อุปสรรคการแก้ปัญหา Fake news ในช่วงหาเสียงของสหรัฐ

15 พฤษภาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ในสหรัฐมีหน่วยงานที่เรียกว่าคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ที่ตรวจสอบเนื้อหาในโฆษณาเชิงพาณิชย์ให้มีความถูกต้อง เพื่อป้องกันการโฆษณาเกินจริง หรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จแก่ผู้บริโภค

แต่คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการด้านการสื่อสารของสหรัฐ (Federal Communications Commission หรือ FCC) ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการสถานีวิทยุ โทรทัศน์ เคเบิล จานดาวเทียมในสหรัฐ กลับไม่สามารถยับยั้งนักการเมืองจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างหาเสียงได้


เหตุผลก็เพราะการกระทำดังกล่าว อาจจะเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่ว่าด้วยเสรีภาพด้านการแสดงออกและเสรีภาพด้านการนับถือศาสนา โดยมองว่าเนื้อหาในโฆษณาช่วงหาเสียง คือการแสดงวิสัยทัศน์และความคิดเห็นของนักการเมืองเท่านั้น

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในสหรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCC ทั้ง ABC NBC CBS ต่างไม่มีสิทธิระงับโฆษณาของนักการเมืองเหล่านั้น แม้จะรู้ว่าเนื้อหาในโฆษณาเต็มไปด้วยข้อมูลเท็จก็ตาม

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโฆษณาหาเสียงของ เจ.บี สโตนเนอร์ ผู้ลงชิงตำแหน่ง ส.ว. รัฐจอร์เจีย พรรคเดโมแครต เมื่อปี 1972 เพราะโฆษณาของเขาเต็มไปด้วยเนื้อหาเหยียดเชื้อชาติทั้งต่อชาวแอฟริกันและชาวยิว แม้จะถูกประท้วงในวงกว้าง แต่ FCC กลับมองว่าการถอดโฆษณาจะเป็นการขัดขวางเสรีภาพด้านการแสดงออก (Free Speech) ตามนโยบาย Fairness Doctrine ที่ FCC สนับสนุนให้สถานีโทรทัศน์เปิดโอกาสให้บุคคลสาธารณะแสดงความเห็นประเด็นที่เป็นเรื่องโต้แย้ง เพื่อให้เกิดการนำเสนอมุมมองที่แตกต่างอย่างเท่าเทียม (ภายหลัง FCC ได้ยกเลิกนโยบาย Fairness Doctrine ในปี 1987)


หลายปีที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์เคเบิลหันมาออกนโยบายเพื่อพิจารณาการเผยแพร่โฆษณาของนักการเมืองด้วยตนเอง โดยก่อนหน้านี้ CNN เคยปฏิเสธการออกอากาศโฆษณาของ โดนัลด์ ทรัมป์ มาแล้วถึง 2 ชิ้น โดยอ้างว่าเนื้อหาโฆษณาเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นจริง

อย่างไรก็ดี โฆษณาทั้ง 2 ชิ้นที่ถูก CNN ปฏิเสธการเผยแพร่ กลับไปปรากฏทาง Facebook และสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างหาเสียงอย่างแพร่หลาย

Facebook ได้ระบุเอาไว้ในนโยบายการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนว่า โพสต์และโฆษณาจากนักการเมือง จะไม่ถูกประเมินเนื้อหาโดยผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

Facebook ให้เหตุผลว่า Facebook เคารพต่อกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย และความเชื่อที่ว่าคำพูดทางการเมืองถือเป็นคำพูดที่มีการกลั่นกรองมากที่สุด โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สื่อมีเสรีภาพในการเสนอข่าวและข้อมูลสู่สาธารณะ ที่สำคัญ การจำกัดคำพูดทางการเมืองอาจทำให้ผู้คนทราบข้อมูลจากคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้งของตนน้อยลง และอาจทำให้นักการเมืองมีส่วนในการรับผิดชอบต่อคำพูดของตนน้อยลงอีกด้วย

