โอลิมปิกไทย ยัน “โอซีเอ” ไม่แบนไทยร่วมเอเชียนเกมส์-ซีเกมส์

21 ส.ค. – โอลิมปิกไทย ยืนยัน โอซีเอ ไม่แบนไทยส่งแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2026 และซีเกมส์ 2025 หลังจากถอนสิทธิไม่ให้ไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนอินดอร์ และมาเชียลอาร์ตเกมส์


คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์เรื่อง สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย หรือ โอซีเอ เพิกถอนสิทธิประเทศไทยในการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์ และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 พฤศจิกายนนี้

สาระสำคัญระบุว่าขณะนี้เหลือระยะเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือน คณะกรรมการจัดการแข่งขันยังไม่สามารถดําเนินการตามเงื่อนไขที่ OCA กําหนดได้ 9 ส่วน ทั้ง เรื่องงบประมาณที่มีหลักฐานว่ามีแล้ว, สัญญาการจ่ายเงินในการเช่าสถานที่แข่งขันต่างๆ, เรื่องการวางมัดจําโรงแรมที่พัก, การจ่ายเงินจัดจ้างระบบขนส่งต่างๆ, การดําเนินการด้านสารต้องห้าม, การจัดจ้างอาสาสมัคร, การจัดจ้างบริษัทที่รับผิดชอบระบบ IT, การจัดซื้ออุปกรณ์, การปรับปรุงสนามแข่งขัน


อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงกําหนดในวันที่ 19 สิงหาคม 2567 คณะกรรมการจัดการแข่งขันก็ไม่ได้มีการประชุม และไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ แสดงให้กับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย ได้รับทราบ จึงเป็นเหตุให้ถูกยกเลิกสิทธิดังกล่าว

อย่างไรก็ตามส่วนผลกระทบในด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักกีฬาทีมชาติไทย ในการส่งเข้าร่วมมหกรรมกีฬาอื่นๆ เช่น เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ปี 2026 หรือการเป็นเจ้าภาพของไทยในการจัดแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 โอซีเอ แจ้งว่า เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบกับการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ส่งคือคณะกรรมการโอลิมปิกแต่ละชาติ สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ ส่วนการเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ เป็นอํานาจของสหพันธ์มนตรีกีฬาซีเกมส์ ไม่เกี่ยวข้องกับเกมส์ของโอซีเอ

ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อม ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าวชี้แจ้ง เรื่องที่ประเทศไทยถูกตัดสิทธิในครั้งนี้ว่า เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 เลื่อนมาตั้งแต่ปี 2021 และได้เบิกงบประมาณไปแล้ว 800-900 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายเก็บตัวฝึกซ้อม เตรียมจัดการแข่งขัน รวมทั้ง ไอทีระบบสารสนเทศ และได้ชี้แจ้งเรื่องการปรับลด 14 ชนิดกีฬา จาก 38 ชนิดกีฬา โดยเป็นการพิจารณาจาก โอซีเอ เป็นคนตัดไม่ใช่กระทรวงเป็นคนตัด ซึ่งนักกีฬาตอนแรกยืนยันจะมากว่า 14,000 คน แต่สุดท้ายมีนักกีฬามาร่วมเพียง 1,983 คน จาก 24 ชนิดกีฬา ซึ่งเราได้ทำหนังสือยืนยันเป็นเจ้าภาพกับโอซีเอ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา และยืนยันจัดแข่งขันมาตลอด ยอมรับเสียดายที่ไม่ได้เป็นเจ้าภาพ


นอกจากนี้รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากนี้จะประชุมหารือกันเร็วๆ นี้ ในการช่วยเหลือต้องดูแลนักกีฬาที่ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมมาตลอดระยะ 4 ปี ทั้ง 38 ชนิดกีฬาให้ดีที่สุด .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง