Watch the Water : สารคดีวิทยาศาสตร์ปลอม “ไวรัสโควิดคือพิษงู”

09 พฤษภาคม 2567
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ก่อนหน้าที่ สตู ปีเตอร์ส นักจัดรายการผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง จะโด่งดังกับสารคดีต่อต้านวัคซีนโควิด-19 ทั้ง Died Suddenly และ Final Days ช่วงกลางปี 2022 เขาได้นำเสนอสารคดีความยาว 45 นาทีเรื่อง Watch the Water เนื้อหาเป็นการสัมภาษณ์ ไบรอัน อาร์ดิส อดีตแพทย์ด้านการบำบัดโรคด้วยการจับกระดูกสันหลัง ผู้มีประวัติสร้างข่าวปลอมเกี่ยวกับความปลอดภัยของการใช้ยาต้านไวรัส Remdesivir รักษาผู้ป่วยโควิด-19

ทฤษฎีที่ ไบรอัน อาร์ดิส ชักจูงให้ผู้ชมคล้อยตามใน Watch the Water คือการอ้างว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นผลจากแผนอันชั่วร้ายที่เรียกว่า Plandemic จากการร่วมมือระหว่างศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) และคริสตจักรโรมันคาทอลิก โดยอ้างว่าไวรัสโควิด-19 แท้จริงแล้วเกิดมาจากพิษของงู, ยาต้านไวรัส Remdesivir มีส่วนประกอบของพิษงู และมีแผนแพร่เชื้อโควิด-19 ผ่านทางแหล่งน้ำอีกด้วย


Watch the Water ทำยอดรับชมผ่านทาง Rumble สื่อสังคมออนไลน์ของผู้ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมและต่อต้านมาตรการโควิด-19 มากกว่า 3 ล้านครั้ง

จากการตรวจสอบโดยเว็บไซต์ Fact Check ทั้ง Politifact และ Factcheck.org พบว่าข้อกล่าวอ้างใน Watch the Water ล้วนเป็นข้อมูลเท็จ โดยแยกเป็นประเด็นได้ดังนี้

  1. ไวรัสโควิด-19 คือพิษงู – ข้อมูลเท็จ

ไบรอัน อาร์ดิส เชื่อมโยงไวรัสโควิด-19 กับพิษงู ด้วยเหตุผลที่ว่า มีการใช้เซรุ่มพิษงูในการรักษาผู้ป่วยที่ถูกงูกัด เหมือนการแนะนำให้ใช้ Monoclonal Antibodies ที่สกัดจากผู้ที่หายป่วยโควิด-19 มารักษาตัวผู้ป่วยโควิด-19 อีกที


อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญต่างยืนยันว่า ไวรัสโควิด-19 กับพิษงู หรือเซรุ่มพิษงูกับ Monoclonal Antibodies มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

การศึกษาและแยกตัวอย่างเชื้อโควิด-19 โดยนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ยืนยันว่าโรคโควิด-19 เกิดจากการติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจ แตกต่างจากพิษงูซึ่งเป็นสารคัดหลั่งที่มีพิษของงู พิษงูจะไม่แพร่ระบาดในอากาศเหมือนกับไวรัสระบบทางเดินหายใจ

ดร.โรเบิร์ต แกรี นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยทูเลน สหรัฐอเมริกา เปรียบเทียบว่า เซรุ่มพิษงูสร้างขึ้นด้วยการฉีดพิษงูเข้าไปในร่างกายสัตว์ที่มีภูมิป้องกันพิษงูในปริมาณมาก เช่น ม้าและแกะ จากนั้นจึงนำแอนติบอดีที่ได้จากสัตว์มาผลิตเซรุ่มพิษงู ส่วน Monoclonal Antibodies เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ เช่น ไวรัสโคโรนา ปัจจุบันยังไม่มีการผลิต Monoclonal Antibodies สำหรับรักษาพิษงูแต่อย่างใด

