ชัวร์ก่อนแชร์: CDC ยอมรับผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันจะเพิ่มขึ้นเพราะวัคซีนโควิด จริงหรือ?

21 มีนาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการอ้างว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ยอมรับในคลิปวิดีโอว่า ภายในปี 2050 จะมีผู้ป่วยรักษาตัวด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า จากปัญหาการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนโควิด-19


บทสรุป :

1.ปัจจัยทำให้ผู้ป่วยโรคลิ่มเลือดเพิ่มขึ้นมาจากการขยายตัวของประชากรสูงวัยและผู้ป่วยโรคอ้วน ไม่เกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19

  1. นอกจากนี้การติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มความเสี่ยงการเป็นลิ่มเลือดอุดตันอีกด้วย

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


คลิปวิดีโอดังกล่าว นำมาจากการประชุมทางออนไลน์เรื่องแนวทางการรักษาลิ่มเลือดอุดตันโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กันยายนปี 2022 โดย 73% ของผู้ร่วมประชุมเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และทำยอดวิวทาง YouTube เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2022 ที่ 89 วิว

ผู้ร่วมประชุมทางออนไลน์ในวันนั้นได้แก่ อัลลิสัน เบิร์นเนตต์ ประธานองค์กร Anticoagulation Forum ซึ่งทำงานร่วมกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพเพื่อพัฒนาการรักษาผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตัน และ ดร. คาโรไลน์ ครอมเวลล์ ผู้อำนวยการโครงการรักษาผู้ป่วยโรคลิ่มเลือด เครือข่ายโรงพยาบาล Mount Sinai Health System ในสหรัฐอเมริกา

หัวใจของการประชุมทางออนไลน์ คือการอ้างงานวิจัยที่ประเมินว่า ภายในปี 2050 จำนวนผู้ป่วยที่ต้องรักษาตัวด้วยยาต้านการแข็งตัวของเลือดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

อย่างไรก็ดี ข้อมูลดังกล่าวถูกกลุ่มต่อต้านวัคซีนนำไปเชื่อมโยงว่า ปัญหาการเพิ่มผู้ป่วยลิ่มเลือดมาจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจทางโลกออนไลน์ในเวลาต่อมา

แคนไดซ์ โอเวนส์ นักวิพากษ์การเมืองแนวคิดอนุรักษ์นิยมที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน นำข้อความบิดเบือนไปแชร์ต่อทาง Instagram จนมียอดไลก์กว่า 31,000 ครั้ง ส่วน คริส สโคเชีย นักเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด ก็นำข้อความบิดเบือนไปเผยแพร่ทางคลิปวิดีโอใน Telegram จนทำยอดวิวไปกว่า 24,000 ครั้ง

การนำข้อมูลที่ประเมินว่าจะมีผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปี 2050 มาเชื่อมโยงกับวัคซีนโควิด-19 เป็นการอ้างอิงที่ไม่ถูกต้อง เพราะงานวิจัยที่ใช้ในการประเมินครั้งนี้ เป็นการศึกษาที่ทำขึ้นก่อนการผลิตวัคซีนโควิด-19 นานนับทศวรรษ

อัลลิสัน เบิร์นเนตต์ ประธานองค์กร Anticoagulation Forum ชี้แจงว่า ปัจจัยที่ทำให้เชื่อว่าจะทำให้ผู้ป่วยลิ่มเลือดอุดตันเพิ่มมากในอนาคต มาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและการเพิ่มขึ้นของผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน

ปัจจัยทั้งสองคือสาเหตุที่นำไปสู่ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำอุดตันหรือ VTE (Venous Thrombosis) ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก มักเกิดขึ้นบริเวณขา หากลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่ปอดอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

รวมถึงภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว หรือ A-Fib (Atrial Fibrillation) ซึ่งเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ส่งผลให้หัวใจห้องบนทั้งสองห้องไม่บีบตัวตามปกติ ทำให้มีเลือดคั่ง อาจนำไปสู่การเกิดลิ่มเลือดได้ หากลิ่มเลือดเข้าสู่กระแสเลือดก็จะทำให้เกิดหลอดเลือดในสมองอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดอัมพาต

อัลลิสัน เบิร์นเนตต์ ยังย้ำว่าวัคซีนโควิด-19 ไม่ใช่ปัจจัยที่ก่อให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน ในทางตรงกันข้าม การติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตันมากกว่า ดังนั้นการฉีดวัคซีนโควิด-19 ถือเป็นการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอีกทางหนึ่ง

งานวิจัยจากสหราชอาณาจักรที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ Circulation เมื่อเดือนกันยายนปี 2022 พบว่า หลังติดเชื้อโควิด-19 ไปแล้วนานถึง 49 สัปดาห์ ยังพบความเสี่ยงของการเกิดภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำอุดตัน (VTE) และ ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดแดงอุดตัน (ATE)

แม้วัคซีนโควิด-19 ชนิดไวรัล เวกเตอร์ อย่าง AstraZeneca และ Johnson & Johnson จะได้รับการรายงานว่า เพิ่มความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตันในกลุ่มผู้รับวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี แต่สัดส่วนการพบยังถือว่าน้อยมาก และประโยชน์ของวัคซีนในการป้องกันโรคยังมีมากกว่าความเสี่ยงจากอาการข้างเคียงเช่นเดิม

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2022/09/scicheck-covid-19-vaccine-opponents-misrepresent-cdc-webcast-on-causes-of-blood-clots/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก