กทม. 11 ส.ค. – ผู้ว่าฯ กทม.สั่งเตรียมพร้อมรับมือ “น้ำเหนือ” เร่งระบายน้ำคลองย่อย จับตาปริมาณน้ำในเขื่อน น้ำทะเลหนุนสูง คาดพายุมู่หลานไม่กระทบ กทม.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่ากรุงเทพมหานครเฝ้าระวังระหว่างวันที่ 11- 12 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุด แต่จากที่ได้รับรายงานเมื่อช่วงเช้าได้ที่ปากคลองตลาดอยู่ที่ 1.75 เมตร ไม่ได้วิกฤติ ซึ่งระดับที่วิกฤติอยู่ที่ 2.8 เมตร ไม่ได้น่ากังวลมาก ส่วนที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนผลกระทบจากพายุมู่หลาน เมื่อดูจากพยากรณ์อากาศพบว่าไม่มีผลกระทบต่อกรุงเทพมหานครมากนัก และยังมีช่วงที่สามารถรับมือได้ จึงได้เร่งระบายน้ำ เมื่อช่วงเช้าได้ไปตรวจดูที่คลองแสนแสบ แม้ว่าฝนไม่ตก แต่ก็ระบายน้ำออกคลองย่อย เพื่อพร่องน้ำ
นายชัชชาติ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลตอนนี้ต้องระวัง คือ น้ำจากทางภาคเหนือ เนื่องจากมีฝนตกทางภาคเหนือมาก และเมื่อดูระดับน้ำในเขื่อนเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม น้ำในเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) มีอยู่ประมาณ 44% ซึ่งปีที่แล้วอยู่ที่ 34% และปีที่น้ำท่วมหนักเมื่อปี 2554 ประมาณ 73% จะเห็นว่าน้ำในเขื่อนทางภาคเหนือยังไม่มาก แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เพราะเมื่อมีมรสุมเข้ามาทางภาคเหนือสุดท้ายแล้วน้ำที่อยู่ในเขื่อนก็จะปล่อยลงมา ต้องประสานงานกับหน่วยงานอื่นอย่างต่อเนื่องและได้สั่งให้สำนักระบายน้ำดูระดับน้ำในเขื่อนและประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจจะมีการลงพื้นที่ ไปเยี่ยมหน่วยงานเกี่ยวกับเรื่องน้ำในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อจะดูภาพรวมว่าจะรับมืออย่างไร เพราะน้ำจากกรุงเทพฯ มาจาก 4 ส่วน คือ น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน น้ำฝนและน้ำท่า ในส่วนของน้ำฝนกรุงเทพมหานครดูเรื่องการระบายน้ำอยู่แล้ว ส่วนน้ำเหนือก็มีการดูแลเรื่องเขื่อน ต้องเฝ้าระวังน้ำเหนือที่จะออกมายังทุ่งรังสิต ทุ่งเจ้าเจ็ด ทางด้านฝั่งตะวันตก และต้องดูภาพรวมด้วย ซึ่งขณะนี้รวมน้ำในกรุงเทพฯ ยังไม่มีปัญหา แต่ต้องคอยเฝ้าระวังน้ำในเขื่อนว่าจะมีการปล่อยมามากน้อยขนาดไหน นอกจากพายุมู่หลาน ในอนาคตอาจมีพายุตามมาอีกหลายลูก ซึ่งจะต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมประมาทไม่ได้ เพราะภูมิอากาศเปลี่ยนมาก.-สำนักข่าวไทย