ไบรอัน อาร์ดิส ยังนำงานวิจัย 4 ชิ้นที่เกี่ยวกับพิษงู มาชักจูงให้เชื่อว่าไวรัสโควิด-19 คือพิษงู

งานวิจัยชิ้นแรกเป็นของ ปิงหลิว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่ง ไบรอัน อาร์ดิส อ้างว่าเป็นงานวิจัยที่พบว่าไวรัสโควิด-19 คือพิษงู แต่ผู้วิจัยถูกยิงเสียชีวิตเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2020 ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นการฆาตกรรมปิดปากเพื่อป้องกันการเปิดเผยความจริงนี้

อย่างไรก็ดี มหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กชี้แจงว่า คำกล่าวอ้างของ ไบรอัน อาร์ดิส ไม่ถูกต้องและไม่เป็นไปตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ส่วนรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า การเสียชีวิตชีวิตของ ปิงหลิว ไม่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่เขาทำ

งานวิจัยชิ้นที่ 2 ที่ ไบรอัน อาร์ดิส ยกมาอ้าง เป็นงานวิจัยเชื่อว่างูคือแหล่งรังโรคของไวรัสโควิด-19 แต่ ดร.โรเบิร์ต แกรี นักไวรัสวิทยาชี้แจงว่า ผลวิจัยชิ้นนี้เป็นแค่สมมติฐานทางทฤษฎี และถูกหักล้างในเวลาไม่นาน

งานวิจัยชิ้นที่ 3 ไบรอัน อาร์ดิส อ้างว่า พบว่ามีเอนไซม์ของพิษงูหางกระดิ่งในเลือดของผู้ป่วยโควิด-19 แต่ความจริงแล้ว งานวิจัยพบว่าในร่างกายของคนปกติ จะมีเอนไซม์ชนิดหนึ่งซึ่งคล้ายกับเอนไซม์ที่พบในพิษงูหางกระดิ่ง ทำหน้าที่ทำลายเชื้อแบคทีเรียในร่างกายมนุษย์ แต่เมื่อมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เอนไซม์ตัวนี้จะเพิ่มปริมาณมากกว่าปกติ จากการตรวจสอบร่างกายของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 พบว่าเอนไซม์ตัวนี้ส่งผลต่อการอักเสบของอวัยวะหลาย ๆ ส่วนของผู้ตาย

งานวิจัยชิ้นที่ 4 พบว่า พิษ 19 ชนิดจากงูเห่าอินเดียสามารถใช้พัฒนาเซรุ่มพิษงูให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่ง ไบรอัน อาร์ดิส อ้างว่าตัวเลข 19 ในที่นี้ คือที่มาของการตั้งชื่อไวรัสโควิด-19 ซึ่ง กัส ไรท์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส เอแอนด์เอ็ม หนึ่งในทีมวิจัยยืนยันว่า งานวิจัยของเขาไม่มีความเกี่ยวพันกับไวรัสโควิด-19 ตัวเลข 19 ของโควิด-19 เป็นที่รู้กันว่าตั้งจากปีที่พบการแพร่ระบาดเป็นครั้งแรก คำกล่าวอ้างของ ไบรอัน อาร์ดิส มีความผิดเพี้ยนและน่าหงุดหงิดอย่างมาก

ดร.เดวิด เรลแมน ศาสตราจารย์ด้านจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยา มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ยืนยันว่า ข้อกล่าวอ้างของ ไบรอัน อาร์ดิส ช่างห่างไกลจากความเป็นจริง สื่อถึงการขาดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์อย่างยิ่งยวด และเต็มไปด้วยตรรกะที่บิดเบี้ยว เพราะไม่มีหลักฐานใด ๆ ยืนยันว่าไวรัส SARS-CoV-2 หรือโรคโควิด-19 เกิดจากงูหรือพิษงู ข้ออ้างของ ไบรอัน อาร์ดิส เหมือนเป็นการนำเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ มาปะติดปะต่อเป็นภาพลวงชิ้นใหญ่

