ผู้บริหาร บมจ.เคหะสุขประชา แจงปมถูกพาดพิงในอภิปรายไม่ไว้วางใจ

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- ผู้บริหาร บมจ.เคหะสุขประชา แจงกรณีถูกพาดพิงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยัน “เซ็มโก้” มีสภาพคล่องทางการเงินและมีกำไร สามารถรับงานได้ ขณะที่ “โครงการเคหะสุขประชา” เป็นธุรกิจเพื่อสังคม สามารถบริหารให้คืนทุนได้ภายใน 10 ปี ไม่ต้องใช้เวลาถึง 200 ปี ตามที่ถูกกล่าวอ้าง


นายพิษณุพร อุทกภาชน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ชี้แจงถึงกรณีถูกพาดพิงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นที่ว่า บริษัทจัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด หรือ CEMCO (เซ็มโก้) ไม่มีเงินแล้วมารับงานของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้อย่างไร

กรณีนี้นายพิษณุพร ชี้แจงว่า การกล่าวหาในประเด็นดังกล่าวอาจเกิดจากการเข้าใจข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และผิดช่วงเวลา ทั้งนี้ บริษัทเซ็มโก้ ก่อตั้งเมื่อปี 2538 เป็นบริษัทในเครือการเคหะแห่งชาติ ร่วมกับบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮดิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร, นิติบุคคลอาคารชุด, นิติบุคคลอาคารเช่า พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ และดำเนินการด้านอื่นๆ ตามภารกิจที่การเคหะแห่งชาติมอบหมาย


ในยุคก่อนที่ตนเข้ามาบริหารประมาณปี 2558 สตง.ตรวจพบปัญหาความผิดปกติเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนในบริษัทเซ็มโก้ มีการตั้งญาติของอดีตผู้บริหาร กคช.มาเป็นผู้จัดการเซ็มโก้ ที่นำทรัพย์สินบางส่วนของ กคช.ไปให้สมาคมเช่า แต่รายได้กลับไม่เข้า กคช. ต้องเปลี่ยนแปลงกับระบบนายทุนผูกขาดที่หากินกับการเคหะแห่งชาติมายาวนาน คณะกรรมการฯ ออกระเบียบและข้อบังคับการจัดการทรัพย์สินให้ชัดเจน มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและส่งรายงานไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึง 3 เรื่อง พร้อมเร่งคืนเงินประกันซึ่งเก็บไว้ประมาณเกือบ 10 ปี สูงถึง 1,400 ล้านบาท ที่บริษัททั้งหลายมาวางค้ำประกันไว้ โดยผู้บริหาร กคช.นำเงินคืนให้บริษัททั้งหลายภายใน 3 เดือน 90% ของงบ พร้อมปรับภารกิจของธุรกิจเซ็มโก้ เพื่อให้สถานะทางการเงินเข้มแข็งตามข้อเสนอของ สตง. รวมถึงให้ปรับปรุงสถานะทางการเงินให้ฟื้นตัวจากขาดทุนมาเป็นกำไร และตั้งกรรมการปิดบัญชีเอื้ออาทร ซึ่งเป็นภาระให้รัฐบาลมานานมาก

นายพิษณุพร ย้ำว่าเมื่อรัฐมนตรีและคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหาร โดยกู้เงินมาแก้ปัญหาเดิม และเร่งสร้างกำไร ก็ทำให้เซ็มโก้เริ่มกลับมามีกำไรตั้งแต่ปี 62 จำนวน 100,000 บาท/ปี 63 จำนวน 4 ล้านบาท/ กระทั่งปี 64 สามารถพลิกฟื้นบริหารองค์กรให้สามารถกลับมารับงานได้ และมีกำไรสะสมอีกกว่า 2.4 ล้านบาท โดยใช้เวลาฟื้นฟูกิจการได้ภายใน 4 ปี จากที่เคยมีพนักงาน 200 คนในปี 59 ตอนนี้มีเพิ่มเป็น 1,300 คน และจากที่เคยมีรายได้ ปีละ 70 ล้านบาท ตอนนี้เพิ่มเป็นกว่า 800 ล้านบาท พร้อมย้ำบริษัทเซ็มโก้ ไม่เคยรับเงินวางค้ำประกัน 15% ไม่เคยใช้สิทธิ์นี้ เพราะต้องใช้หลักประกันเพิ่ม

ส่วนอีกประเด็นที่ถูกพาดพิงว่าโครงการเคหะสุขประชา ต้องใช้เวลา 200 ปี กว่าจะคืนทุน ก็ไม่ใช่ความจริง เพราะหากเป็นเช่นนั้นไม่มีทางที่ ครม.จะอนุมัติอย่างแน่นอน โดย บมจ.เคหะสุขประชา จัดตั้งตามที่การเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติจาก ครม.เมื่อ 9 พ.ย.2564 เพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีที่อยู่อาศัยและมีอาชีพ โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49% และผนึกกำลังกับพันธมิตรถือหุ้น 51% โดยมีเป้าหมายสร้างบ้าน 100,000 หน่วย ภายใน 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2564- 2568 โดยสร้างปีละ 20,000 หน่วย รวมทั้งช่วยสร้างอาชีพ และรายได้ให้ผู้อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ โดยจะมี 6 อาชีพในโครงการ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก – ส่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน


โดยมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท  และได้มีการแต่งตั้งบอร์ดบริหาร ซึ่งมีการตรวจสอบเป็นอย่างดี และกรรมการแต่ละท่านก็ไม่ได้อยู่ในภาคอสังหาฯ จึงไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นการระดมทุนเองจากเอกชนในตลาด หาเม็ดเงินมาทำโครงการให้ กคช. โดยไม่ได้ใช้เงินจากรัฐบาล แต่ทำงานเพื่อรัฐ และที่ไม่มีภาคเอกชนเข้ามาทำงานในครั้งนี้ เพราะเรากำหนดเรื่องค่าเช่าบ้านไว้ ที่จะสามารถอยู่ได้ต่อปี ไม่มากแค่ 5% ถ้าจะให้สูงกว่านี้ 13-15% เหมือนตลาดอสังหาฯ ทั่วไป ชาวบ้านก็อยู่ไม่ได้ และคิดว่าเอกชนรายอื่นก็จะไม่สามารถทำได้ เลยต้องให้บริษัทลูกทำงาน คือ บมจ.เคหะสุขประชา โดยดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และอนาคตมีเป้าหมายที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว เพราะมีกระบวนการตรวจสอบ และโปร่งใสอย่างชัดเจน และการเข้าตลาดไม่ใช่เข้าไปเก็งกำไร แต่มันคือการระดมทุนเม็ดเงินมาทำงานเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้คนยากไร้ และพร้อมกับอาชีพให้ด้วย
 
สำหรับโครงการนี้เป็นธุรกิจเพื่อสังคม สามารถบริหารให้คืนทุนได้ภายใน 10 ปี โดยมีรายได้มาจากค่าเช่าและค่าบริหารจัดการธุรกิจอื่นๆ ภายในโครงการ และที่ถูกพาดพิงว่าต้องใช้เวลา 200 ปี กว่าจะคืนทุนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะสภาพัฒน์คงไม่อนุมัติโครงการแบบนี้ได้ แต่สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ วิธีการทำงาน วิธีคิด จากการทำกำไรในเชิงพาณิชย์ มาเป็นการคืนกำไรแก่สังคม เปลี่ยนการขายบ้านมาให้คนรายได้น้อยเช่าราคา 999-3,500 บาท แล้วแต่ขนาด ถูกกว่าตลาด 40% ประชาชนอยู่ได้ตลอดชีวิต และไม่ใช่แค่การสร้างบ้าน แต่เป็นการสร้างบ้านพร้อมส่งเสริมอาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่การเคหะแห่งชาติไม่เคยทำมาก่อน แต่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำและทำอย่างจริงจัง เพื่อแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า จึงได้จัดตั้ง บมจ.เคหะสุขประชา มาเร่งดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]