นโยบายดังกล่าว ถูกท้าทายโดย อเล็กซานเดรีย โอคาซีโอ-คอร์เทซ ส.ส.หญิง พรรคเดโมแครต ที่ตั้งคำถาม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook ระหว่างการไต่สวนโดยรัฐสภาสหรัฐเมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 ว่า เธอสามารถผลิตโฆษณาที่อ้างว่านักการเมืองพรรครีพับลิกันให้การสนับสนุน Green New Deal โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เธอโปรโมทได้หรือไม่ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นจริงเลยก็ตาม

ส.ส. หญิงตั้งคำถาม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
ประเด็นอภิสิทธิ์ของนักการเมืองที่สามารถโกหก
ระหว่างหาเสียงทาง Facebook

ภายหลังตัวแทนของ Facebook ยืนยันต่อสำนักข่าว CNN ว่า ส.ส.หญิงสามารถผลิตโฆษณาหาเสียงด้วยข้อมูลเท็จได้ เนื่องจากนโยบายตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Facebook จะไม่ตรวจสอบเนื้อหาในโฆษณาเลือกตั้งของนักการเมือง

ต่อมา แอเดรียน แฮมป์ตัน ผู้ก่อตั้งกลุ่มการเมือง The Really Online Lefty League นำแรงบันดาลใจจาก ส.ส. หญิงพรรคเดโมแครต ผลิตโฆษณาหลอก ๆ ที่ระบุว่า ลินด์ซีย์ แกรม ส.ว. พรรครีพับลิกัน ให้การสนับสนุนโครงการ Green New Deal ซึ่งไม่เป็นความจริง

หลังจากโพสต์ได้เพียง 24 ชั่วโมง Facebook ก็ทำการลบโฆษณาตัวนี้ออก โดยให้ความเห็นว่าข้อมูลเท็จในโฆษณาผลิตโดยหน่วยงานทางการเมือง ไม่ได้มาจากตัวนักการเมืองโดยตรง

แอเดรียน แฮมป์ตัน ชายผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง
เพื่อขอใช้สิทธิโกหกทาง Facebook
ในฐานะนักการเมือง

หลังจากนั้น แอเดรียน แฮมป์ตัน ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จุดประสงค์เพื่อจะได้ผลิตโฆษณาหาเสียงด้วยข้อมูลเท็จต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อท้าทายนโยบายของ Facebook ที่ละเว้นนักการเมืองจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเขาเชื่อว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ช่องว่างเหล่านี้ในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเช่นเดียวกัน

มีความพยายามผลักดันกฎหมายควบคุมโฆษณาของพรรคการเมืองทางสื่อสังคมออนไลน์ ในชื่อ Honest Ads Act หลังพบหลักฐานว่า ทางการรัสเซียเข้ามาซื้อโฆษณาทางการเมืองทาง Facebook ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2016

เนื้อหาของ Honest Ads Act กำหนดว่า สื่อสังคมออนไลน์ที่มียอดเข้าชมต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านครั้ง จะต้องเก็บรักษาข้อมูลสาธารณะที่เกี่ยวกับสื่อโฆษณาการเลือกตั้ง ที่จัดซื้อโดยกลุ่มหรือบุคคลที่ใช้เงินมากกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเผยแพร่โฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ๆ

ประโยชน์ของกฎหมาย Honest Ads Act

แม้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ปัจจุบัน Honest Ads Act ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐแต่อย่างใด

องค์กรสื่อโฆษณาทางธุรกิจสหรัฐหรือ Interactive Advertising Bureau แสดงความเห็นคัดค้านกฎหมาย Honest Ads Act โดยมองว่าเป็นแนวทางที่เข้มงวดเกินไป ควรเปิดโอกาสให้สื่อแต่ละสำนักดำเนินการควบคุมเนื้อหาโฆษณากันเอง

ด้าน Facebook ประกาศให้การสนับสนุน Honest Ads Act แต่มีการสอบสวนที่พบว่า Facebook พยายามล็อบบี้เพื่อไม่ให้ Honest Ads Act มีผลบังคับใช้

นอกจากสร้างความสับสนให้กับผู้ลงคะแนนแล้ว ข้อมูลเท็จจากการหาเสียงของนักการเมืองยังส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งอีกด้วย