ในช่วงท้ายของสารคดี ไบรอัน อาร์ดิส ถึงกับอ้างว่า เมื่อนำคำว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือ Coronavirus Pandemic ไปแปลเป็นภาษาลาติน จะมีความหมายว่า การแพร่ระบาดของพิษงูจากพระสันตะปาปา (The pope’s venom pandemic) หรือการแพร่ระบาดของพิษงูจงอาง (King cobra venom pandemic)

มาสซิโม เซ นักพจนานุกรมจาก Thesaurus Linguae Latinae สถาบันพจนานุกรมภาษาลาตินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยืนยันว่าการแปลของไบรอัน อาร์ดิสผิดพลาดโดยสิ้นเชิง ชื่อไวรัสโคโรนาถูกใช้ในแวดวงวิทยาศาสตร์มาหลายทศวรรษ ส่วนคำว่าโคโรนาในภาษาลาตินก็ใช้มาแล้วหลายศตวรรษ โดยมีความหมายว่าทรงกลดที่ล้อมรอบดวงอาทิตย์และดวงจันทร์

  1. ยา Remdesivir มีพิษงู เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโควิด-19

ไบรอัน อาร์ดิส อ้างหลักฐานว่า การที่พิษงูและสภาพของยา Remdesivir ที่ถูกจัดเก็บ มีสีขาวอมเหลืองอ่อนเหมือนกัน ทำให้เชื่อว่า Remdesivir น่าจะมีส่วนประกอบของพิษงู

อย่างไรก็ดี Gilead Sciences บริษัทเวชภัณฑ์ผู้ผลิตยา Remdesivir ยืนยันว่าตัวยาไม่มีส่วนผสมของพิษงูตามที่กล่าวอ้าง

ดร.แคเธอรีน ซีลีย์-แรดท์กี ศาสตราจารย์ภาควิชาเคมีและชีวเคมี มหาวิทยาลัย University of Maryland ยืนยันว่ายา Remdesivir ไม่ได้ผลิตจากพิษของงู โครงสร้างของยา Remdesivir จัดอยู่ในกลุ่มยาต้านไวรัสชนิด Nucleoside Analogue ซึ่งทำหน้าที่ยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสในเซลล์ที่ติดเชื้อ ส่วนโครงสร้างของพิษงูมีความซับซ้อนกว่ามาก

ไบรอัน อาร์ดิส ยังอ้างงานวิจัยที่พบว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวด้วยยา Remdesivir จะมีอัตราเสียชีวิตสูงถึง 53%

อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวเป็นการตรวจสอบประสิทธิผลของยา Remdesivir กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอีโบลา และก็ไม่มีการยืนยันว่ายา Remdesivir คือสาเหตุการเสียชีวิตเหล่านั้นอีกด้วย

นอกจากนี้ผู้วิจัยยังไม่พบว่า อาการข้างเคียงจากการใช้ยา Remdesivir ของผู้ป่วยโควิด-19 มีความแตกต่างจากผู้ป่วยที่ไม่ใช้ยานี้ แม้จะไม่มียาชนิดไหนที่มีประสิทธิผล 100% แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่ายา Remdesivir ทำให้ผู้ป่วยโควิด-19 มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าการไม่ใช้ยา

  1. น้ำคือช่องทางแพร่ระบาดของโควิด-19

ไบรอัน อาร์ดิส ซึ่งเคยอ้างว่าวัคซีนโควิด-19 ทำให้ผู้รับวัคซีนมีพลังงานแม่เหล็ก ยังอ้างว่ามีการลอบแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ตามแหล่งน้ำสาธารณะ โดยอ้างว่าเชื้อโควิด-19 ที่อยู่ในแหล่งน้ำน่าจะเป็นส่วนผสมระหว่างพิษงูสามเหลี่ยมและงูเห่า เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว พิษจะแทรกซึมสู่ก้านสมอง ทำให้กะบังลมเป็นอัมพาต ส่งผลต่อการหายใจ

