ชัวร์ก่อนแชร์: ดื่มนมบ่อยทำให้เป็นโรคกระดูกพรุน จริงหรือ?

13 มิถุนายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีคลิปวิดีโอข้อมูลเท็จเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในหลายประเทศ โดยอ้างว่าการดื่มนมไม่มีประโยชน์ต่อความแข็งแรงของกระดูก เนื่องจากความเป็นกรดของนมจะไปดึงแคลเซียมออกมาจากกระดูก นำไปสู่โรคกระดูกพรุน การรับโปรตีนจากนมวัวในปริมาณมาก ยังกระตุ้นการขับแคลเซียมทางปัสสาวะ และอ้างว่าประชากรป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ส่วนใหญ่จะมาจากชาติตะวันตกที่นิยมการดื่มนมวัว


บทสรุป :

  1. เป็นข้ออ้างจากหมอที่ถูกห้ามรักษาในออสเตรเลียเพราะเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
  2. ความเป็นกรดในนมจะหายไปจากกระบวนการย่อยอาหาร
  3. แคลเซียมจากการดื่มนม ป้องกันการไม่ให้ร่างกายดึงแคลเซียมจากกระดูก ลดโอกาสโรคกระดูกพรุน
  4. ชาติตะวันตกที่นิยมดื่มนมแต่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนบ่อย มาจากหลายปัจจัย ทั้งสังคมผู้สูงอายุและการขาดวิตามินดีจากแสงแดด เป้นต้น

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ข้ออ้างจากหมอที่ถูกห้ามรักษา


เจ้าของข้อความกล่าวอ้างที่แชร์ทางออนไลน์ คือ บาร์บารา โอนีล นักธรรมชาติบำบัดชาวออสเตรเลีย ที่ถูกสั่งห้ามรักษาผู้ป่วยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลียเป็นการถาวรตั้งแต่ปี 2019 จากข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จทางการแพทย์โดยไม่มีหลักฐานซึ่งเป็นภัยต่อสุขภาพประชาชน

แคลเซียมในนมวัวและร่างกายมนุษย์

โครงสร้างหลักของนมวัวมีน้ำเป็นส่วนประกอบ 87% โดย 13% ที่เหลือได้แก่ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ได้แก่ แคลเซียม และ ฟอสฟอรัส

โดยน้ำนม 1 ลิตรมีโปรตีน 35 กรัม และปริมาณแคลเซียม 1,200 มิลลิกรัม

มนุษย์มีปริมาณแคลเซียมในร่างกายประมาณ 920-1,200 กรัม โดย 99% อยู่ที่กระดูกและฟัน มีสัดส่วนคิดเป็น 1.5% ของน้ำหนักตัว

ข้อมูลจาก Academy of Nutrition and Dietetics หน่วยงานด้านอาหารและโภชนาการของสหรัฐอเมริการะบุว่า แคลเซียมคือแร่ธาตุที่ร่างกายมนุษย์ผลิตเองไม่ได้ การดื่มนมวัวซึ่งมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายหลายชนิด จึงมีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก

การขับแคลเซียมทางปัสสาวะจากการดื่มนม

มีการศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างการดื่มนมมากเกินไปกับความแข็งแรงของกระดูก จากกระบวนการขับแคลเซียมทางปัสสาวะ อย่างไรก็ดี งานวิจัยหลายชิ้นต่างยืนยันว่า การได้รับแคลเซียมอย่างเหมาะสมจากน้ำนม มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างชัดเจน

การดื่มนมไม่ใช่สาเหตุของโรคกระดูกพรุน

มูลนิธิโรคกระดูกพรุนนานาชาติ หรือ International Osteoporosis Foundation ได้จัดทำข้อมูล Fact Sheet เพื่อชี้แจงประเด็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดื่มนมและโรคกระดูกพรุนดังนี้

  1. นมมีความเป็นกรด การบริโภคนมและโยเกิร์ตเพิ่มความเป็นกรดในเลือด ร่างกายจึงต้องดึงแคลเซียมจากกระดูกเพื่อป้องกันสภาวะกรดเกินในร่างกาย การดื่มนมจึงเสี่ยงทำให้กระดูกพรุน – ข้อมูลเท็จ

นมและโยเกิร์ตไม่ใช่อาหารที่สร้างกรดในร่างกาย ความเป็นกรดในนมจะหายไประหว่างกระบวนการย่อยอาหาร หากร่างกายได้รับปริมาณแคลเซียมอย่างเพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องดึงแคลเซียมมาจากกระดูก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคกระดูกพรุน

  1. ชาติตะวันตกที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม กลับพบผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนและกระดูกหักมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ แสดงว่านมคือสาเหตุของโรคกระดูกพรุน – ข้อมูลเท็จ

สาเหตุการเกิดโรคกระดูกพรุนมีหลายปัจจัย ทั้งอายุ พันธุกรรม และ พฤติกรรม เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การทำกิจกรรม รวมถึงน้ำหนักตัว ทั้งหมดนี้ล้วนมีความสัมพันธ์ต่อโรคกระดูกมากกว่าการดื่มนม

หลายประเทศที่มีประชากรป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนจำนวนมาก พบว่าเป็นประเทศที่ประชากรมีอายุขัยยืนยาว เช่น ประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย การมีอายุยืนยาวส่งผลให้พบจำนวนผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนมากขึ้นเช่นกัน

แม้การดื่มนมอย่างเดียวจะไม่รับประกันการป้องกันโรคกระดูกพรุน แต่การดื่มนมก็ไม่ใช่สาเหตุของการป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนเช่นกัน

การกินเกลือไม่ช่วยเสริมกระดูก

บาร์บารา โอนีล ยังเผยแพร่ความเชื่อผิด ๆ ด้วยการแนะนำให้ผู้ฟังเลี่ยงการดื่มนมวัว แล้วหันมารับแคลเซียมจากการบริโภคเกลือแทน

แม้การบริโภคเกลืออย่างเหมาะสม จะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโซเดียมคลอไรด์ที่เพียงพอต่อร่างกาย อย่างไรก็ดี ในเกลือมีปริมาณแคลเซียมที่น้อยมาก การบริโภคเกลือจำนวนมากกลับยิ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายและสุขภาพของกระดูกโดยรวม

ข้อมูลจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ระบุว่า เกลือ 1 ช้อนชา มีแคลเซียมเพียง 1.44 มิลลิกรัมเท่านั้น

สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NIH) ระบุว่า ผู้ใหญ่ควรได้รับแคลเซียม 1,300 มิลลิกรัมต่อวัน

ดังนั้นการบริโภคเกลือเพียงอย่างเดียว นอกจากไม่ช่วยให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอแล้ว ยังส่งผลเสียต่อการรับโซเดียมคลอไรด์มากเกินปกติอีกด้วย

องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ระบุว่า ใน 1 วันไม่ควรบริโภคโซเดียมเกิน 2,300 มิลลิกรัมหรือปริมาณเกลือ 1 ช้อนชา แต่พบว่าชาวอเมริกันบริโภคโซเดียมเฉลี่ย 3,400 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งการได้รับโซเดียมมากเกินไปเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคความดันเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง

ข้อมูลจากภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยว่า คนไทยบริโภคโซเดียมเกือบ 3,632 มิลลิกรัมต่อวัน หรือ 1.8 ช้อนชา สูงกว่าปริมาณที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดไว้เกือบ 2 เท่า โดยมาตรฐานของ WHO กำหนดว่าใน 1 วันไม่ควรบริโภคโซเดียมเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัมหรือปริมาณเกลือ 1 ช้อนชา หรือปริมาณน้ำปลาไม่เกิน 4 ช้อนชา และปริมาณซีอิ๊วไม่เกิน 5 ช้อนชา

นอกจากนี้ งานวิจัยปี 2012 ของคณะแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ยังพบว่า การบริโภคโซเดียมมากเกินไป ทำให้ร่างกายสูญเสียแคลเซียมจากทางปัสสาวะมากขึ้น เพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ แคลเซียมปริมาณสูงในปัสสาวะ ยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดก้อนนิ่วในไตเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://leadstories.com/hoax-alert/2024/04/fact-check-dairy-consumption-does-not-lead-to-calcium-deficiency-due-to-acidity.html
https://factly.in/this-video-alleging-milk-being-a-significant-contributor-to-osteoporosis-disease-is-misleading/
https://www.osteoporosis.foundation/sites/iofbonehealth/files/2019-03/2015_ServeUpDairyProducts_FactSheet_English_0.pdf
https://www.nstda.or.th/sci2pub/sodium-affects-bone-mass/
https://www.hfocus.org/content/2022/05/25190

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”