นักแบดประทับใจ ตลอดการแข่งขัน 3 รายการในไทย

นนทบุรี 29 ม.ค. 64 – เข้าสู่โค้งสุดท้ายของศึกแบดมินตันครั้งประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 3 รายการใหญ่ระดับโลกติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ตลอดเดือนมกราคมนี้ ทัพนักแบดมินตันระดับโลกตบเท้าเข้ากักตัวภายใต้ระบบบับเบิ้ล ควอรันทีน ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโดยกระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทยอย่างเข้มงวด ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา และมีทีมแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาดูแลเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในบับเบิลตลอดระยะเวลาของการแข่งขัน ซึ่งได้ดำเนินการแข่งขัน โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น และ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น สำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยทั้ง 2 รายการ ภายใต้มาตรการในรูปแบบนิวนอร์มอล โดยไม่อนุญาตให้แฟนแบดมินตัน และผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในสนามโดยเด็ดขาด



ทั้งนี้ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “การจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการใหญ่ ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ซึ่งดำเนินการภายใต้มาตรการ บับเบิ้ล ป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก รัฐบาล และเอกชน ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ เป็นอย่างดีนั้น การดำเนินการแข่งขันดำเนินการมาถึงตรงนี้ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง”


“นอกจาก โธมัส บาค ประธานไอโอซี จะส่งข้อความมายังตน โดยขอให้ฝ่ายไทย ช่วยส่งต้นแบบการจัดแบดมินตัน โดยเฉพาะรายละเอียดมาตรการบับเบิ้ล ที่ได้ผลดี ในการป้องกันโควิด-19 ให้กับ จอห์น โคท ประธานคณะกรรมาธิการประสานงานโอลิมปิก โตเกียว 2020 ของไอโอซี ชาวออสเตรเลีย โดยเชื่อมั่นว่า จะมีประโยชน์อย่างมากกับ โตเกียวเกมส์ ที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้”



“ในส่วนของ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ก็เตรียมปรับรูปแบบการแข่งขัน ลูกยางเนชันส์ ลีก 2021 ให้เป็นแบบ บับเบิ้ล เหมือนที่ไทย จัดการแข่งขันแบดมินตัน เพื่อลดการเดินทางไปในแต่ละประเทศ แต่ละสัปดาห์ เหมือนที่เคยจัดมา ที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ทุกคน โดยยังคงให้สิทธิ์ 16 ทีม เข้าร่วมชิงชัยเหมือนเดิม แต่จะให้มีชาติเดียวในการเป็นเจ้าภาพ ในแต่ละประเภท ซึ่งสหพันธ์ฯ จะประกาศประเทศเจ้าภาพ ทั้งทีมชาย และทีมหญิง ไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์นี้”

เหลือเวลาแข่งขันอีกเพียงสองวันซึ่งเป็นรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 30 – 31 มกราคมนี้ ที่วงการแบดมินตันโลกจะได้จารึกว่าใครจะได้ครองแชมป์ศึกใหญ่ส่งท้าย “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ทั้งนี้เหล่ายอดฝีมือที่คว้าตั๋วเข้ามาลุยในแมทช์ปิดท้าย ได้เผยความรู้สึกถึงความประทับใจนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่วันแรก จนกระทั่งใกล้ถึงวันที่ต้องอำลากลับประเทศของตนหลังเสร็จสิ้นการแข่งขันมาตลอดทั้งเดือน ไม่ว่าจะเป็น ไต้ จือ อิ่ง หญิงเดี่ยวมือ 1 ของโลกจากไต้หวัน, คาโรลิน่า มาริน หญิงเดี่ยวมือ 6 ของโลกจากสเปน, โจว เทียนเฉิน ชายเดี่ยวมือ 2 ของโลกจากไต้หวัน, วิคเตอร์ อเซลเซ่น ชายเดี่ยวมือ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก, โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน ชายคู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย, หลี่ หยาง กับ หวัง ชิหลิน ชายคู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน, ทอม กีเซล กับ เมลฟิน เดอรูร์ คู่ผสมมืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส รวมถึงเหล่านักกีฬาของไทย ที่มาเผยความในใจในการลงแข่งขัน 3 รายการใหญ่ แบบมาราธอนมาตลอดทั้งเดือน


ไต้ ซือ หยิง หญิงเดี่ยวมือ 1 ของโลกจากไต้หวัน
“ตัวฉันเองไม่ได้เดินทางมานานมากแล้ว เพราะสถานการณ์ทั่วโลกนั้นประสบปัญหาโควิด-19 ตั้งแต่ทีแรกที่มองเห็นเลยว่าการเตรียมพร้อมในการจัดงานในครั้งนี้ ต้องบอกว่าประทับใจ และทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยมาก ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ในเรื่องของเส้นทางการเดินลงมาจากเครื่องบินจนถึงโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความปลอดภัย ยิ่งพอมาถึงสนามซ้อมและสนามแข่งขันทำให้ฉันรู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่และทีมงานต้องใส่ชุดป้องกันที่หนาแน่นทำให้ฉันเข้าใจในทันทีเลยว่าทีมงานทุกคนนั้นทำงานกันอย่างหนักมาก เพื่อที่จะให้การแข่งขันทั้ง 3 รายการนี้เกิดขึ้นมา”

คาโรลิน่า มาริน หญิงเดี่ยวมือ 6 ของโลกจากสเปน
“อยากจะขอขอบคุณสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่ได้จัดการแข่งทั้ง 3 รายการนี้ขึ้นมา ทุกอย่างที่ดำเนินการนั้นออกมาสมบูรณ์แบบมากในสถานการณ์โลกที่เป็นแบบนี้”

โจว เทียนเฉิน ชายเดี่ยวมือ 2 ของโลกจากไต้หวัน
“สำหรับผม ผมคิดว่าประเทศไทยทุกคนนั้นน่ารักกับผมมาก ทุกๆ คนที่ผมเจอใจดีทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานจัดการแข่งขัน ทุกคนที่โรงแรม ไม่ว่าผมขอให้ช่วยอะไร ผมได้ความช่วยเหลือทุกครั้ง ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายผมมีความสุขมาก ส่วนในเรื่องของการป้องกันโควิด-19 ต้องบอกเลยว่าผู้จัดการแข่งขันทำได้ดีมาก ดีจริงๆ ทุกที่ที่ผมไปต้องใส่หน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะเป็นที่สนามซ้อม สนามแข่ง และในโรงแรม แม้แต่ในลิฟท์ยังมีการทำความสะอาดปุ่มกดตลอดเวลา ผมรู้เลยว่าพวกเขาทำงานกันหนักมาก และขอขอบคุณทีมผู้จัดการแข่งขัน สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ที่ทำให้ทำการแข่งขันทั้ง 3 รายการออกมาได้ดีเยี่ยม”

วิคเตอร์ อเซลเซ่น ชายเดี่ยวมือ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก
“ผมอยากจะขอบคุณรัฐบาลไทย สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย และ BWF ทั้งนี้กฏและระเบียบในการอยู่ในบับเบิ้ลนั้นเข้มงวดมาก ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย ผมอยากจะขอขอบคุณทุกๆ คนที่ทำให้การแข่งขันทั้ง 3 รายการนี้เกิดขึ้นได้”

โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน ชายคู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย
“ก่อนอื่นเลยผมอยากจะขอบคุณสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ที่สามารถจัดการแข่งขัน 3 รายการใหญ่นี้ได้สำเร็จ สำหรับผมมองว่ามันไม่ใช้เรื่องง่าย และที่สำคัญเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัย และระบบการป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันไม่ใช้เรื่องง่าย เช่น การทำความสะอาดรถโดยสารสำหรับนักกีฬา มันไม่ง่ายเลยที่จะต้องมานั่งทำความสะอาดเก้าอี้ทีละตัว และทุกครั้งที่มีการใช้งาน ส่วนในเรื่องของโรงแรมก็สะดวกสบาย และมีทีมทหารดูแลความปลอดภัย แม้กระทั่งการเดินทางไปสนามซ้อมและสนามแข่งขันก็มีตำรวจนำทางไปตลอด ทำให้พวกเราทั้งสองรับรู้ถึงความใส่ใจในนักกีฬาให้มีความสะดวกสบายและปลอดภัย ทำให้พวกผมทั้งสองคนมีความมั่นใจ กล้าที่จะแข่งขันทั้ง 3 รายการ รวมไปถึงที่พักที่โรงแรมก็สะดวกสบายมากเพราะว่าพวกเราต้องอยู่ในห้องเกือบทั้งเดือน”

