ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD จะเข้าเก็บกู้ทำลายจรวด BM-21 อีก 2 จุด ในทุ่งนา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ถูกกัมพูชายิงใส่เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ขณะที่ยายวัย 63 ปี เล่านาทีสะเทือนใจ ญาติในกัมพูชาถูกจับเป็นทหารไร้ข่าวคราว หวั่นตายไร้ศพ

วันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด. ที่ 22 และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามา ตกบริเวณทุ่งนาของชาวบ้านในตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จุดนี้ห่างจากพื้นที่ชุมชน และห่างจากปั๊ม ปตท.บ้านผือ ที่ถูกกัมพูชายิงจรวด BM 21 ตกใส่เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยอนุญาตให้สื่อมวลชน เข้าบันทึกภาพได้แต่ขอให้อยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย การเก็บกู้ขั้นต้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบว่ามีเศษชิ้นส่วนระเบิดลงเหลืออยู่หรือไม่
บรรยากาศภายในศูนย์พักพิงแห่งหนึ่ง ในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ยังคงมีชาวบ้านพักอาศัยอยู่ที่นี่เป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยทางศูนย์พยายามหากิจกรรมที่ช่วยให้ชาวบ้านผ่อนคลาย มีเจ้าหน้าที่ทีมเยียวยาจิตใจ จาก สสจ. ศรีสะเกษ คอยสังเกตพฤติกรรม และเข้าไปช่วยเหลือดูแล

ยายอ่อนจันทร์ วัย 63 ปี ชาวบ้านอำเภอกันทรลักษ์ เกิดที่ภูมิซรอล บรรพบุรุษเป็นชาวกัมพูชาอพยพมาอยู่ประเทศไทยนานแล้ว จึงมีญาติพี่น้องเป็นชาวกัมพูชาหลายคน ส่วนใหญ่เป็นทหารกัมพูชา ลูกสาวโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า ญาติพี่น้องที่เป็นทหารเสียชีวิตหมดแล้ว ถึงแม้ไม่อยากเป็นทหารก็ต้องถูกบังคับให้เป็น หรือหากใครขัดขืนไม่ยอมเป็นทหาร ก็จะถูกยึดพื้นที่ไร่นาและขับไล่ออกจากสัญชาติกัมพูชา บางส่วนที่เคยเข้ามาทำงานในประเทศไทย เมื่อกลับไปยังกัมพูชา ก็ต้องกลับไปสวมชุดทหาร เพราะไม่อยากถูกยึดที่ดินทำกิน ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อญาติที่ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารได้ ตนมั่นใจว่า ญาติที่เป็นทหารบางคนเสียชีวิตไปแล้ว แต่ยังไม่มีการเก็บศพอย่างแน่นอน หากใครโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อประกาศตามหาญาติพี่น้อง หรือโพสต์ข้อความประณามการกระทำของรัฐบาลกัมพูชา ก็จะถูกจับติดคุก หรือแม้กระทั่งครอบครัวของผู้นั้นก็อาจถูกจับไปด้วย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หวาดกลัว ตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ยอมรับห่วงญาติพี่น้องที่เป็นทหารมากหากเสียชีวิต เชื่อว่าก็คงจะถูกทิ้งศพไว้ พร้อมระบุยังรอผลประชุมจีบีซี แต่ก็ยังไม่เชื่อใจกัมพูชา
ผู้อพยพอีกคน นางไทย วัย 68 ปี บอกว่ามีญาติชาวกัมพูชา สอบถามบอกว่าขณะนี้ไม่มีใครอยากอยู่ในประเทศกัมพูชาแล้ว อยากย้ายมาอยู่ประเทศไทย เพราะไม่พอใจรัฐบาลกัมพูชา ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนลำบาก แม้ตอนนี้ศูนย์พักพิงจะดูแลอย่างดี แต่เธอก็ยังรู้สึกห่วงบ้าน ห่วงทรัพย์สิน นอนหลับไม่สนิทหลับหลับตื่นตื่นทุกคืน สิ่งที่หวังมากที่สุดตอนนี้คือ อยากให้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขเหมือนเดิม ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินติดตัวแค่ 100 บาท อาชีพก็ทำไม่ได้ และเห็นใจชาวกัมพูชาด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย