ผู้บริหาร บมจ.เคหะสุขประชา แจงปมถูกพาดพิงในอภิปรายไม่ไว้วางใจ

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- ผู้บริหาร บมจ.เคหะสุขประชา แจงกรณีถูกพาดพิงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยัน “เซ็มโก้” มีสภาพคล่องทางการเงินและมีกำไร สามารถรับงานได้ ขณะที่ “โครงการเคหะสุขประชา” เป็นธุรกิจเพื่อสังคม สามารถบริหารให้คืนทุนได้ภายใน 10 ปี ไม่ต้องใช้เวลาถึง 200 ปี ตามที่ถูกกล่าวอ้าง


นายพิษณุพร อุทกภาชน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ชี้แจงถึงกรณีถูกพาดพิงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นที่ว่า บริษัทจัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด หรือ CEMCO (เซ็มโก้) ไม่มีเงินแล้วมารับงานของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ได้อย่างไร

กรณีนี้นายพิษณุพร ชี้แจงว่า การกล่าวหาในประเด็นดังกล่าวอาจเกิดจากการเข้าใจข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และผิดช่วงเวลา ทั้งนี้ บริษัทเซ็มโก้ ก่อตั้งเมื่อปี 2538 เป็นบริษัทในเครือการเคหะแห่งชาติ ร่วมกับบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮดิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร, นิติบุคคลอาคารชุด, นิติบุคคลอาคารเช่า พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและพัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ และดำเนินการด้านอื่นๆ ตามภารกิจที่การเคหะแห่งชาติมอบหมาย


ในยุคก่อนที่ตนเข้ามาบริหารประมาณปี 2558 สตง.ตรวจพบปัญหาความผิดปกติเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนในบริษัทเซ็มโก้ มีการตั้งญาติของอดีตผู้บริหาร กคช.มาเป็นผู้จัดการเซ็มโก้ ที่นำทรัพย์สินบางส่วนของ กคช.ไปให้สมาคมเช่า แต่รายได้กลับไม่เข้า กคช. ต้องเปลี่ยนแปลงกับระบบนายทุนผูกขาดที่หากินกับการเคหะแห่งชาติมายาวนาน คณะกรรมการฯ ออกระเบียบและข้อบังคับการจัดการทรัพย์สินให้ชัดเจน มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและส่งรายงานไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถึง 3 เรื่อง พร้อมเร่งคืนเงินประกันซึ่งเก็บไว้ประมาณเกือบ 10 ปี สูงถึง 1,400 ล้านบาท ที่บริษัททั้งหลายมาวางค้ำประกันไว้ โดยผู้บริหาร กคช.นำเงินคืนให้บริษัททั้งหลายภายใน 3 เดือน 90% ของงบ พร้อมปรับภารกิจของธุรกิจเซ็มโก้ เพื่อให้สถานะทางการเงินเข้มแข็งตามข้อเสนอของ สตง. รวมถึงให้ปรับปรุงสถานะทางการเงินให้ฟื้นตัวจากขาดทุนมาเป็นกำไร และตั้งกรรมการปิดบัญชีเอื้ออาทร ซึ่งเป็นภาระให้รัฐบาลมานานมาก

นายพิษณุพร ย้ำว่าเมื่อรัฐมนตรีและคณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริหาร โดยกู้เงินมาแก้ปัญหาเดิม และเร่งสร้างกำไร ก็ทำให้เซ็มโก้เริ่มกลับมามีกำไรตั้งแต่ปี 62 จำนวน 100,000 บาท/ปี 63 จำนวน 4 ล้านบาท/ กระทั่งปี 64 สามารถพลิกฟื้นบริหารองค์กรให้สามารถกลับมารับงานได้ และมีกำไรสะสมอีกกว่า 2.4 ล้านบาท โดยใช้เวลาฟื้นฟูกิจการได้ภายใน 4 ปี จากที่เคยมีพนักงาน 200 คนในปี 59 ตอนนี้มีเพิ่มเป็น 1,300 คน และจากที่เคยมีรายได้ ปีละ 70 ล้านบาท ตอนนี้เพิ่มเป็นกว่า 800 ล้านบาท พร้อมย้ำบริษัทเซ็มโก้ ไม่เคยรับเงินวางค้ำประกัน 15% ไม่เคยใช้สิทธิ์นี้ เพราะต้องใช้หลักประกันเพิ่ม

