อุปสรรคการแก้ปัญหา Fake news ในช่วงหาเสียงของสหรัฐ

15 พฤษภาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ในสหรัฐมีหน่วยงานที่เรียกว่าคณะกรรมการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (Federal Trade Commission หรือ FTC) ที่ตรวจสอบเนื้อหาในโฆษณาเชิงพาณิชย์ให้มีความถูกต้อง เพื่อป้องกันการโฆษณาเกินจริง หรือให้ข้อมูลที่เป็นเท็จแก่ผู้บริโภค

แต่คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการด้านการสื่อสารของสหรัฐ (Federal Communications Commission หรือ FCC) ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลกิจการสถานีวิทยุ โทรทัศน์ เคเบิล จานดาวเทียมในสหรัฐ กลับไม่สามารถยับยั้งนักการเมืองจากการเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างหาเสียงได้


เหตุผลก็เพราะการกระทำดังกล่าว อาจจะเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ที่ว่าด้วยเสรีภาพด้านการแสดงออกและเสรีภาพด้านการนับถือศาสนา โดยมองว่าเนื้อหาในโฆษณาช่วงหาเสียง คือการแสดงวิสัยทัศน์และความคิดเห็นของนักการเมืองเท่านั้น

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในสหรัฐที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ FCC ทั้ง ABC NBC CBS ต่างไม่มีสิทธิระงับโฆษณาของนักการเมืองเหล่านั้น แม้จะรู้ว่าเนื้อหาในโฆษณาเต็มไปด้วยข้อมูลเท็จก็ตาม

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโฆษณาหาเสียงของ เจ.บี สโตนเนอร์ ผู้ลงชิงตำแหน่ง ส.ว. รัฐจอร์เจีย พรรคเดโมแครต เมื่อปี 1972 เพราะโฆษณาของเขาเต็มไปด้วยเนื้อหาเหยียดเชื้อชาติทั้งต่อชาวแอฟริกันและชาวยิว แม้จะถูกประท้วงในวงกว้าง แต่ FCC กลับมองว่าการถอดโฆษณาจะเป็นการขัดขวางเสรีภาพด้านการแสดงออก (Free Speech) ตามนโยบาย Fairness Doctrine ที่ FCC สนับสนุนให้สถานีโทรทัศน์เปิดโอกาสให้บุคคลสาธารณะแสดงความเห็นประเด็นที่เป็นเรื่องโต้แย้ง เพื่อให้เกิดการนำเสนอมุมมองที่แตกต่างอย่างเท่าเทียม (ภายหลัง FCC ได้ยกเลิกนโยบาย Fairness Doctrine ในปี 1987)


หลายปีที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์เคเบิลหันมาออกนโยบายเพื่อพิจารณาการเผยแพร่โฆษณาของนักการเมืองด้วยตนเอง โดยก่อนหน้านี้ CNN เคยปฏิเสธการออกอากาศโฆษณาของ โดนัลด์ ทรัมป์ มาแล้วถึง 2 ชิ้น โดยอ้างว่าเนื้อหาโฆษณาเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นจริง

อย่างไรก็ดี โฆษณาทั้ง 2 ชิ้นที่ถูก CNN ปฏิเสธการเผยแพร่ กลับไปปรากฏทาง Facebook และสื่อสังคมออนไลน์อื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างหาเสียงอย่างแพร่หลาย

Facebook ได้ระบุเอาไว้ในนโยบายการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนว่า โพสต์และโฆษณาจากนักการเมือง จะไม่ถูกประเมินเนื้อหาโดยผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

Facebook ให้เหตุผลว่า Facebook เคารพต่อกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย และความเชื่อที่ว่าคำพูดทางการเมืองถือเป็นคำพูดที่มีการกลั่นกรองมากที่สุด โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ที่สื่อมีเสรีภาพในการเสนอข่าวและข้อมูลสู่สาธารณะ ที่สำคัญ การจำกัดคำพูดทางการเมืองอาจทำให้ผู้คนทราบข้อมูลจากคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเลือกตั้งของตนน้อยลง และอาจทำให้นักการเมืองมีส่วนในการรับผิดชอบต่อคำพูดของตนน้อยลงอีกด้วย

นโยบายดังกล่าว ถูกท้าทายโดย อเล็กซานเดรีย โอคาซีโอ-คอร์เทซ ส.ส.หญิง พรรคเดโมแครต ที่ตั้งคำถาม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook ระหว่างการไต่สวนโดยรัฐสภาสหรัฐเมื่อเดือนตุลาคมปี 2019 ว่า เธอสามารถผลิตโฆษณาที่อ้างว่านักการเมืองพรรครีพับลิกันให้การสนับสนุน Green New Deal โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เธอโปรโมทได้หรือไม่ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่เป็นจริงเลยก็ตาม

ส.ส. หญิงตั้งคำถาม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก
ประเด็นอภิสิทธิ์ของนักการเมืองที่สามารถโกหก
ระหว่างหาเสียงทาง Facebook

ภายหลังตัวแทนของ Facebook ยืนยันต่อสำนักข่าว CNN ว่า ส.ส.หญิงสามารถผลิตโฆษณาหาเสียงด้วยข้อมูลเท็จได้ เนื่องจากนโยบายตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Facebook จะไม่ตรวจสอบเนื้อหาในโฆษณาเลือกตั้งของนักการเมือง

ต่อมา แอเดรียน แฮมป์ตัน ผู้ก่อตั้งกลุ่มการเมือง The Really Online Lefty League นำแรงบันดาลใจจาก ส.ส. หญิงพรรคเดโมแครต ผลิตโฆษณาหลอก ๆ ที่ระบุว่า ลินด์ซีย์ แกรม ส.ว. พรรครีพับลิกัน ให้การสนับสนุนโครงการ Green New Deal ซึ่งไม่เป็นความจริง

หลังจากโพสต์ได้เพียง 24 ชั่วโมง Facebook ก็ทำการลบโฆษณาตัวนี้ออก โดยให้ความเห็นว่าข้อมูลเท็จในโฆษณาผลิตโดยหน่วยงานทางการเมือง ไม่ได้มาจากตัวนักการเมืองโดยตรง

แอเดรียน แฮมป์ตัน ชายผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง
เพื่อขอใช้สิทธิโกหกทาง Facebook
ในฐานะนักการเมือง

หลังจากนั้น แอเดรียน แฮมป์ตัน ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย จุดประสงค์เพื่อจะได้ผลิตโฆษณาหาเสียงด้วยข้อมูลเท็จต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อท้าทายนโยบายของ Facebook ที่ละเว้นนักการเมืองจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเขาเชื่อว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ช่องว่างเหล่านี้ในการเผยแพร่ข้อมูลเท็จระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเช่นเดียวกัน

มีความพยายามผลักดันกฎหมายควบคุมโฆษณาของพรรคการเมืองทางสื่อสังคมออนไลน์ ในชื่อ Honest Ads Act หลังพบหลักฐานว่า ทางการรัสเซียเข้ามาซื้อโฆษณาทางการเมืองทาง Facebook ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปี 2016

เนื้อหาของ Honest Ads Act กำหนดว่า สื่อสังคมออนไลน์ที่มียอดเข้าชมต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านครั้ง จะต้องเก็บรักษาข้อมูลสาธารณะที่เกี่ยวกับสื่อโฆษณาการเลือกตั้ง ที่จัดซื้อโดยกลุ่มหรือบุคคลที่ใช้เงินมากกว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อเผยแพร่โฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์นั้น ๆ

ประโยชน์ของกฎหมาย Honest Ads Act

แม้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ปัจจุบัน Honest Ads Act ยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐแต่อย่างใด

องค์กรสื่อโฆษณาทางธุรกิจสหรัฐหรือ Interactive Advertising Bureau แสดงความเห็นคัดค้านกฎหมาย Honest Ads Act โดยมองว่าเป็นแนวทางที่เข้มงวดเกินไป ควรเปิดโอกาสให้สื่อแต่ละสำนักดำเนินการควบคุมเนื้อหาโฆษณากันเอง

ด้าน Facebook ประกาศให้การสนับสนุน Honest Ads Act แต่มีการสอบสวนที่พบว่า Facebook พยายามล็อบบี้เพื่อไม่ให้ Honest Ads Act มีผลบังคับใช้

นอกจากสร้างความสับสนให้กับผู้ลงคะแนนแล้ว ข้อมูลเท็จจากการหาเสียงของนักการเมืองยังส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งอีกด้วย

เบน มอร์ริส โฆษกสำนักงานเลขาธิการรัฐโอเรกอน เปิดเผยว่าเมื่อปี 2022 มีการปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับการเลือกตั้งถึง 3 ครั้ง ทั้งการเซนเซอร์ชื่อผู้สมัครบนป้ายหาเสียง อ้างว่ามีการกีดกันสมาชิกของพรรค ๆ หนึ่งไม่ให้เข้าไปยังสำนักงานเลือกตั้งท้องถิ่น และอ้างว่าเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งขอใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของผู้ใช้สิทธิอีกด้วย

ข่าวลือทั้ง 3 เรื่องถูกโพสต์ผ่านทาง Facebook แม้จะมีการยืนยันความถูกต้องโดยเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งแล้ว แต่ทาง Facebook ก็เลือกที่จะไม่ลบข้อความดังกล่าว

เบน มอร์ริส วิจารณ์นโยบายการตรวจสอบโฆษณาจากนักการเมืองของ Facebook ว่า เน้นแต่การป้องกันปัญหาในระดับประเทศ ให้ความสำคัญแต่คำกล่าวอ้างที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นเท็จซึ่งเข้ากับสถานการณ์ในขณะนั้น เป็นกระแสนิยม และก่อให้เกิดผลกระทบ ซึ่งข่าวลือทั้ง 3 เรื่องอาจจะไม่สร้างผลกระทบในระดับ “กระแสนิยม” ในความหมายของ Facebook แต่ก็ก่อความเสียหายต่อการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นอย่างมาก

บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องรับมือข่าวปลอมจากนักการเมืองด้วยตนเอง

อัยการของมาริโคปา เทศมณฑลที่ใหญ่ที่สุดของรัฐแอริโซนา ต้องเขียนข้อความเตือนไปยังผู้สมัครที่จงใจปล่อยข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งแอบเปลี่ยนผลโหวตอย่างลับ ๆ และชักชวนให้ผู้ไปใช้สิทธิขโมยปากกาจากคูหาเลือกตั้งเพื่อเป็นการป้องกัน

รวมถึงข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่เลือกตั้งมาริโคปาทำการลบข้อมูลเลือกตั้งจากระบบคอมพิวเตอร์ในปี 2021 และมีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่เลือกตั้ง 2 รายว่ามีส่วนในการลบข้อมูล ทำให้ทั้งสองตกเป็นเป้าการข่มขู่ทางสื่อสังคมออนไลน์

แม้ปลัดเทศมณฑลมาริโคปาจะแจ้งไปยัง Twitter เพื่อขอให้ลบข้อความดังกล่าว แต่ Twitter กลับเห็นว่าข้อความเหล่านั้นไม่ละเมิดนโยบายด้านเนื้อหาของ Twitter แต่อย่างใด

เมื่อปีที่แล้ว มีการเสนอร่างกฎหมายไปยังรัฐสภาสหรัฐ เพื่ออนุมัติงบประมาณมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นระยะเวลา 10 ปี สำหรับใช้สนับสนุนการเลือกตั้งในระดับรัฐและระดับท้องถิ่น รวมถึงการต่อสู้กับข่าวปลอมข้อมูลเท็จของนักการเมืองที่เผยแพร่ในระหว่างการเลือกตั้งโดยเฉพาะ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.npr.org/2022/03/17/1087047638/the-truth-in-political-advertising-youre-allowed-to-lie
https://www.brookings.edu/blog/fixgov/2019/12/20/regulating-fact-from-fiction-disinformation-in-political-advertising/
https://www.pbs.org/newshour/politics/debunking-false-claims-a-difficult-battle-for-election-offices-nationwide

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

รองเลขาธิการนายกฯ แจ้งความดำเนินคดี “ฮุนเซน”

กทม. 20 มิ.ย.-“สมคิด” รองเลขาธิการนายกฯ เข้าแจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดี “ฮุนเซน” กรณีคลิปเสียงหลุด ยันไม่ได้แก้เกี้ยวให้ “แพทองธาร” ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุนเซน กรณีคลิปเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี ความยาว 17.6 วินาที ที่หลุดออกมาจากฝั่งเขา จนสร้างความแตกแยก จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับภัยความมั่นคง ยืนยันไม่ได้เป็นการแก้เกี้ยวให้กับนายกฯ และไม่ได้เรียนให้นายกฯ ทราบว่าจะมาแจ้งความ พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ยืนยันไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นในหรือนอกราชอาณาจักร เป็นคนไทยหรือต่างชาติ หากทำลายความมั่นคง ก็สามารถดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ โดยตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐาน สืบค้นแหล่งที่มาของต้นโพสต์ หารือกับอัยการสูงสุดและประสานสถานทูตประเทศนั้น เพื่อให้ส่งเอกสารไปยังประเทศปลายทางของผู้ที่ถูกออกหมายจับ ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ ไม่อยากให้คาดการณ์.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

นายกฯ​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 20 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรี​ นั่งหัวโต๊ะประชุม 7 ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่น​แม้รัฐบาลหวังหลีกเลี่ยงการปะทะ​ แต่หากเกิดเหตุสุดวิสัย ทุกภาคส่วนต้องพร้อม ย้ำผู้บริหารมหาดไทย​ แม้มีการเปลี่ยนแปลง​ แต่อยากให้ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเข้มแข็งไม่มีการเปลี่ยน บอก สัญญารัฐบาลไม่ทิ้งกระทรวงใด​ ขณะที่ช่วงบ่ายเตรียมบินไป จ.อุบลราชธานี พบแม่ทัพภาคที่ 2 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ เป็นประธานการประชุมติดตามดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับผู้ว่าราชการจังหวัด 7 จังหวัดชายแดน ประกอบด้วย​ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด จันทบุรี สระแก้ว โดยมี นางสาวธีรรัตน์​ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง และนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมการประชุม โดยนายกรัฐมนตรี​ […]