เบน มอร์ริส โฆษกสำนักงานเลขาธิการรัฐโอเรกอน เปิดเผยว่าเมื่อปี 2022 มีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับการเลือกตั้งถึง 3 ครั้ง ทั้งการเซนเซอร์ชื่อผู้สมัครบนป้ายหาเสียง อ้างว่ามีการกีดกันสมาชิกของพรรค ๆ หนึ่งไม่ให้เข้าไปยังสำนักงานเลือกตั้งท้องถิ่น และอ้างว่าเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งขอใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของผู้ใช้สิทธิอีกด้วย

ข่าวลือทั้ง 3 เรื่องถูกโพสต์ผ่านทาง Facebook แม้จะมีการยืนยันความถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว แต่ทาง Facebook ก็เลือกที่จะไม่ลบข้อความดังกล่าว

เบน มอร์ริส วิจารณ์นโยบายการตรวจสอบโฆษณาจากนักการเมืองของ Facebook ว่า เน้นแต่การป้องกันปัญหาในระดับประเทศ ให้ความสำคัญแต่คำกล่าวอ้างที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นเท็จซึ่งเข้ากับสถานการณ์ในขณะนั้น เป็นกระแสนิยม และก่อให้เกิดผลกระทบ ซึ่งข่าวลือทั้ง 3 เรื่องอาจจะไม่สร้างผลกระทบในระดับ “กระแสนิยม” ในความหมายของ Facebook แต่ก็ก่อความเสียหายต่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นอย่างมาก

บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องรับมือข่าวปลอมจากนักการเมืองด้วยตนเอง

อัยการของมาริโคปา เทศมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของรัฐแอริโซนา ต้องเขียนข้อความเตือนไปยังผู้สมัครที่จงใจปล่อยข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งแอบเปลี่ยนผลโหวตอย่างลับ ๆ และชักชวนให้ผู้ไปใช้สิทธิขโมยปากกาจากคูหาเลือกตั้งเพื่อเป็นการป้องกัน

รวมถึงข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่เลือกตั้งมาริโคปาทำการลบข้อมูลเลือกตั้งจากระบบคอมพิวเตอร์ในปี 2021 และมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่เลือกตั้ง 2 รายว่ามีส่วนในการลบข้อมูล ทำให้ทั้งสองตกเป็นเป้าการข่มขู่ทางสื่อสังคมออนไลน์

แม้ปลัดเทศมณฑลมาริโคปาจะแจ้งไปยัง Twitter เพื่อขอให้ลบข้อความดังกล่าว แต่ Twitter กลับเห็นว่าข้อความเหล่านั้นไม่ละเมิดนโยบายด้านเนื้อหาของ Twitter แต่อย่างใด

เมื่อปีที่แล้ว มีการเสนอร่างกฎหมายไปยังรัฐสภาสหรัฐ เพื่ออนุมัติงบประมาณมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นระยะเวลา 10 ปี สำหรับใช้สนับสนุนการเลือกตั้งในระดับรัฐและระดับท้องถิ่น รวมถึงการต่อสู้กับข่าวปลอมข้อมูลเท็จของนักการเมืองที่เผยแพร่ในระหว่างการเลือกตั้งโดยเฉพาะ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.npr.org/2022/03/17/1087047638/the-truth-in-political-advertising-youre-allowed-to-lie
https://www.brookings.edu/blog/fixgov/2019/12/20/regulating-fact-from-fiction-disinformation-in-political-advertising/
https://www.pbs.org/newshour/politics/debunking-false-claims-a-difficult-battle-for-election-offices-nationwide

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยประเทศอาเซียนส่งข้อเสนอถึงสหรัฐ รอคุยกำแพงภาษี

มาเลเซีย 27 พ.ค.- นายกฯ ระบุประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 ไทยได้ประโยชน์ ร่วมมือแก้ปัญหาอาเซียน-จับเข่าคุยกับประเทศอาหรับ-จีน มั่นใจสร้างความมั่นคง มั่งคั่งระหว่างกัน เผยประเทศอาเซียนส่งข้อเสนอถึงสหรัฐ รอนัดคุยกำแพงภาษี ยันไทยไม่ช้าเกินไป นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 46 ณ กรุงกลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า พอใจผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยมีผลสำเร็จสำคัญ 2 ประการ คือ 1) อาเซียนได้ลงนามและตกลงในปฏิญญากรุงกัวลาลัมเปอร์ว่าด้วยอาเซียน 2045: อนาคตร่วมกันของเรา (Kuala Lumpur Declaration on ASEAN 2045: Our Shared Future) เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ฉบับใหม่ที่กำหนดทิศทางการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนในอีก 20 ปีเพื่อรับรองวิสัยทัศน์นี้ 2) เป็นครั้งแรกที่มีการประชุม 3 ฝ่าย ระหว่าง อาเซียน คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ(GCC) […]

น้ำหลากจากดอยอินทนนท์ทะลักท่วมชุมชนริมน้ำ

เชียงใหม่ 27 พ.ค. – จ.เชียงใหม่ ยังมีฝนตกหนักเป็นระยะ โดยเฉพาะบนดอยอินทนนท์ ปริมาณฝนตกมากกว่า 130 มิลลิเมตร ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลหลากลงสู่น้ำตกและลำน้ำหลายสาย ทะลักท่วมบ้านเรือนในชุมชนริมน้ำ อ.จอมทอง ชาวบ้านกังวลน้ำจะท่วมใหญ่เหมือนปีที่แล้ว ขณะที่อำเภอทางตอนเหนือของเชียงใหม่ ถนนถูกน้ำป่ากัดเซาะจนเส้นทางขาด ต้องใช้การเดินเท้าขนย้ายผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลอย่างทุกลักทุกเล.-สำนักข่าวไทย

KNLA บุกโจมตีฐานทิบาโบ ชาวเมียนมาอพยพข้ามมาฝั่งไทย

ตาก 27 พ.ค.- เดือดอีก กองกำลัง KNLA บุกโจมตีทหารเมียนมา ถล่มฐานทิบาโบ ผู้หนีภัยสู้รบในเมียนมาหลายร้อยคน อพยพข้ามมาฝั่งไทย พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่ายวันนี้ กองกำลังปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (กกล.KNLA) รวมกำลังเข้าโจมตีทหารเมียนมา ที่ฐานทิบาโบ บ.ทิบาโบ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา โดยใช้โดรนโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิด, จรวด, ปืนกล และปืนซุ่มยิง ด้านทหารเมียนมาใช้เครื่องยิงลูกระเบิดตอบโต้อย่างหนัก บริเวณฝั่งตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ส่งผลให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 3 แห่ง รวม 290 คน รายละเอียดดังนี้ โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กกล.นเรศวร ร่วมกับฝ่ายปกครอง ,จนท.ตร.สภ.พบพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลความปลอดภัย และให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ที้งนี้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู […]

น้ำท่วมภูกระดึง จ.เลย บ้านจมกว่า 150 หลัง

เลย 27 พ.ค. – บ้านเรือนใน อ.ภูกระดึง จ.เลย ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน หลังฝนตกต่อเนื่อง ด้าน ปภ.แจ้งเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำพอง กระทบ ต.ภูกระดึง และ ต.ศรีฐาน ให้ยกของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายกลุ่มเปราะบางไปอยู่ในที่ปลอดภัย สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบลของ อ.ภูกระดึง จ.เลย บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้ระดับแม่น้ำพองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านติดริมแม่น้ำ จากภาพมุมสูงจะเห็นได้ว่าลำน้ำพองที่ไหลลงมาจาก อ.ภูกระดึง และลำน้ำพองโก ที่ไหลมาจากด้านหลังของอุทยานฯ ไหลมารวมกันที่แม่น้ำพอง มวลน้ำทั้งหมดนี้ไหลผ่าน ต.ผานกเค้า ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง จ.เลย และ จ.ขอนแก่น จนถนนถูกตัดขาดหลายสาย ส่วนที่โรงเรียนชุมชนผานกเค้า ครูอนุญาตให้เด็กอนุบาลกลับบ้านได้ พร้อมช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์การเรียนขึ้นไว้บนที่สูง เพราะเป็นจุดต่ำที่สุด อีกทั้งลำน้ำพอง อยู่ด้านหลังติดกับโรงเรียน ด้าน ปภ. ส่งข้อความเตือนน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำพอง […]