เช็กด่วน! ตั้งด่านคัดกรอง 14 จุด สกัดโควิดเข้ม คัดกรองผู้เดินทางเข้า กทม.



กทม.2 ม.ค. 64 –  กรุงเทพมหานคร ตั้งด่านคัดกรองโควิด-19 บนถนน รวม 14 จุด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดย นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิต 19) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีแนวโน้มสูงขึ้น  จึงมีหนังสือด่วนที่สุดกำชับให้ สำนักงานเขตที่เกี่ยวข้องจัดตั้งด่านคัดกรองการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อควบคุมและตรวจคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น 14 จุด ใน 11 เขต ดังนี้ 

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในกรุงเทพมหานครมีแนวโน้มการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จึงให้สำนักงานเขตที่เกี่ยวข้องตั้งด่านคัดกรองรวม 14 จุด ดังนี้


สำนักงานเขตหลักสี่ 

1.บริเวณหน้าห้างบิ๊กซี ถนนแจ้งวัฒนะฝั่งขาเข้า


สำนักงานเขตดอนเมือง


2.บริเวณคลังสินค้าประตู 7 ถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาเข้า

3.บริเวณทางยกระดับโทลล์เวย์ ด่านดอนเมือง


สำนักงานเขตหนองจอก 

4.บริเวณแยกใต้ด่วนมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ฝั่งขาเข้า


สำนักงานเขตบางนา

5.บริเวณหน้าปั๊มเอสโซ่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแบริ่ง ถนนสุขุมวิท

6.บริเวณหนาอาคารเนชั่น ถนนบางนา-ตราดฝั่งขาเข้า

สำนักงานเขตพระโขนง

7.บริเวณทางยกระดับบูรพาวิถี ด่านบางจากฝั่งขาเข้า


สำนักงานเขตตลิ่งชัน

8.บริเวณหน้าศูนย์โตโยต้า ถนนราชพฤกษ์


สำนักงานเขตทวีวัฒนา

9.บริเวณใต้สะพานต่างระดับข้ามแยกถนนพุทธมณฑลสาย 3 ถนนบรมราชชนนีฝั่งขาเข้า


สำนักงานเขตราษภูร์บูรณะ

10.บริเวณใต้สะพานภูมิพล ถนนสุขสวัสดิ์


สำนักงานเขตบางขุนเทียน

11.บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ป.ต.ท.สาขาพระราม 6 ชอย 92 ถนนพระราม 2

12.บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ถนนเลียบคลองพิทยาลงกรณ์


สำนักงานเขตหนองแขม

13.บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเอเซีย ถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้า


สำนักงานเขตบางบอน

14.บริเวณหน้าโรงเรียนศึกษานารีวิทยา ถนนเอกชัย

ทั้งนี้ การคัดกรองบุคคลสำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลของสำนักอนามัยในการติดตามกรณีพบผู้ติดเชื้อ ให้ดำเนินการโดยใช้ระบบ OR-Code เพื่อลดโอกาสในการสัมผัสเชื้ออันเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ โดยให้ถือปฏิบัติตามแนวทางมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย