-being-a-significant-contributor-to-osteoporosis-disease-is-misleading/
https://www.osteoporosis.foundation/sites/iofbonehealth/files/2019-03/2015_ServeUpDairyProducts_FactSheet_English_0.pdf
https://www.nstda.or.th/sci2pub/sodium-affects-bone-mass/
https://www.hfocus.org/content/2022/05/25190

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]