ไบรอัน อาร์ดิส โจมตีว่า แผนการดังกล่าวมาจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) เนื่องจากมีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแหล่งน้ำหลายแห่ง และคิดว่าคริสตจักรโรมันคาทอลิกน่าจะมีส่วนรู้เห็นเรื่องเหล่านี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการโชว์คลิปวิดีโอการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากน้ำในท่อประปาแล้วให้ผลเป็นบวก แม้จะเป็นคลิปที่ได้รับการพิสูจน์ในภายหลังว่าเป็นข้อมูลเท็จ

อย่างไรก็ดี การพิสูจน์อย่างชัดเจนยืนยันได้ว่าโรคโควิด-19 เกิดจากเชื้อไวรัส CDC และไม่พบว่าไวรัสโควิด-19 มีอยู่ในน้ำดื่มแต่อย่างใด

ไบรอัน อาร์ดิส ยังนำข้ออ้างดังกล่าว ไปเปรียบเทียบกับเรื่องราวในซีรีส์เรื่อง The Blacklist ซึ่งมีฉากที่ตัวละครถูกลอบวางยาด้วยพิษงู ซึ่งถูกแอบมาใส่ไว้ในเครื่องดื่ม

จอน โบเคนแคมป์ ผู้ผลิตซีรีส์ The Blacklist ยืนยันต่อทาง Factcheck.org ว่า เนื้อหาในซีรีส์ที่ถูกอ้างถึง ออกอากาศมาตั้งแต่ปี 2017 และไม่มีความเกี่ยวพันกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด

เนื้อหาในซีรีส์เป็นแผนการของวายร้ายที่แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น การที่ซีรีส์ The Blacklist ออกอากาศมาอย่างยาวนาน จึงเป็นไปได้ที่เนื้อหาของซีรีส์จะไปตรงกับเหตุการณ์ในโลกแห่งความเป็นจริง

เช่น เนื้อหาในตอน The Troll Farmer ที่เผยแพร่เมื่อปี 2015 ที่กล่าวถึงการใช้ข้อมูลเท็จเป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจผิด จนลุกลามและส่งผลต่อเหตุการณ์ในโลกของความเป็นจริงในเวลาต่อมา

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2022/apr/19/watch-water/stew-peters-film-watch-water-ridiculously-claims-c/
https://www.factcheck.org/2022/04/scicheck-covid-19-is-caused-by-a-virus-not-snake-venom/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เยี่ยมชมจุดเจาะน้ำบาดาล พร้อมดื่มน้ำแร่เลาขวัญ

กาญจนบุรี 9 มิ.ย.-นายกฯ ตรวจราชการ เยี่ยมชม 2 โครงการน้ำบาดาลแก้ภัยแล้ง จ.กาญจบุรี เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นและทั่วถึง เตรียมใช้งบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแก้ปัญหาน้ำ เผยรอยยิ้มของคนกาญจนบุรีเป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จังหวัดกาญจนบุรี 2 แห่ง โดยจุดแรก ที่บ้านปากชัดหนองบัว ต.หนองฝ้าย อ.เลาขวัญ จ. กาญจนบุรี โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะนายกฯ นายกรัฐมนตรีรับฟังบรรยายสรุปจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งเตรียมที่จะมีโครงการเสนอของบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหมวดโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ 12 โครงการ 3,194 รายการงบประมาณทั้งสิ้น 14,859 ล้านบาท โดยประชาชนจะได้รับประโยชน์กว่า 563,239 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 134,620 ไร่ และจะเกิดการจ้างงาน 29,214 คนรวมถึงเพิ่มปริมาณน้ำได้ถึง 211.46 ลูกบาศก์เมตรต่อปี […]

ปัตตานีป่วนซ้ำ เก็บกู้ระเบิดลูกที่ 3 ได้สำเร็จ

ปัตตานี 9 มิ.ย. – ปัตตานีป่วนซ้ำ! เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดลูกที่ 3 หลังเกิดเหตุระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่ง เมื่อคืน คาดเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน แต่ลูก 3 ไม่ทำงาน พร้อมเปิดเบาะแสภาพจากกล้องวงจรปิด ป่วนตั้งแต่ 6 โมงเช้า ชาวบ้านพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่หน้าร้านค้า ในตลาดมะกรูด อ.เมือง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่รีบไปตรวจสอบ โดยใช้หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด เข้าตรวจสอบในเบื้องต้น พบถุงกระดาษที่ใช้บรรจุกาแฟเย็น ภายในพบแผงวงจรระเบิด ประกอบด้วย หน้าปัดนาฬิกา และสายไฟ เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เพื่อความเปลอดภัย จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ใช้อุปกรณ์เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า เป็นระเบิดตั้งเวลาไว้ แต่ไม่ทำงาน เจ้าหน้าที่ปลดชนวด เก็บกู้ได้สำเร็จ เบื้องต้นพบว่า ระเบิดลูกนี้ตั้งเวลาไว้ที่ 2 ทุ่มครึ่ง แต่ระเบิดไม่ทำงาน คาดว่าคนที่นำระเบิดลูกนี้มาวางไว้ น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่วางระเบิด 2 ลูก ที่ตลาดโต้รุ่ง เมื่อคืนนี้ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากภาพกล้องวงจรปิด พบผู้ต้องสงสัย […]

ด่านคลองลึกแน่น คนไทย-กัมพูชา รอคิวข้ามแดน

สระแก้ว 9 มิ.ย. – ด่านคลองลึกแน่น! คนไทย-กัมพูชา รอคิวผ่านพรมแดนอรัญประเทศ หลัง 2 ฝั่ง ปรับเวลาเปิด-ปิดด่าน ไม่ตรงกัน บรรยากาศบริเวณด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เช้าตรู่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาจำนวนมากหลั่งไหลมาเข้าคิวเพื่อรอข้ามแดนกันอย่างเนืองแน่น เนื่องจากไทย ปรับเปลี่ยนเวลาการเปิด-ปิดด่านใหม่ ส่งผลให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้า-ออกประเทศต้องเร่งรีบมาเข้าคิวแต่เช้ามืด หวังจะได้เดินทางกลับประเทศโดยเร็ว บางคนเดินทางมารอที่ด่านตั้งแต่ ตี 5 อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะเปิดด่านเวลา 08.00 น. แต่กัมพูชายังคงใช้เวลาเปิดด่านตามเดิมคือ 09.00 น. ส่งผลให้ประชาชนทั้งสองฝั่งต้องรอนานขึ้น แถวผู้โดยสารจึงยาวเหยียดล้นออกมานอกบริเวณด่าน สร้างความแออัดและความไม่สะดวกให้กับผู้เดินทางจำนวนมาก ขณะที่บรรยากาศโดยรอบยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาที่ยังคงทยอยเดินทางเข้ามายังฝั่งไทยไม่ขาดสาย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งสองฝั่งต้องเร่งมือในการอำนวยความสะดวก รวมถึงจัดระเบียบแถวเพื่อป้องกันความโกลาหล สำหรับประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามแดนในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เผื่อเวลาในการเดินทางและตรวจสอบข้อมูลเวลาการเปิด-ปิดด่านของทั้งสองประเทศอย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงต่อความล่าช้าและความไม่สะดวก เช่นเดียวกับบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เวลาเปิดด่านชายแดนของไทยและกัมพูชาที่ไม่ตรงกันทำวุ่น โดยเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้เปิดประตูด่านช่องจอม ท่ามกลางการเฝ้าสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และฝ่ายปกครองของไทย แต่ทางประตูของฝั่งกัมพูชาไม่เปิด ทหารไทยพยายามเข้าเจรจาเกี่ยวกับเวลาเปิดด่าน เพื่อให้นักเรียนข้ามไปสอบให้ทันเวลา […]