ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีนโควิดเป็นอันตรายต่อผู้มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน จริงหรือ?

20 มีนาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีคลิปวิดีโอข้อมูลบิดเบือนเผยแพร่ทาง Facebook ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ แดน บอนจิโน นักจัดรายการวิทยุผู้มีประวัติเผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 อ้างในคลิปวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมปี 2022 ว่า ข้อยกเว้นสำหรับการปฏิเสธวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ไม่นับรวมผู้มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้การบังคับฉีดวัคซีนเป็นอันตราย


บทสรุป :

1.ผู้มีประวัติลิ่มเลือดอุดตันสามารถรับวัคซีนโควิด-19 ได้ เพราะอาการลิ่มเลือดอุดตันจากวัคซีนหรือ VITT มีความแตกต่างจากลิ่มเลือดอุดตันทั่วไป
2.ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้มีประวัติลิ่มเลือดอุดตันมากกว่าคนทั่วไป

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


คลิปดังกล่าวนำมาจากรายการ The Dan Bongino Show ที่ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 มกราคมปี 2022 เนื้อหาในรายการกล่าวถึงงานเสวนาเรื่องอันตรายของวัคซีนโควิด-19 ที่จัดโดยวุฒิสมาชิก รอน จอห์นสัน ร่วมกับกลุ่มต่อต้านวัคซีนหลายราย อาทิ โรเบิร์ต มาโลน, ปีเตอร์ แม็คคัลลาห์, ไรอัน โคล และปีแอร์ คอรี

โดยเนื้อหาในงานเต็มไปด้วยข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ทั้งการอ้างว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบไม่มีอาการจะไม่แพร่เชื้อไปยังผู้อื่น, ภูมิธรรมชาติจะไม่ทำให้ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 กลับมาติดเชื้ออีก และยาอย่าง Hydroxychloroquine และ Ivermectin สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ โดยคลิปวิดีโอในงานเสวนาสามารถทำยอดรับชมทางเว็บไซต์ Rumble กว่า 4.5 ล้านวิว

ในรายการดังกล่าว แดน บอนจิโน อ้างว่า คนบางกลุ่มควรได้รับการยกเว้นจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน

ผู้ที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตันสามารถเลือกฉีดวัคซีนชนิดอื่น ๆ แทนได้

ความกังวลเรื่องภาวะลิ่มเลือดอุดตันกับวัคซีนโควิด-19 เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนปี 2021 เมื่อหน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลก เตือนถึงความสัมพันธ์ระหว่างภาวะลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือดต่ำกับการใช้วัคซีนโควิด-19 ชนิด Adenovirus Vector ของบริษัท AstraZeneca และ Johnson & Johnson หรืออาการที่เรียกว่า Vaccine-induced Immune Thrombotic Thrombocytopenia หรือ VITT ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

อย่างไรก็ดี ซานต์-ริน พาสริชา และ พอล โมนาเกิล 2 นักโลหิตวิทยา ให้ความเห็นผ่านเว็บไซต์ The Conversation ว่า อาการ VITT มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก และยังเป็นอาการที่แตกต่างจากภาวะลิ่มเลือดอุดตันทั่ว ๆ ไป เช่น อาการลิ่มเลือดอุดตันบริเวณหลอดเลือดดำส่วนลึกหรืออาการลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด ซึ่งมักมีปัจจัยจากกิจวัตรประจำวัน เช่นการสูบบุหรี่หรือการไม่ขยับตัวเป็นเวลานานๆ ที่เรียกว่า พฤติกรรมเนือยนิ่ง

ส่วน อาการ VITT คืออาการลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ และส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกล็ดเลือด นำไปสู่การรวมตัวจนกลายเป็นลิ่มเลือด ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า ประวัติการป่วยเป็นลิ่มเลือดอุดตันทั่วไป ไม่เพิ่มความเสี่ยงการป่วยด้วยอาการ VITT

อย่างไรก็ดี ในหลายประเทศทั้งในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ต่างระบุให้บุคคลที่มีประวัติเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่สมองและบริเวณท้อง, ผู้มีอาการ Antiphospholipid Syndrome (APS) และอาการ Heparin-induced thrombocytopenia (HIT) หลีกเลี่ยงการใช้วัคซีน Adenovirus Vector

(Antiphospholipid Syndrome เป็นโรคความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันทำลายตนเองชนิดหนึ่ง ทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้ต่อโปรตีนที่ป้องกันการแข็งตัวของเลือด ส่งผลให้เลือดแข็งตัวตามบริเวณต่าง ๆ ทั้ง สมอง ปอด ไต และขา ผู้ป่วยจะมีอาการ ปวดศีรษะ, มีปัญหาด้านความจำ, การทรงตัว, การมองเห็น, ภาวะสมองเสื่อม รวมถึงปัญหาการแท้งบุตรหรือปัญหาทารกเสียชีวิตในครรภ์ ปัจจุบันยังไม่พบสาเหตุของอาการและยังมีวิธีรักษาให้หายขาด แนวทางการรักษาคือการใช้ยาบรรเทาอาการหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเลือดแข็งตัว)

(Heparin-induced thrombocytopenia เป็นอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Heparin ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันจากลิ่มเลือดร่วมกับมีภาวะเลือดออกง่าย)

ดังนั้น ข้ออ้างว่าผู้ป่วยที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตันไม่ควรฉีดวัคซีนจึงไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนโควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงให้กับผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าว

นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้ป่วยที่แพทย์ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีน Adenovirus Vector ยังสามารถรับวัคซีน mRNA ซึ่งเป็นวัคซีนที่ไม่มีความสัมพันธ์กับอาการ VITT อีกด้วย

และในกรณีที่ผู้รับวัคซีนมีอาการแพ้ต่อสารประกอบในวัคซีน mRNA หรือมีข้อจำกัดในการใช้วัคซีน mRNA ผู้รับวัคซีนยังสามารถใช้วัคซีนโควิด-19 จากบริษัท Johnson & Johnson แทนได้เช่นกัน

นอกจากนี้ การติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตันยิ่งกว่าการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน, มีความเสี่ยงด้านหลอดเลือดหัวใจ, เบาหวาน และความเสี่ยงอื่น ๆ

สภาภาวะหลอดเลือดอุดตันทวีปอเมริกาเหนือ (North American Thrombosis Forum) ยังแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีประวัติลิ่มเลือดอุดตันเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://healthfeedback.org/claimreview/medical-exemptions-covid-19-vaccines-granted-contraindications-not-including-blood-clots-adverse-reaction-prior-vaccine-dan-bongino/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

เสียงสะท้อนจากวีรบุรุษแนวหน้าถึงแนวหลัง

11 ส.ค. – แม้สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาเหมือนจะดีขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เช่นข่าวทหารไทยเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บอีก 3 นาย วันนี้จะพาไปดูความพร้อมของหน่วยแพทย์ในการดูแลทหารของชาติในฐานะวีรบุรุษ พร้อมข้อคิดจากจ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญชูกล้า หรือจ่าเต้ 1 ในวีรบุรุษ ฝากถึงแนวหลัง.-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังถก​ สมช.​ เคาะสถานการณ์สงบจริง

เมืองทองธานี 11 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่น​ ก็จบ!! ​ หลัง “กองทัพ” ยืนยันแล้ว “แม่ทัพภาค 2” ไม่ได้พูดยึดปราสาทตาควาย ย้ำยังไม่มีอะไรผิดสัญญา เล็งปิด​ ศบ.ทก. หลังประชุม​ สมช.​ 13-14 ส.ค.นี้​ เคาะสถานการณ์สงบจริง​ นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2​ ออกมา ประกาศยึดคืนปราสาทตาควาย จะถือเป็นการละเมิดข้อตกลงไทย-กัมพูชาหรือไม่ ว่า​ ยังไม่ได้ยินแม่ทัพภาคที่ 2 พูด​ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อตกลง​ เมื่อถามว่าแม้กองทัพ จะออกมาปฏิเสธแล้ว​ แต่ทางกัมพูชา​อาจมองเป็นการกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้ง และละเมิดข้อตกลง 13 ข้อ นายภูมิ​ธรรม​ กล่าวว่า​ ยังไม่มีอะไรผิดสัญญา กองทัพซึ่งเป็นตัวหลักได้ยืนยันแล้ว​ ก็จบตามนั้น​ เมื่อถามว่า​ สถานการณ์ชายแดน 2-3 วันที่ผ่านมา​ ถือว่าสงบนิ่งหรือไม่​ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าเหตุการณ์ความไม่สงบจะกลับมา​อีก […]

ทบ.ยัน ‘มทภ.2’ ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย

11 ส.ค.- โฆษกกองทัพบกโต้กัมพูชา ยันแม่ทัพภาค 2 ไม่ได้กล่าวรุกล้ำอธิปไตยปมปราสาทตาควาย ย้ำไทยไม่มีความพยายาม “ยั่วยุ-วางแผน” ใช้กำลังทางทหารตามที่เขมรกล่าวอ้าง พลตรี​ วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องของปราสาทตาควาย ว่า “ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่าเตรียมนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ใช่ความพยายามที่มีการยั่วยุและมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีปราสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด” -สำนักข่าวไทย