“โกอินเนีย 1987” โศกนาฏกรรมจากการขาดความเข้าใจ “ซีเซียม-137”

29 มีนาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


“ซีเซียม-137” คือสารกัมมันตรังสีที่นำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ทั้งวงการแพทย์และแวดวงอุตสาหกรรม แต่หากนำไปใช้อย่างขาดความรัดกุม ผลเสียจากการสัมผัสซีเซียม-137 โดยปราศจากสิ่งป้องกันอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

ดังเช่นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเมืองโกอินเนีย ประเทศบราซิล เมื่อปี ค.ศ. 1987 เมื่อการสัมผัส “ซีเซียม-137” โดย “ไม่รู้ตัว” ส่งผลต่อสุขภาพของชาวเมืองนับแสน และคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปถึง 4 ราย จนนิตยสาร Time ยกเป็นหนึ่งในหายนะทางนิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์


เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อโรงพยาบาล Instituto Goiano de Radioterapia (IGR) ในเมืองโกอินเนีย สั่งซื้อเครื่องฉายรังสีที่บรรจุสารซีเซียม-137 มารักษาคนไข้ครั้งแรกในปี 1977

กระทั่งปี 1985 โรงพยาบาล IGR ตัดสินใจย้ายไปเปิดกิจการที่เมืองอื่นจะเตรียมทุบอาคารทิ้ง แต่ถูกขัดขวางโดย Society of Saint Vincent de Paul องค์กรผู้ถือสิทธิ์ในตัวอาคาร ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายนำไปสู่การสู้คดี โดยศาลมีคำสั่งห้ามขนย้ายสิ่งของออกจากอาคาร รวมถึงซีเซียม-137 ที่ถูกทิ้งไว้ในเครื่องฉายรังสี

ตัวแทนของโรงพยาบาล IGR พยายามร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานถึงความกังวลที่มีต่อซีเซียม-137 ที่ถูกทิ้งไว้ แต่ไม่มีหน่วยงานใดให้ความสำคัญ ทั้งสถาบันประกันภัยข้าราชการพลเรือน (Ipasgo) หรือคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์แห่งชาติบราซิล (CNEN)


แม้จะมีการว่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้มีคนเข้าออกโรงพยาบาลร้างแห่งนี้โดยพลการ แต่ในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1987 โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส และ แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า ชาวเมืองโกอินเนีย 2 ราย ใช้โอกาสที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ได้เข้าเวรในวันนั้น พากันลักลอบเข้าตัวอาคาร

เมื่อได้พบกับเครื่องฉายรังสีที่ไม่มีป้ายเตือนถึงอันตรายที่อยู่ข้างใน ทั้งสองได้ทำการแยกชิ้นส่วนเครื่องฉายรังสี แล้วนำอุปกรณ์ที่บรรจุสารซีเซียม-137 กลับไปยังบ้านพักของตนเอง ด้วยความตั้งใจจะนำ “สิ่งมีค่า” ที่อยู่ในเครื่องฉายรังสีไปขาย

ระหว่างการแยกชิ้นส่วนในเย็นวันนั้น โจรทั้งคู่เริ่มมีอาการคลื่นไส้อย่างหนักซึ่งเป็นผลจากการสัมผัสรังสีเกินขนาด แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า เลิกล้มความพยายามในวันที่ 15 กันยายน หลังเกิดอาการท้องร่วง, เวียนศีรษะ ส่วนนิ้วบนมือทั้งสองข้างเริ่มบวมและไหม้จากการสัมผัสรังสี

ต่างจากคู่หูอย่าง โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส ที่ใช้ไขขวงเจาะแคปซูลจนทะลุเห็นสารซีเซียม-137 ที่อยู่ภายในได้สำเร็จในวันที่ 16 กันยายน

สิ่งที่พบสร้างความตื่นตาแก่เขาอย่างมาก เมื่อเขาได้เห็นแสงสีฟ้าสดใสส่องสว่างออกมาจากรูแคปซูลขนาดเล็ก โดยพบว่าต้นกำเนิดแสงคือฝุ่นผงที่ไม่ติดไฟ

2 วันต่อมา โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส ได้นำแคปซูลที่บรรจุ “วัตถุเรืองแสง” ไปขายให้กับ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เดอไวร์ เฟอร์ไรรา รู้สึกประทับใจ “วัตถุเรืองแสง” ที่ได้รับมาอย่างมาก จึงนำไปตั้งไว้ในบ้าน ให้ มาเรีย ผู้เป็นภรรยาและสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ได้ชื่นชมความงามของวัตถุปริศนาชิ้นนี้ พร้อมสั่งให้คนงานช่วยกันเจาะเอาผงเรืองแสงออกมาจากแคปซูลให้มากยิ่งขึ้น