หลี่ หยาง กับ หวัง ชิหลิน ชายคู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน
“ในการแข่งขันแบดมินตันในประเทศไทยในครั้งนี้บอกได้เลยว่า ผมรู้สึกค่อนข้างสบายใจและปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด-19 สามารถโฟกัสในเกมการแข่งขันโดยที่ไม่ต้องกังวลอะไรเลย” หลี่ หยาง กล่าว
“ผมมีความรู้สึกสะดวกสบายในการใช้ชีวิตช่วงที่อยู่ในบับเบิ้ลที่นี้ โรงแรมที่พักมีความรู้สึกปลอดภัย และขอบคุณมากๆ ที่ทำให้ผมมีโอกาสในการเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ การแข่งขันใน 3 รายการใหญ่ในประเทศไทยครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของผม” หวัง ชิหลิน กล่าว

ทอม กีเซล กับ เมลฟิน เดอรูร์ คู่ผสมมืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส
“ผมรู้สึกว่าปลอดภัยในทุกๆ การเดินทางที่เซอร์ไพรส์ผมมากที่มีตำรวจนำขบวนของเรา ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก และอาหารการกินก็ดีมากสำหรับผม” ทอม กีเซล กล่าว
“ฉันอยากจะขอบคุณทีมงานจัดการแข่งขันที่มีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนที่จะมาฉันรู้สึกกังวลกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พอสมควร แต่พอมาถึงรู้สึกปลอดภัยและประทับใจมากกับการจัดการทุกอย่าง รู้สึกปลอดภัย อาหารอร่อย และโรงแรมก็สะดวกสบายด้วย อยากจะบอกว่าประทับใจทุกอย่างเลย” เมลฟิน เดอรูร์ กล่าว

กิ๊ฟ-จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ หญิงคู่มืออันดับ 11 ของโลก
“สิ่งที่เราทั้ง 2 คนประทับใจสำหรับการแข่ง 3 รายการ ก็ประทับใจตั้งแต่วันแรกเลยที่ก่อนเข้าพักทุกคนต้องผ่านการตรวจโควิดก่อนจะเข้าพักในโรงแรมซึ่งเป็นมาตราการที่เข้มงวดมาก ส่วนในเรื่องของรถรับส่งก็ทำได้ดีมาก มีการจัดการรถเป็นรอบๆ รถใครรถมันเพื่อไม่ให้นักกีฬาแต่ละประเทศนั้นเจอกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 รู้สึกปลอดภัยมากๆ ส่วนการจัดรายการแข่งขัน ทั้ง 3 รายการ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น และ เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 ทั้ง 3 รายการนี้ถือว่าเป็น 3 รายการของประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เฉพาะของประเทศไทย แต่เป็นของทุกประเทศทั่วโลกที่มีการจัดการแข่งขันแบดมินตัน 3 รายการที่เป็นซูปเปอร์พันติดต่อกัน 3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นไปได้ยากมากที่จะสามารถจัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้น แต่สิ่งที่ยากกว่านั้นคือเราสามารถจัดขึ้นได้อย่างปลอดภัย และนี้คือการโชว์ศักยภาพของรัฐบาลไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานรัฐบาลทุกภาคส่วนที่สามารถจัดการแข่งขันในครั้งนี้ขึ้นมาได้”

เมย์-รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยวมืออันดับ 5 ของโลก
“อยากจะขอบคุณ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ศบค. และหน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานที่ทำให้มี 3 รายการนี้เกิดขึ้นมาทั้งที่สถานการณ์โควิด-19 ยังคงระบาดอยู่นี้ เป็นการจัดการแข่งขันครั้งแรกแบบนิวนอร์มอล และทำให้นักกีฬาไทยได้มีโอกาสได้ลงแข่งขันในรายการซูเปอร์ 1000 ขอขอบคุณจากใจที่ทำให้การแข่งขันทั้ง 3 รายการนี้เกิดขึ้นมา เชื่อเลยว่าประเทศไหนที่ไม่สามารถจัดการแข่งขันแบบนี้ได้ แต่ประเทศไทยสามารถจัดได้แน่นอน ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่สามารถทำให้นักกีฬาแบดมินตันไทยและนักกีฬาแบดมินตันต่างชาติได้มีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ทั้ง 3 รายการนี้”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]