ส่วนอีกประเด็นที่ถูกพาดพิงว่าโครงการเคหะสุขประชา ต้องใช้เวลา 200 ปี กว่าจะคืนทุน ก็ไม่ใช่ความจริง เพราะหากเป็นเช่นนั้นไม่มีทางที่ ครม.จะอนุมัติอย่างแน่นอน โดย บมจ.เคหะสุขประชา จัดตั้งตามที่การเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติจาก ครม.เมื่อ 9 พ.ย.2564 เพื่อช่วยให้ชาวบ้านมีที่อยู่อาศัยและมีอาชีพ โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49% และผนึกกำลังกับพันธมิตรถือหุ้น 51% โดยมีเป้าหมายสร้างบ้าน 100,000 หน่วย ภายใน 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2564- 2568 โดยสร้างปีละ 20,000 หน่วย รวมทั้งช่วยสร้างอาชีพ และรายได้ให้ผู้อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ โดยจะมี 6 อาชีพในโครงการ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก – ส่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน


โดยมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท  และได้มีการแต่งตั้งบอร์ดบริหาร ซึ่งมีการตรวจสอบเป็นอย่างดี และกรรมการแต่ละท่านก็ไม่ได้อยู่ในภาคอสังหาฯ จึงไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นการระดมทุนเองจากเอกชนในตลาด หาเม็ดเงินมาทำโครงการให้ กคช. โดยไม่ได้ใช้เงินจากรัฐบาล แต่ทำงานเพื่อรัฐ และที่ไม่มีภาคเอกชนเข้ามาทำงานในครั้งนี้ เพราะเรากำหนดเรื่องค่าเช่าบ้านไว้ ที่จะสามารถอยู่ได้ต่อปี ไม่มากแค่ 5% ถ้าจะให้สูงกว่านี้ 13-15% เหมือนตลาดอสังหาฯ ทั่วไป ชาวบ้านก็อยู่ไม่ได้ และคิดว่าเอกชนรายอื่นก็จะไม่สามารถทำได้ เลยต้องให้บริษัทลูกทำงาน คือ บมจ.เคหะสุขประชา โดยดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด และอนาคตมีเป้าหมายที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว เพราะมีกระบวนการตรวจสอบ และโปร่งใสอย่างชัดเจน และการเข้าตลาดไม่ใช่เข้าไปเก็งกำไร แต่มันคือการระดมทุนเม็ดเงินมาทำงานเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้คนยากไร้ และพร้อมกับอาชีพให้ด้วย
 
สำหรับโครงการนี้เป็นธุรกิจเพื่อสังคม สามารถบริหารให้คืนทุนได้ภายใน 10 ปี โดยมีรายได้มาจากค่าเช่าและค่าบริหารจัดการธุรกิจอื่นๆ ภายในโครงการ และที่ถูกพาดพิงว่าต้องใช้เวลา 200 ปี กว่าจะคืนทุนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะสภาพัฒน์คงไม่อนุมัติโครงการแบบนี้ได้ แต่สิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ วิธีการทำงาน วิธีคิด จากการทำกำไรในเชิงพาณิชย์ มาเป็นการคืนกำไรแก่สังคม เปลี่ยนการขายบ้านมาให้คนรายได้น้อยเช่าราคา 999-3,500 บาท แล้วแต่ขนาด ถูกกว่าตลาด 40% ประชาชนอยู่ได้ตลอดชีวิต และไม่ใช่แค่การสร้างบ้าน แต่เป็นการสร้างบ้านพร้อมส่งเสริมอาชีพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่การเคหะแห่งชาติไม่เคยทำมาก่อน แต่รัฐบาลชุดนี้ได้ทำและทำอย่างจริงจัง เพื่อแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า จึงได้จัดตั้ง บมจ.เคหะสุขประชา มาเร่งดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดขบวนการ “หมอแอร์” สวมชื่อคนตายซื้อยาเสียสาว

11 มิ.ย. – ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำแถลงกรณี “หมอแอร์” พร้อมพวกรวม 7 คน แอบอ้างชื่อคลินิก 12 แห่ง สั่งซื้อยายาเสียสาว นำมาขายต่อ นาน 3 ปี และยังสวมชื่อคนตาย 370 คน รับยา ขณะที่ รพ.ตำรวจ มีคำสั่งให้ “หมอแอร์” ออกจากราชการไว้ก่อน หลังเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.68) เจ้าหน้าที่บุกจับ “หมอแอร์” คุณหมอชื่อดัง สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมพวก แอบอ้าง 12 คลินิก สั่งซื้อยาควบคุม (ยาเสียสาว) นำมาขายต่อ นาน 3 ปี วันนี้ (11 มิ.ย.68) มีการแถลงข่าวเรื่องนี้ นำโดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย […]

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]