วันที่ 24 กันยายน อีโว เฟอร์ไรรา น้องชายของ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา ได้นำ “ผงเรืองแสง” กลับไปยังบ้านพักของตนเอง เขานำผงปริศนาโปรยไปตามพื้นบ้าน ขณะนั้น ไลด์ ลูกสาววัย 6 ขวบของเขากำลังนั่งกินแซนด์วิชอยู่บนพื้นบ้าน เด็กสาวนำผงเรืองแสงมาทาตามตัว พร้อมกินแซนด์วิชที่ปนเปื้อนผงเรืองแสงเข้าไปอีกด้วย

หลังจากนั้นไม่นาน มาเรีย ภรรยาเจ้าของร้านรับซื้อของเก่าที่เริ่มป่วย สังเกตว่าเพื่อนบ้านและคนในครอบครัวที่สัมผัสผงเรืองแสงต่างล้มป่วยกันทีละคน เธอจึงนำแคปซูลไปโรงพยาบาลในวันที่ 28 กันยายน ก่อนที่จะได้รับการยืนยันในวันถัดมาว่า สิ่งที่บรรจุอยู่ในแคปซูลคือสารกัมมันตรังสี “ซีเซียม-137”

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ชาวเมืองโกอินเนียจำนวน 112,000 ราย ต้องถูกเกณฑ์มาตรวจการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี และพบว่ามีผู้สัมผัสสารซีเซียม-137 จำนวน 249 ราย และมีถึง 20 รายที่ป่วยจากการสัมผัสรังสีเกินขนาด

ในเดือนต่อมาพบผู้เสียชีวิต 4 ราย ได้แก่ คนงานร้านรับซื้อของเก่า 2 ราย โดยคนหนึ่งเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและปอดล้มเหลว ส่วนอีกรายเสียชีวิตด้วยโรคระบบทางเดินหายใจและโรคต่อมน้ำเหลือง

ไลด์ หลานสาววัย 6 ปีของเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตหลังได้รับปริมาณรังสีระดับ 6 Gy โดยเธอมีอาการบวมบริเวณลำตัวท่อนบน, ผมร่วง, ไตและปอดล้มเหลว และอาการเลือดออกภายใน

มาเรีย ภรรยาวัย 37 ปีของเดอไวร์ เฟอร์ไรรา เสียชีวิตหลังได้รับปริมาณรังสีระดับ 5.7 Gy โดยเธอมีอาการท้องร่วง, ผมร่วง, อาการเลือดออกภายใน และไตวายเฉียบพลัน

แม้ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า จะรอดชีวิตทั้ง ๆ ที่ได้รับปริมาณรังสีสูงถึง 7 Gy แต่ความเศร้าจากการสูญเสียคนในครอบครัว ทำให้เขาป่วยเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง และเสียชีวิตจากโรคตับแข็งในปี 1994

ส่วน อีโว เฟอร์ไรรา น้องชายของ เดอไวร์ เฟอร์ไรรา เสียชีวิตในปี 2003 ด้วยโรคถุงลมโป่งพอง

ด้านหัวขโมยต้นเรื่องอย่าง โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส และ แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า แม้จะไม่เสียชีวิตเพราะสารซีเซียม-137 แต่ก็ต้องกลายเป็นคนพิการ โดย แวกเนอร์ โมตา เปไรร่า ต้องถูกตัดนิ้วบางส่วนจากมือทั้งสองข้าง ส่วน โรแบร์โต ดอส ซานโตส อัลเวส ต้องถูกตัดแขนขวาเพราะการสัมผัสสารกัมมันตรังสี

ในส่วนของการพิจารณาคดี แพทย์ 3 คนของโรงพยาบาล IGR ถูกดำเนินคดีความผิดฐานทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยประมาท

คำพิพากษาจากศาลอุทธรณ์ (8th Federal Court of Goiás) เมื่อปี 2000 ตัดสินให้คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์แห่งชาติบราซิล (CNEN) ต้องชดใช้ค่าเสียหายต่อเหยื่อเป็นเงินรายละ 1.3 ล้านเรอัลบราซิลหรือประมาณ 8 ล้านบาท และต้องรับผิดชอบค่ารักษาที่เกิดกับความผิดปกติทั้งทางกายและทางใจ ต่อเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยครอบคลุมไปจนถึงลูกหลานรุ่นที่ 3 ของเหยื่อทุกราย

ข้อมูลอ้างอิง:

https://en.wikipedia.org/wiki/Goi%C3%A2nia_accident
https://web.archive.org/web/20120318233148/http://www.oecd-nea.org/law/nlb/Nlb-66/023-032.pdf
https://www.youtube.com/watch?v=lnkwI86yR08
the Goiania Cesium 137 radiological accident – Neptunium

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]