fbpx

“โกอินเนีย 1987” โศกนาฏกรรมจากการขาดความเข้าใจ “ซีเซียม-137”

29 มีนาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


“ซีเซียม-137” คือสารกัมมันตรังสีที่นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งวงการแพทย์และแวดวงอุตสาหกรรม แต่หากนำไปใช้อย่างขาดความรัดกุม ผลเสียจากการสัมผัสซีเซียม-137 โดยปราศจากสิ่งป้องกันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ดังเช่นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเมืองโกอินเนีย ประเทศบราซิล เมื่อปี ค.ศ. 1987 เมื่อการสัมผัส “ซีเซียม-137” โดย “ไม่รู้ตัว” ส่งผลต่อสุขภาพของชาวเมืองนับแสน และคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปถึง 4 ราย จนนิตยสาร Time ยกเป็นหนึ่งในหายนะทางนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์


เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อโรงพยาบาล Instituto Goiano de Radioterapia (IGR) ในเมืองโกอินเนีย สั่งซื้อเครื่องฉายรังสีที่บรรจุสารซีเซียม-137 มารักษาคนไข้ครั้งแรกในปี 1977

กระทั่งปี 1985 โรงพยาบาล IGR ตัดสินใจย้ายไปเปิดกิจการที่เมืองอื่นจะเตรียมทุบอาคารทิ้ง แต่ถูกขัดขวางโดย Society of Saint Vincent de Paul องค์กรผู้ถือสิทธิ์ในตัวอาคาร ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายนำไปสู่การสู้คดี โดยศาลมีคำสั่งห้ามขนย้ายสิ่งของออกจากอาคาร รวมถึงซีเซียม-137 ที่ถูกทิ้งไว้ในเครื่องฉายรังสี

ตัวแทนของโรงพยาบาล IGR พยายามร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานถึงความกังวลที่มีต่อซีเซียม-137 ที่ถูกทิ้งไว้ แต่ไม่มีหน่วยงานใดให้ความสำคัญ ทั้งสถาบันประกันภัยข้าราชการพลเรือน (Ipasgo) หรือคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์แห่งชาติบราซิล (CNEN)


แม้จะมีการว่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีคนเข้าออกโรงพยาบาลร้างแห่งนี้โดยพลการ แต่ในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1987 โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส และ แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า ชาวเมืองโกอินเนีย 2 ราย ใช้โอกาสที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้เข้าเวรในวันนั้น พากันลักลอบเข้าตัวอาคาร

เมื่อได้พบกับเครื่องฉายรังสีที่ไม่มีป้ายเตือนถึงอันตรายที่อยู่ข้างใน ทั้งสองได้ทำการแยกชิ้นส่วนเครื่องฉายรังสี แล้วนำอุปกรณ์ที่บรรจุสารซีเซียม-137 กลับไปยังบ้านพักของตนเอง ด้วยความตั้งใจจะนำ “สิ่งมีค่า” ที่อยู่ในเครื่องฉายรังสีไปขาย

ระหว่างการแยกชิ้นส่วนในเย็นวันนั้น โจรทั้งคู่เริ่มมีอาการคลื่นไส้อย่างหนักซึ่งเป็นผลจากการสัมผัสรังสีเกินขนาด แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า เลิกล้มความพยายามในวันที่ 15 กันยายน หลังเกิดอาการท้องร่วง, เวียนศีรษะ ส่วนนิ้วบนมือทั้งสองข้างเริ่มบวมและไหม้จากการสัมผัสรังสี

ต่างจากคู่หูอย่าง โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส ที่ใช้ไขขวงเจาะแคปซูลจนทะลุเห็นสารซีเซียม-137 ที่อยู่ภายในได้สำเร็จในวันที่ 16 กันยายน

สิ่งที่พบสร้างความตื่นตาแก่เขาอย่างมาก เมื่อเขาได้เห็นแสงสีฟ้าสดใสส่องสว่างออกมาจากรูแคปซูลขนาดเล็ก โดยพบว่าต้นกำเนิดแสงคือฝุ่นผงที่ไม่ติดไฟ

2 วันต่อมา โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส ได้นำแคปซูลที่บรรจุ “วัตถุเรืองแสง” ไปขายให้กับ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เดอไวร์ เฟอร์ไรรา รู้สึกประทับใจ “วัตถุเรืองแสง” ที่ได้รับมาอย่างมาก จึงนำไปตั้งไว้ในบ้าน ให้ มาเรีย ผู้เป็นภรรยาและสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ได้ชื่นชมความงามของวัตถุปริศนาชิ้นนี้ พร้อมสั่งให้คนงานช่วยกันเจาะเอาผงเรืองแสงออกมาจากแคปซูลให้มากยิ่งขึ้น

วันที่ 24 กันยายน อีโว เฟอร์ไรรา น้องชายของ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา ได้นำ “ผงเรืองแสง” กลับไปยังบ้านพักของตนเอง เขานำผงปริศนาโปรยไปตามพื้นบ้าน ขณะนั้น ไลด์ ลูกสาววัย 6 ขวบของเขากำลังนั่งกินแซนด์วิชอยู่บนพื้นบ้าน เด็กสาวนำผงเรืองแสงมาทาตามตัว พร้อมกินแซนด์วิชที่ปนเปื้อนผงเรืองแสงเข้าไปอีกด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน มาเรีย ภรรยาเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่เริ่มป่วย สังเกตว่าเพื่อนบ้านและคนในครอบครัวที่สัมผัสผงเรืองแสงต่างล้มป่วยกันทีละคน เธอจึงนำแคปซูลไปโรงพยาบาลในวันที่ 28 กันยายน ก่อนที่จะได้รับการยืนยันในวันถัดมาว่า สิ่งที่บรรจุอยู่ในแคปซูลคือสารกัมมันตรังสี “ซีเซียม-137”

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ชาวเมืองโกอินเนียจำนวน 112,000 ราย ต้องถูกเกณฑ์มาตรวจการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี และพบว่ามีผู้สัมผัสสารซีเซียม-137 จำนวน 249 ราย และมีถึง 20 รายที่ป่วยจากการสัมผัสรังสีเกินขนาด

ในเดือนต่อมาพบผู้เสียชีวิต 4 ราย ได้แก่ คนงานร้านรับซื้อของเก่า 2 ราย โดยคนหนึ่งเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและปอดล้มเหลว ส่วนอีกรายเสียชีวิตด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและโรคต่อมน้ำเหลือง

ไลด์ หลานสาววัย 6 ปีของเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตหลังได้รับปริมาณรังสีระดับ 6 Gy โดยเธอมีอาการบวมบริเวณลำตัวท่อนบน, ผมร่วง, ไตและปอดล้มเหลว และอาการเลือดออกภายใน

มาเรีย ภรรยาวัย 37 ปีของเดอไวร์ เฟอร์ไรรา เสียชีวิตหลังได้รับปริมาณรังสีระดับ 5.7 Gy โดยเธอมีอาการท้องร่วง, ผมร่วง, อาการเลือดออกภายใน และไตวายเฉียบพลัน

แม้ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า จะรอดชีวิตทั้ง ๆ ที่ได้รับปริมาณรังสีสูงถึง 7 Gy แต่ความเศร้าจากการสูญเสียคนในครอบครัว ทำให้เขาป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง และเสียชีวิตจากโรคตับแข็งในปี 1994

ส่วน อีโว เฟอร์ไรรา น้องชายของ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา เสียชีวิตในปี 2003 ด้วยโรคถุงลมโป่งพอง

ด้านหัวขโมยต้นเรื่องอย่าง โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส และ แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า แม้จะไม่เสียชีวิตเพราะสารซีเซียม-137 แต่ก็ต้องกลายเป็นคนพิการ โดย แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า ต้องถูกตัดนิ้วบางส่วนจากมือทั้งสองข้าง ส่วน โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส ต้องถูกตัดแขนขวาเพราะการสัมผัสสารกัมมันตรังสี

ในส่วนของการพิจารณาคดี แพทย์ 3 คนของโรงพยาบาล IGR ถูกดำเนินคดีความผิดฐานทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยประมาท

คำพิพากษาจากศาลอุทธรณ์ (8th Federal Court of Goiás) เมื่อปี 2000 ตัดสินให้คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์แห่งชาติบราซิล (CNEN) ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อเหยื่อเป็นเงินรายละ 1.3 ล้านเรอัลบราซิลหรือประมาณ 8 ล้านบาท และต้องรับผิดชอบค่ารักษาที่เกิดกับความผิดปกติทั้งทางกายและทางใจ ต่อเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยครอบคลุมไปจนถึงลูกหลานรุ่นที่ 3 ของเหยื่อทุกราย

ข้อมูลอ้างอิง:

https://en.wikipedia.org/wiki/Goi%C3%A2nia_accident
https://web.archive.org/web/20120318233148/http://www.oecd-nea.org/law/nlb/Nlb-66/023-032.pdf
https://www.youtube.com/watch?v=lnkwI86yR08
the Goiania Cesium 137 radiological accident – Neptunium

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ภูเก็ตฝนตกต่อเนื่อง ชาวบ้านหวั่นเขาถล่มซ้ำ

หลังจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงเวลานี้ จ.ภูเก็ต มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่เผชิญกับน้ำท่วมขัง ขณะที่พื้นที่ ต.กะรน จุดที่เคยเกิดดินถล่ม มีผู้เสียชีวิต 13 ราย เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่อยู่อย่างผวา เพราะกลัวดินจากภูเขาจะถล่มซ้ำอีก

ช่วย 143 นักท่องเที่ยวติดเกาะราชาใหญ่ ขึ้นฝั่งภูเก็ตปลอดภัย

ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 ส่งเรือ ต.111 ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ 143 คน ติดค้างบนเกาะราชาใหญ่ กลับเข้าฝั่ง จ.ภูเก็ต ได้อย่างปลอดภัย

น้ำในตัวเมืองหนองคายใกล้แห้ง หลังโขงพ้นวิกฤติ

หลายตำบลใน อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย น้ำยังท่วมสูงและเพิ่มระดับ บางจุดถูกตัดขาดมากว่า 2 สัปดาห์ ถือว่าหนักสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่ในตัวเมือง น้ำใกล้แห้ง หลังระดับแม่น้ำโขงใกล้พ้นจุดวิกฤติ

“อ.เฉลิมชัย” ชี้รูปปั้น “Angel” เป็นแพะรับบาป

ดราม่ารูปปั้น Angel of Maesai หน้าด่านชายแดนไทย-เมียนมา ถูกวิจารณ์เป็นต้นเหตุทำให้น้ำท่วม อ.แม่สาย หนักสุดในรอบ 100 ปี ด้าน “อ.เฉลิมชัย” วอนอย่าโยนบาปให้งานศิลปะ พร้อมเคลื่อนย้ายไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยเมืองเชียงรายแล้ว