รัฐบาลเผยผลงานการปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

สำนักข่าวไทย ๘ ต.ค.- รัฐบาลเผยรายงานผลการดำเนินงาน ๑ ปี ในการปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่องของรัฐบาล ตัวอย่างผลงานสำคัญของกระทรวงต่างๆ ดังนี้

สำนักนายกรัฐมนตรี/สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  ติดตามการดำเนินงานของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ติดตามประเมินผล การถ่ายโอนภารกิจ การดูแลผู้สูงอายุให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงกลาโหม   โครงการพัฒนาระบบการให้บริการ โรงพยาบาลของเหล่าทัพ/ โครงการข้าราชการพลเรือนกลาโหม


กระทรวงการคลัง ๑) การใหความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  บรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตั้งแต่เดือน ต.ค. ๒๕๖๒ – ก.ย. ๒๕๖๓ ช่วยค่าไฟฟ้าไม่เกิน ๒๓๐ บาท/คน/เดือน และค่าน้ำประปาไม่เกิน ๑๐๐ บาท/คน/เดือน   ชําระราค่าสินค้าอุปโภคและบริโภคผ่านเครื่อง EDC ซึ่งระบบจะแยกยอดภาษีมูลคาเพิ่มรอยละ ๗ ออกจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และจะนําเงินร้อยละ ๕ มาจ่ายชดเชยผ่านช่อง e-Money โดยไม่เกินจํานวน ๕๐๐ บาท/คน/เดือน  เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ผ่านกองทุนผูสูงอายุ โดยมีแหล่งเงินเข้ากองทุน คือ ภาษีสุราและยาสูบ ในอัตราร้อยละ ๒ ของภาษีที่เก็บ สำหรับโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผูสูงอายุ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ม.ค. ๒๕๖๑ – ๓๐ มิ.ย. ๒๕๖๓ มียอดเงินจากภาษีสุราและยาสูบเข้าบัญชี กองทุนฯ ทั้งสิ้น ๙,๔๐๑ ล้านบาท โดยได้จ่ายเงินช่วยเหลือแล้วประมาณ ๙,๒๕๕ ล้านบาท จำนวนกว่า ๔.๖๘ ล้านคน สำหรับโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มียอดบริจาคเข้ากองทุนฯ แล้ว ๑๐.๓ ล้านบาท  ๒) รางพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายบําเหน็จบํานาญแห่งชาติ พ.ศ. ….(ราง พ.ร.บ.คนบ.) และ ๓) ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบําเหน็จบํานาญแหงชาติ พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ. กบช.)   อยู่ระหว่างดําเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ ๒๙ ก.ค. – ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ก่อนนําเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

กระทรวงมหาดไทย ๑) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๘๒,๑๙๗ คน   การพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีผู้เข้าร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับฝึกอาชีพในด้านต่างๆ เสร็จสิ้นโครงการ จำนวน ๓,๔๒๗,๓๓๑ คน ๒) เบี้ยยังชีพ “ผู้สูงอายุ” “คนพิการ” ผู้มีรายได้น้อย ขยายสิทธิกลุ่ม “มารดาตั้งครรภ์” “เด็กแรกเกิด” “เด็กวัยเรียน”  กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนรัฐบาลเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน ๘๙๒,๑๑๗ ราย งบประมาณ ๖,๙๙๒,๘๖๓,๒๐๐- บาท และได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนรัฐบาลสนับสนุนสงเคราะห์เบี้ยความพิการ จำนวนผู้พิการ ๙๗,๕๑๐ ราย งบประมาณ ๙๓๖,๐๙๖,๐๐๐บาท ๓) ลดความเหลื่อมล้ำของ “คุณภาพการบริการสุขภาพ” ทั้งระบบ พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน   (อสม.) เพื่อนำไปสู่การให้บริการการรักษาพยาบาลที่ดีแก่พี่น้องประชาชน ให้เบิกจ่ายเป็นรายเดือนในอัตรา ๑,๐๐๐ บาท ต่อคน                                                                                            


กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปรับเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการ ตั้งแต่ ๑ ต.ค. ๖๓ เป็นต้นไป รวมถึงเด็กพิการทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ได้รับการปรับเพิ่มเบี้ยความพิการจาก ๘๐๐ บาท เป็น ๑,๐๐๐ บาท

กระทรวงพาณิชย์  ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ลดภาระค่าครองชีพ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการให้นำสินค้ามาจำหน่ายในร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น มีร้านค้าให้บริการผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน ๙๑,๔๙๙ ร้านค้า เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๖๐ – ๓๑ พฤษภาคม ๖๓ รวมทั้งสิ้น ๑๑๓,๐๑๖ ล้านบาท

กระทรวงคมนาคม การพัฒนาระบบตั๋วร่วม แบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ศรีรัช และอุดรรัถยาในวันหยุดราชการประจำปี รวม ๑๙ วัน ผลักดันการดำเนินมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุด ๒๐ บาท ในทุกช่วงเวลา (เดิมอัตราสูงสุด ๔๒ บาท) โดยมีอัตราแรกเข้า ๑๔ บาท ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงร้อยละ ๕๒.๓๘ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ และกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สูงสุดที่ ๒๕ บาท นอกช่วงเวลาเร่งด่วน (จากเดิม ๔๕ บาท) โดยมีอัตราแรกเข้า ๑๕ บาท ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงร้อยละ ๔๔.๔๕ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนาคม – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ เพิ่มการขับขี่รถยนต์คล่องตัวและปลอดภัย สามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด ๑๒๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ ๔ ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน ๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน ๑๒๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด บูรณาการการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองร่วมกับทางรถไฟ


กระทรวงแรงงาน ๑. การให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ ได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้กฎหมายประกันสังคม จำนวน ๑๖.๓๒ ล้านคน   (ณ ๓๑ กรกฎาคม ๖๓) เป็นเงินทั้งสิ้น ๙๖,๙๒๓.๘๖ ล้านบาท  ๒. สำนักงานประกันสังคม ดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่นายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19  ๑) ลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างจากเดิมร้อยละ ๕  เหลือร้อยละ  ๔   ๒) ผู้ประกันตน ตามมาตรา ๓๓ จากเดิมร้อยละ ๕  เหลือร้อยละ๑  ๓) ผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ จากเดิมร้อยละ ๙ เหลือร้อยละ ๑.๘ เป็นเงิน ๘๖ บาทต่อเดือน ขยายลดอัตราเงินสมทบ และนายจ้าง ผู้ประกันตน มาตรา ๓๓  คงเหลือฝ่ายละ ร้อยละ ๒  และผู้ประกันตนมาตรา ๓๙  คงเหลือเป็นเงิน ๙๖ บาทต่อเดือน ๓ เดือน (ส.ค. – ต.ค. ๖๓) ขยายเวลานำส่งเงินสมทบ ออกไป ๓ เดือน  ๓. โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงิน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ให้แก่ สถานประกอบการ โดยสำนักงานประกันสังคมจะสนับสนุนเงินฝากเพื่อให้ธนาคาร นำไปปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ๓% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ ดอกเบี้ยคงที่ ๕% ต่อปี กรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยสถานประกอบการที่จะยื่นกู้ได้ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคมมาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๓ เดือน และต้องรักษาสถานภาพการจ้างงานผู้ประกันตน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ เป็นระยะเวลา ๓ ปี สามารถ ยื่นกู้ได้ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ 

กระทรวงสาธารณสุข การลดความเหลื่อมล้ำของคุณภาพการบริการสุขภาพ ๑ เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP)  ๒ การเพิ่มการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลโดยการจัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายบริการปฐมภูมิ โดยมีการจัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายแล้ว จำนวน 1,112 แห่ง ทั่วทุกภาคของประเทศ ครอบคลุมการดูแลประชาชนกว่า 12 ล้านคน ๓ สร้างหลักประกันสุขภาพให้แก่ประชาชนคนไทย  สนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)  ศอ บต.  “บริการ ณ จุดเดียว” เช่น ศูนย์ประสานงานและบริการการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ จชต., ศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ จชต. และ ศูนย์ประสานงานด้านเด็กและสตรีใน จชต.  เปิดให้บริการที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]