มิตรผล สเตเดียม 23 พ.ย.- ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ประเดิมกุนซือคนใหม่ เปิดบ้านชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ ในศึกฟุตบอลไทยลีก ยังได้ลุ้นโควตาลุยฟุตบอลถ้วยเอเชีย
ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก เมื่อวานนี้ ที่ช่อง 9 MCOT HD ถ่ายทอดสดให้ชม ที่มิตรผล สเตเดียม “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ประเดิมมิลอส โจซิค กุนซือคนใหม่ เปิดบ้านพบกับ “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ เริ่มเกมมา 6 นาที เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 จากยานนิค โบลี จากนั้นนาที 45+2 ทีมเยือนมาได้จุดโทษหลังจากผู้ตัดสินเช็ก VAR เป็นแฮนด์บอลจัสติน บาสส์ และเป็น บาร์รอส ทาเดลลี รับหน้าที่สังหารจุดโทษยิงเข้าไปตามตีเสมอ 1-1
ครึ่งหลัง นาที 54 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษบ้าง จากจังหวะลูกยิงของกฤษณนน ศรีสุวรรณ ยิงบอลไปโดนมือของทาร์เดลลี และเป็น ฟิลิป โรลเลอร์ ยิงจุดโทษเข้าไปให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 นาที 69 ราชบุรี มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะจากลูกโหม่งของยานนิค โบลี ที่จังหวะแรกผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า ก่อนมาเช็ก VAR เปลี่ยนให้เป็นประตู จบเกม ราชบุรี มิตรผล ชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ 3-1 ทำให้ยังลุ้นพื้นที่ลุยฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก อยู่อันดับ 4 แข่ง 12 นัด มี 23 คะแนน ส่วนสมุทรปราการ ซิตี้ ยังอยู่อันดับ 12 มี 13 คะแนน
ต่อกันที่สนามทะเลหลวง “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 5 กำลังลุ้นพื้นที่เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เปิดบ้านพบกับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองแชมป์เก่า ทีมอันดับ 11 ที่กำลังเร่งทำผลงานให้ดีต่อเนื่อง นาที 32 บุรีรัมย์ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกยิงของ เควิน อินเกรโซ ครึ่งหลัง นาที 49 ทีมเยือนมาได้ประตูหนีห่าง 2-0 จากลูกโหม่งของ ศุภชัย ใจเด็ด และนาที 90+6 รัตนากร ใหม่คามิ มายิงประตูปิดท้ายให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ สุโขทัย เอฟซี 3-0 เก็บเพิ่ม 3 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 8 มี 17 คะแนน ส่วนสุโขทัย ยังอยู่อันดับ 5 เช่นเดิมมี 20 คะแนน
อีกคู่สนาม เอสซีจี สเตเดียม “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดบ้านพบกับ “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี นาที 30 “กิเลนผยอง” มาได้จุดโทษหลังจากผู้ตัดสินไปเช็ก VAR จังหวะที่ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ ปั๊มบอลกระดอนไปโดนแขนของ เลอันโดร อัสซัมเซา และเป็น แดร์เลย์ รับหน้าที่ยิงไปชนเสาไม่เข้าประตู แต่ผู้ตัดสิน ไพโรจน์ บุญกำเนิด ที่ได้รับสัญญาณจากห้องควบคุมว่า ธณชัย หนูราช ผู้รักษาประตูทีมเยือนขยับตัวออกมาจากเส้นก่อน แล้วให้ยิงใหม่ แต่ครั้งนี้ แดร์เลย์ ยิงข้ามคานออกไปพลาดขึ้นนำ
อย่างไรก็ตาม นาที 45 เจ้าถิ่นมาได้จุดโทษอีกครั้ง จากจังหวะ เอกณัฏฐ์ คงเกตุ ไปเสียบ ซาดอร์ มีร์ซาเยฟ ร่วงในเขตโทษ และเป็น วิลเลียน พอพพ์ รับหน้าที่สังหารยิงเข้าไป ให้เมืองทองออกนำ 1-0 ครึ่งหลังนาที 53 นครราชสีมา มาตามตีเสมอ 1-1 จากลูกโหม่งของเดนนิส มูริลโล จบเกมเสมอกันไป 1-1 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน เมืองทอง อยู่อันดับ 9 มี 17 คะแนน ส่วน นครราชสีมา ยังอยู่อันดับ 14 เช่นเดิมมี 10 คะแนน
ปิดท้ายที่ ลีโอ สเตเดียม “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จ่าฝูง เปิดบ้าน พบกับ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี นาที 14 เจนรบ สำเภาดี มาทำประตูให้เจ้าถิ่นขึ้นนำก่อน 1-0 จากนั้น นาที 45 สุมัญญา ปุริสาย มาทำประตูหนีห่าง 2-0 แต่ครึ่งหลังนาที 77 ดราแกน บอสโควิช มาตีไข่แตกไล่มา 1-2 จบเกม บีจี ปทุม ชนะไปได้ 2-1 ทำสถิติยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ แข่ง 12 นัด ชนะ 10 เสมอ 2 มี 32 คะแนน พร้อมกับได้สิทธิ์ไปลุยฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกแน่นอนแล้ว ส่วนชลบุรี อยู่อันดับ 7 มี 19 คะแนน
ส่วนผลคู่อื่น การท่าเรือ 4-0 สุพรรณบุรี เอฟซี, พีที ประจวบ 1-1 ระยอง เอฟซี, ตราด เอฟซี 2-3 แบงค็อก ยูไนเต็ด.-สำนักข่าวไทย