จับสายขนไก่ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020“เมย์ รัชนก” แก้มือ “ไต้ จือ อิ่ง” คู่ผสม “บาส-ปอป้อ” ร่วมกรุ๊ปออฟเดธ

26 มกราคม 2564 – ความเคลื่อนไหวล่าสุดของศึกใหญ่ที่ประเทศไทยได้สร้างประวัติศาสตร์จัด 3 รายการใหญ่ติดต่อกัน ปิดท้ายด้วยศึก “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ชิงเงินรางวัลรวม 1,500,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 45,150,000 บาท ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ภายใต้มาตรการในรูปแบบนิวนิร์มอล ระหว่างวันที่ 27 – 31 มกราคมนี้ ซึ่งจะมีเพียงนักแบดมินตันที่ทำคะแนนสะสมใน HSBC Road to Bangkok Finals ที่ดีที่สุดอันดับ 1-8 ของแต่ละประเภท และให้สิทธิ์นักกีฬาจากชาติเดียวกันคว้าตั๋วรอบไฟนอลเพียงแค่ 2 ใบในแต่ละประเภทเท่านั้น ที่จะได้ลงชิงชัยและที่สำคัญจะต้องอยู่ในระบบบับเบิ้ลควอรันทีนหรือ OQ จึงจะได้สิทธิ์ลงแข่งขัน เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ในสัปดาห์นี้
ในส่วนของทีมนักกีฬาแบดมินตันไทยมี 6 รายที่ทำผลงานคว้าต้๋วผ่านเข้ารอบไฟนอลได้สำเร็จ ประกอบด้วย ประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 5 ของโลก, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก, ประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก และ ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลก



ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ทางสหพันธ์แบดมินตันโลก (BWF) ได้ทำการจับสลากแบ่งกลุ่มศึก “เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” เป็นที่เรียบร้อย โดยแบ่งนักกีฬาออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 4 คู่ ทำการแข่งขันแบบพบกันทั้งหมดในกลุ่มเพื่อนำเอานักกีฬาที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดอันดับ 1-2 ของแต่ละกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งรอบรองชนะเลิศจะให้นักกีฬาที่เป็นแชมป์กลุ่มเป็นตัวยืนแล้วจับสลากเอานักกีฬาที่มีคะแนนเป็นอันดับสองในกลุ่มเข้าไปประกบ ประเภทหญิงเดี่ยว กลุ่มเอ ประกอบด้วย คาโรลิน่า มาริน มืออันดับ 6 ของโลกจากสเปน, อัน เซยอง มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้, มิเชล ลี มืออันดับ 10 ของโลกจากแคนาดา และอีฟเกนิย่า โคเซ็ทกาย่า มืออันดับ 25 ของโลกจากรัสเซีย ส่วนกลุ่มบี ประกอบด้วย ไต้ จือ อิ่ง มืออันดับ 1 ของโลกจากไต้หวัน, “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 5 ของโลก, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 ของโลก และ พูสซาลา วี สินธุ มืออันดับ 7 ของโลกจากอินเดีย


ประเภทชายเดี่ยว กลุ่มเอ ประกอบด้วย วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 4 ของโลกจากเดนมาร์ก, โจว เทียนเฉิน มืออันดับ 2 ของโลกจากไต้หวัน, ลี ซีเจี๋ย มืออันดับ 10 ของโลกจากมาเลเซีย และ แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย ส่วน กลุ่มบี ประกอบด้วย อันเดรส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก, หวัง ซื่อเหว่ย มืออันดับ 12 ของโลกจากไต้หวัน, คีดัมบี้ สีกานห์ มืออันดับ 14 ของโลกจากอินเดีย และ อึ้ง กาลอง อังกุส มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง
ประเภทหญิงคู่ กลุ่มเอ ประกอบด้วย เกรเซีย โพลี่ กับ อาพริยานี่ ราฮายู คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย , ลี โซฮี กับ ชิน เซืองชาน คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากเกาหลีใต้, เชา เหม่ย กวน กับ ลี เหม็งหยวน คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากมาเลเซีย และ วิเวียน ฮู กับ แยป เชงเหวิน คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากมาเลเซีย ส่วนกลุ่มบี ประกอบด้วย คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้, โคลอี้ เบิร์ช กับ ลอว์เรน สมิธ คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากอังกฤษ, ลินดา เอฟเลอร์ กับ อิซซาเบล เฮิร์ททริช คู่มืออันดับ 31 ของโลกจากเยอรมนี และ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธารากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 11 ของโลก



ประเภทชายคู่ กลุ่มเอ ประกอบด้วย หลี่ หยาง กับ หวัง ชิหลิน คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากไต้หวัน, ออง ยิวซิน กับ เตียว อียี่ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากมาเลเซีย, มาร์คัส เอลลิส กับ คริส แลงกริดจ์ คู่มืออันดับ 22 ของโลกจากอังกฤษ และ เบน เลนจ์ กับ ฌอน เวอร์ดี้ คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากอังกฤษ ส่วน กลุ่มบี ประกอบด้วย อารอน เชี๊ยะ กับ โซ วูยิค คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย, โมฮาเหม็ด อัสซาน กับ เฮนดร้า เซทเทียวาน คู่มืออันดับ 2 ของโลกจากอินโดนีเซีย, วลาดิเมียร์ อิวานอฟ กับ อิวาน โซโซนอฟ คู่มืออันดับ 24 ของโลกจากรัสเซีย, ชอย โซวกิว กับ โซว ซอนแจ คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากเกาหลีใต้


ประเภทคู่ผสม กลุ่มเอ ประกอบด้วย มาร์คัส เอลลิส กับ ลอว์เรน สมิธ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากอังกฤษ, “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลก, ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อคตาเวียนติ คู่มืออันดับ 4 ของโลกจากอินโดนีเซีย และ โซว ซอนแจ กับ แช ยูจุง คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากเกาหลีใต้ ส่วน กลุ่มบี ประกอบด้วย มาร์ค แลมฟรุ๊ท กับ อิซซาเบล เฮิร์ททริก คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากเยอรมนี, ทอม กีเซล กับ เมลฟิน เดอรูร์ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากฝรั่งเศส, ฮาฟิต ไฟซาล กับ กลอเรีย เอ็มมานูเอล วิดจาจา คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากอินโดนีเซีย และ โก๊ะ ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซีย

“เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 5 ของโลก เผยหลังทราบสายการแข่งขันว่า “สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่สาม สภาพร่างกายมีล้าปกติ แต่ตอนนี้ร่างกายฟื้นตัวมาดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเตรียมตัวสำหรับลงแข่งเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ ในการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ คือการชิงชัยของนักกีฬา 8 คนที่สุดที่สุดในแต่ละปีถือว่ามีความยากและท้าทาย เมย์แข่งมา 7-8 ปี ไม่สามารถประมาทใครได้ และไม่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าใคร ต้องการทำผลงานให้ดีที่สุด คิดว่าทุกรอบคือรอบน็อกเอาต์ ส่วนสายการแข่งขันหนักพอสมควร โดยในครั้งนี้เมย์อยู่สายเดียวกับ น้องหมิว, ไต้ จือ อิ่ง, พีวี สินธุ โอกาส 50-50 ขึ้นอยู่ที่ว่าในวันแข่งเราทำได้ดีแค่ไหน สำหรับเป้าหมายของเมย์ในการการแข่งขันเวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ คือผ่านรอบรองชนะเลิศให้ได้ก่อน และอยากคว้าแชมป์เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์มาครองให้ได้สักครั้ง”


ทางด้าน บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กล่าวว่า “สภาพร่างกายตอนนี้กลับมาพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จากการแบ่งสายยากทุกคู่ทุกแมทช์ เพราะคัดเลือดนักกีฬาที่ทำผลงานดีที่สุด 8 คู่ ก็ถือว่าหนัก แต่เราพร้อมจะเจอกับทุกคู่ เป้าหมายของเรายังเกมือนเดิมคือแชมป์”
ส่วน ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย กล่าวว่า “สภาพร่างกายพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ เต็มที่กับแมตช์นี้แน่นอน รอบไฟนอลส์นี้มีความยากทุกคู่ค่ะ ทั้ง 8 คู่ที่เข้ามาก็หนักหมด เห็นสายแข่งแล้วก็ค่อนหข้างหนัก แต่สู้เต็มที่แน่นอน ตั้งเป้าทำให้ดีที่สุดทุกแมตช์ และจะพยามคว้าแชมป์มาฝากคนไทยให้ได้”
โดยหลังจากจับสายการแข่งขันออกมาเป็นที่เรียบร้อยทาง คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC), นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า “ผลการแบ่งกลุ่มในศึกเอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ ที่ออกมาต้องถือว่าในประเภทคู่ผสมบาสกับปอป้อ ต้องอยู่ในกลุ่มที่หนักมากๆ เรียกได้ว่าเป็นกรุ๊ปออฟเดธเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อคตาเวียนติ จากอินโดนีเซีย, ซอง แซโจว กับ แช ยูจุง จากเกาหลีใต้ ต่างก็เป็นคู่ชั้นนำของโลกและต่อสู้กับคู่ของเราได้อย่างคู่คี่สูสีมาโดยตลอด แต่ในช่วงนี้ต้องยอมรับว่าบาสกับปอป้อกำลังมีความมั่นใจในฟอร์มการเล่นที่ดี เชื่อว่าทั้งคู่น่าจะทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดีและผ่านเข้าไปสู่รอบรองได้สำเร็จ ทั้งนี้นับเป็นการสร้างเกียรติประวัติให้กับผลงานของทั้งบาสและป้อ ที่คว้าแชมป์แรกในระดับ 1000 และยังเป็นการคว้าแชมป์ back to back ติดต่อกันใน 2 สัปดาห์เป็นครั้งแรกของตัวเอง”


“ส่วนประเภทหญิงเดี่ยวเป็นที่น่าเสียดายที่ทั้งเมย์และหมิวต้องมาอยู่ร่วมกลุ่มเดียวกัน และมีทั้งมือ 1 โลก ไต้ จือ อิ่ง กับ พูสซาลา วี สินธุ อดีตแชมป์โลก 2019 จากอินเดีย ร่วมในกลุ่ม ทำให้การแข่งขันในกลุ่มนี้สนุกคู่คี่สูสีกันทุกคู่ หากเมย์รักษาฟอร์มการเล่นที่ทำได้ดีในการแข่งขัน โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น ที่ผ่านมา โดยเมย์กลับมาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งหลังจากรายการที่แล้วเอาชนะสินธุได้อย่างสูสี เชื่อมั่นว่าโอกาสที่เมย์จะทำผลงานผ่านเข้าไปสู่รอบรองได้ก็มีไม่น้อยเช่นกัน”


“ด้านหญิงคู่ กิ๊ฟกับวิวสร้างผลงานเข้าชิงรายการระดับ 1000 ได้เป็นครั้งแรก คู่นี้ถือว่าเป็นนักกีฬาที่มีโอกาสสูงที่สุดที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบรอง เพราะอยู่ในกลุ่มที่ไม่หนักมากและน่าจะได้แก้มือกับคู่ คิม โซยอง กับ กอง ฮียอง จากเกาหลีใต้ กันเป็นรายการที่สามติดต่อกัน นอกจากนั้นยังมีกรุ๊ปออฟเดธที่น่าติดตามในประเภทชายเดี่ยวที่มีทั้ง วิคเตอร์ อเซลเซ่น จากเดนมาร์ก, โจว เทียนเฉินจากไต้หวัน, ลี ซีเจี๋ย จากมาเลเซีย, แอนโทนี่ ซินนิซุกะ กินติ้ง จากอินโดนีเซีย ที่ต้องมาอยู่ร่วมกลุ่มเอด้วยกัน

ฝากให้แฟนๆ แบดมินตันชาวไทยร่วมกันชมและเชียร์นักแบดมินตันไทยสู้ศึก เอชเอสบีซี บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020” ระหว่างวันที่ 27 – 31 มกราคม สดทุกคู่การแข่งขัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. วันพุธ (27 ม.ค.) ระหว่างเวลา 16.30 – 20.00 น., วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ (28-29 ม.ค.) ระหว่างเวลา 14.30 – 20.00 น. วันเสาร์ (30 ม.ค.) ระหว่างเวลา 17.00 – 20.00 น. และวันอาทิตย์ (31 ม.ค.) ระหว่างเวลา 14.30 – 18.00 น. .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]