ชัวร์ก่อนแชร์: ใช้เขียงพลาสติก เสี่ยงอาหารปนเปื้อน “ไมโครพลาสติก” จริงหรือ?

14 พฤษภาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลที่แชร์ทาง X (Twitter) ด้วยยอดวิวกว่า 26.5 ล้านครั้ง โดยอ้างว่า การใช้เขียงพลาสติกทำอาหาร เพิ่มความเสี่ยงการปนเปื้อนไมโครพลาสติกในอาหารมากกว่าการใช้เขียงชนิดอื่น ๆ


บทสรุป :

  1. มีงานวิจัยพบว่า การใช้เขียงพลาสติกทำให้อาหารปนเปื้อนไมโครพลาสติกจริง
  2. แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า ปริมาณไมโครพลาสติกเท่าใดจึงเป็นอันตรายต่อมนุษย์

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

จากการตรวจสอบโดย Snopes พบว่าข้อความดังกล่าว อ้างอิงงานวิจัยขนาดเล็กในปี 2023 ที่เผยแพร่โดยวารสารวิชาการ Environmental Science & Technology ของสมาคม American Chemical Society ที่พบอนุภาคไมโครพลาสติกในอาหารที่ใช้เขียงพลาสติกมากกว่าเขียงชนิดอื่น ๆ


กระบวนการวิจัย

ทีมวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่า เขียงแต่ละชนิดและรูปแบบการใช้มีด มีผลต่อปริมาณการปนเปื้อนไมโครพลาสติกที่แตกต่างกัน

การทดลองชุดแรก แบ่งให้อาสาสมัคร 5 รายใช้มีดสับเขียงพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีนหรือ PE โดยไม่มีอาหารอยู่บนเขียง แล้วตรวจปริมาณไมโครพลาสติก

ต่อมา อาสาสมัครชุดเดิมได้สับอาหารด้วยมีดบนเขียงเปล่า 3 ชนิด ได้แก่ เขียงพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีนหรือ PE เขียงพลาสติกชนิดพอลิโพรพีลีนหรือ PP และเขียงไม้ แล้วจึงเปรียบเทียบปริมาณไมโครพลาสติก

สุดท้าย อาสาสมัครนำแคร์รอตมาสับบนเขียงพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีนหรือ PE เพื่อเปรียบเทียบปริมาณไมโครพลาสติกที่พบจากการสับเขียงเปล่ากับตอนที่มีแคร์รอต

พบปริมาณไมโครพลาสติกจากเขียงพลาสติกจำนวนมาก

ทีมวิจัยสรุปว่าการใช้เขียงพลาสติก คือสาเหตุการสะสมไมโครพลาสติกในอาหารของมนุษย์ โดยพบว่าไมโครพลาสติกจากการใช้เขียงพลาสติกชนิดพอลิโพรพีลีนหรือ PP มีปริมาณมากกว่าเขียงพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีนหรือ PE อย่างชัดเจน โดยมวลไมโครพลาสติกสูงกว่า 5-60% ส่วนจำนวนไมโครพลาสติกมีมากกว่า 14-71%

ทีมวิจัยประเมินว่า แต่ละปี คนจะได้รับไมโครพลาสติกจากเขียงพลาสติกชนิดพอลิโพรพีลีนหรือ PP ปริมาณ 49.5 กรัม และจากเขียงพลาสติกชนิดพอลิเอทิลีน หรือ PE ประมาณ 7.4-50.7 กรัม

อย่างไรก็ดี ตัวแปรยังมาจากวิธีและแรงที่ใช้ในการหั่น รวมถึงชนิดของวัตถุดิบและอายุการใช้งานของเขียง ซึ่งมีผลต่อปริมาณการพบไมโครพลาสติกเช่นกัน

ผลกระทบต่อสุขภาพยังไม่ชัดเจน

การทดสอบความเป็นพิษเบื้องต้นเป็นเวลา 72 ชั่วโมงพบว่า ไมโครพลาสติกจากพอลิเอทิลีนหรือ PE ไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์สร้างเส้นใยของหนูทดลองแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี ผลกระทบระยะยาวของการกินอาหารปนเปื้อนไมโครพลาสติกยังไม่เป็นที่แน่ชัด และจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป

ทาชา สตอยเบอร์ นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของกลุ่ม Environmental Working Group ย้ำว่า แม้การศึกษาผลกระทบของไมโครพลาสติกในมนุษย์ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันถึงผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสัตว์และสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน เช่น การทดลองในสัตว์พบว่าไมโครพลาสติกส่งผลต่อการขาดความสมดุลระหว่างอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมน และผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์

ความเห็นขัดแย้งจากงงานวิจัย

ผลวิจัยของ American Chemical Society นำมาซึ่งความเห็นที่หลากหลายในวงการวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้พลาสติกในชีวิตประจำวัน

มาร์ค โจนส์ อดีตนักเคมีอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านไมโครพลาสติก ยืนยันว่า เขาจะไม่เลิกใช้เขียงพลาสติกเพราะผลจากงานวิจัยชิ้นนี้ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นเพียงพอว่า ปริมาณไมโครพลาสติกที่พบจะส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างชัดเจน แม้จะมีความกังวลต่อผลกระทบในระยะยาว แต่ทุกวันนี้มนุษย์ก็ได้รับไมโครพลาสติกจากของใช้ในชีวิตประจำวันจำนวนมาก ทั้ง ขวดน้ำ เสื้อผ้า ยางรถยนต์ สีทาบ้าน รวมถึงของใช้อื่น ๆ อีกมากมาย และไม่มีหลักฐานว่าส่งผลต่อสุขภาพของผู้คนอย่างไร

ต่างกับ ทาชา สตอยเบอร์ ของกลุ่ม Environmental Working Group ที่ย้ำว่า แม้งานวิจัยผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อมนุษย์จะอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่ผลที่ออกมาก็มีความน่ากังวล ส่วนตัวเธอเลือกไม่ใช้เขียงพลาสติกทำอาหารมาตั้งแต่ต้น เพราะนอกจากไมโครพลาสติกแล้ว ในอุปกรณ์พลาสติกยังมีส่วนผสมของสารเคมีอีกหลายชนิด เช่น พาเลต ซึ่งช่วยให้พลาสติกมีความยืดหยุ่นและทนทานมากขึ้น หากได้รับในปริมาณมาก ก็จะส่งผลต่อความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมนและผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์เช่นกัน

เขียงพลาสติกยังทำความสะอาดได้ยากกว่าและเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับเขียงไม้ เพราะเขียงพลาสติกง่ายต่อการเกิดรอยขีดข่วนจากการหั่นซึ่งยากต่อการทำความสะอาด นอกจากนี้เขียงพลาสติกยังมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าเขียงชนิดอื่น ๆ เธอจึงไม่คิดจะใช้เขียงพลาสติกมาตั้งแต่แรกแล้ว

ความเห็นจาก WHO

ข้อมูลล่าสุดเมื่อปี 2032 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับไมโครพลาสติกระบุว่า ปัจจุบันยังมีหลักฐานที่จำกัดสำหรับข้อสรุปเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจากไมโครพลาสติก และจำเป็นต้องมีการวิจัยที่ชัดเจนยิ่งกว่านี้ เพื่อยืนยันถึงผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อสุขภาพของมนุษย์ในอนาคต

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.snopes.com/fact-check/cutting-boards-microplastics/
https://www.yahoo.com/lifestyle/your-plastic-cutting-board-is-releasing-microplastics-that-can-get-into-food-does-that-mean-you-should-ditch-it-004918070.html

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร