กทม. เตรียมสร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมเจ้าพระยา 4 จุดฟันหลอ

กรุงเทพฯ 27 ก.ค. – กทม. เตรียมสร้างแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมเจ้าพระยา 4 จุดฟันหลอ คาดเริ่มดำเนินการได้ ส.ค.นี้ ขณะที่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ย้ำสำนักระบายน้ำอย่าประมาท ต้องมีคนเฝ้าระวังแนวเขื่อนกันน้ำแต่ละจุดให้พร้อม


(27 ก.ค. 65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตรวจแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาโดยลงเรือจากท่าเรือสี่พระยา เขตบางรัก ไปยังสะพานพระราม 3 โดยสำนักการระบายน้ำให้ข้อมูลการดำเนินการ

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีแนวเขื่อนกันน้ำ 88 กิโลเมตร เป็นของเอกชน 8 จุด ตรงท่าเรือสี่พระยาก็เป็นจุดหนึ่งที่น้ำท่วมเวลาน้ำขึ้นเนื่องจากยังเป็นจุดฟันหลอเพราะเป็นทางเข้าท่าเรือมีคนเดินเข้าออก สำหรับแนวฟันหลอตอนนี้มี 23 จุด อยู่ฝั่งพระนคร 14 จุด ฝั่งธนบุรี 9 จุด บางจุดฟันหลออยู่ตรงบ้านพักอาศัยปัญหาเล็กๆ น้อยๆ อาจทำความเสียหายได้เยอะเพราะเป็นจุดที่น้ำทะลักเข้าไปได้ จึงมอบหมายให้สำนักระบายน้ำรีบวางแผน อย่าประมาท ต้องมีคนเฝ้าระวังแต่ละจุดพร้อม เลยดึกดื่นก็ต้องมา ปัจจุบันยังมีจุดฟันหลอหลายจุดต้องระวัง ประมาทไม่ได้ ต้องเตรียมพร้อมน้ำอาจทะลักเข้ามาได้ น้ำขึ้นไม่สูงก็จริง แต่น้ำสามารถทะลักเข้ามาได้ ทุกจุดต้องมีคนรับผิดชอบ ช่วงน้ำทะเลหนุน น้ำขึ้นน้ำลง น้ำเหนือ ไม่ได้กังวลมากแต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ประมาทไม่ได้ พื้นที่เอกชนด้วย ทุกคนต้องช่วยกัน เห็นแก่ส่วนรวม นอกจากนี้จะให้สำนักสิ่งแวดล้อมรีบจัดเก็บผักตบชวาโดยเร็วเนื่องจากมีอยู่ค่อนข้างเยอะมากอาจมีปัญหากับการสัญจรของเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาได้


รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเตรียมความพร้อมพร่องน้ำเรียบร้อย ที่มีข่าวว่ากรมชลประทานปล่อยน้ำเพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ 1,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ไม่ต้องกังวล ยังอยู่ในความสามารถที่กรุงเทพมหานครรับได้ ที่ 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

สำหรับวันนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ดูงานก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาหรือจุดฟันหลอ 5 จุด ดังนี้ 1. บริเวณองค์การสะพานปลากรุงเทพพื้นที่เขตสาทร ยาวประมาณ 150 เมตร 2. บริเวณบริษัท เจแฟค ซอยเจริญกรุง 80 เขตบางคอแหลม ยาวประมาณ 50 เมตร 3. บริเวณซอยเจริญกรุง 32 เขตบางรัก ยาวประมาณ 25 เมตร 4. บริเวณสุสานโปรเตสแตนต์ ซอยเจริญกรุง 72/5 เขตบางคอแหลม ยาวประมาณ 85 เมตร ซึ่งทั้ง 4 จุด ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมปี 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้าง คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือน ส.ค. 65 ส่วนจุดที่ 5. บริเวณเจริญกรุง 30 อยู่ระหว่างการพิจารณาขอจัดสรรงบประมาณปี 2566

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำ ได้เตรียมการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากน้ำฝน น้ำหลาก และน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งมีศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยมีการประชุมหารือเพื่อประสานข้อมูลร่วมกับกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือในการขับเคลื่อนการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และเป็นแผนปฏิบัติการเตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อลดผลกระทบและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชน พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามจุดเสี่ยงน้ำท่วม จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง


นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบความแข็งแรงของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และคลองพระโขนง ทั้งนี้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีแนวป้องกันน้ำท่วมความยาวประมาณ 87.93 กม. เป็นแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรของกรุงเทพมหานครความยาวประมาณ 79.63 กม. ซึ่งมีระดับความสูงของคันกั้นน้ำอยู่ที่ระดับ+2.80 ม.รทก.ถึง+3.50 ม.รทก. (เมตร.ระดับทะเลปานกลาง) สามารถรองรับปริมาณน้ำเหนือหลากที่ไหลผ่านกรุงเทพมหานครได้ที่ปริมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนของแนวป้องกันตนเองของหน่วยงานราชการอื่นและของเอกชนความยาวประมาณ 8.30 กม. ได้ดำเนินการเรียงกระสอบทรายเพื่อเสริมความสูงของแนวคันกั้นน้ำ พร้อมทั้งได้ประสานขอความร่วมมือไปยังกรมเจ้าท่า ตรวจสอบและกำชับใช้มาตรการเรื่องการเดินเรือ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบบ้านเรือนของประชาชน ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์น้ำ ได้ที่ http://dds.bangkok.go.th/ ,www.prbangkok.com ,Facebook:@BKK.BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ Twitter:@BKK_BEST, สำนักงานประชาสัมพันธ์ รวมถึงการแจ้งจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมบนถนนสายหลักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โทร. 1555 หรือศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำ โทร.0 2248 5115 หรือแจ้งทางระบบทราฟี่ฟองดูว์ (Traffy Fondue)

สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักเทศกิจ สำนักการโยธา และสำนักงานเขต ได้จัดเตรียมยานพาหนะ เพื่อให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ รวมถึงติดขัดการเดินทางอยู่บนท้องถนนเมื่อเกิดฝนตกหนัก โดยเฉพาะในถนนเส้นหลักและซอยย่อยต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการเดินทางและสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน ในส่วนของสำนักงานเขตที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดำเนินการ ดังนี้ เขตพระนคร มีพื้นที่จุดเสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง ที่ต้องดำเนินการเสริมกระสอบทราย จำนวน 3 จุด คือ ท่าเรือเทเวศร์ ชุมชนท่าวัง และชุมชนท่าเตียน ซึ่งได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที เขตดุสิต มีพื้นที่จุดเฝ้าระวัง จำนวน 5 จุด คือ ชุมชนวัดเทวราชกุญชร ชุมชนมิตตคาม บ้านญวน (สามเสน 13) ชุมชนราชผาทับทิมร่วมใจ ชุมชนสีคาม และท่าเขียวไข่กา โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงดังกล่าวเป็นประจำ

เขตสัมพันธวงศ์ อยู่ระหว่างดำเนินการสร้างแนวเขื่อนแบบถาวรบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในส่วนที่เป็นแนวฟันหลอ ได้จัดเรียงกระสอบทรายเป็นแนวกันน้ำ หรือเป็นแนวให้น้ำไหลเข้าบ่อพักระบายน้ำ ส่วนท่าเรือในพื้นที่ ได้แก่ ท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือเผยอิง และท่าเรือสี่พระยา ได้จัดทำทางเดินสำหรับทางขึ้นลงท่าเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เขตบางคอแหลม เตรียมความพร้อมของหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (BEST) พร้อมช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมหรือน้ำหนุนจากแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำที่ยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร โดยเสริมคันกั้นน้ำชั่วคราว เขตยานนาวา ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณชุมชนโรงสี (พระรามที่ 3 ซอย 64) หากระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง น้ำไหลเข้าท่วมภายในชุมชน จะเดินเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายออกจากพื้นที่ เขตคลองสาน เตรียมพร้อมเครื่องสูบน้ำและเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องสูบน้ำ ซึ่งมีจุดเสี่ยงน้ำท่วม 2 จุด ได้แก่ จุดเสี่ยงน้ำท่วมโรงเกลือแหลมทอง และท่าเรือท่าดินแดง รวมถึงเฝ้าระวังชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ จำนวน 2 จุด คือ จุดที่ 1 ท้ายซอยเจริญนคร 29/2 จุดที่ 2 หลังตึกขาว (ท้ายซอยสมเด็จเจ้าพระยา 5) เขตบางกอกน้อย จัดเตรียมกระสอบทราย หากกรณีมีเหตุฉุกเฉินเขื่อนมีรอยรั่ว พร้อมทั้งประสานกองทัพเรือ เพื่อเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]