fbpx

ไทยพร้อมให้โควิดสู่การเป็นโรคประจำถิ่น

สมุทรปราการ 4 ก.ค. – “อนุทิน” เปิดงาน “Thailand Moving Together : กอด กิน บิน เที่ยว ใช้ชีวิตใกล้ชิดอีกครั้ง” เตรียมความพร้อมเข้าสู่โรคประจำถิ่น สร้างความมั่นใจด้านสาธารณสุขให้กับนักท่องเที่ยว ผู้เดินทาง ผู้ประกอบการ


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงาน Meet & Greet “Thailand Moving Together : กอด กิน บิน เที่ยว ใช้ชีวิตใกล้ชิดอีกครั้ง” พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสัญลักษณ์แสดงความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่สนามบิน เจ้าหน้าที่สายการบิน ผู้ประกอบการรถเช่า พนักงานขับรถแท็กซี่ พนักงานรักษาความปลอดภัย และแม่บ้าน โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้าร่วมงาน

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ ยกเลิก Thailand Pass ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศปลายทางทั่วโลก เพื่อให้เกิดการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจ การท่องเที่ยวและคมนาคม ช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ได้ให้ความสำคัญในการสื่อสารสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วนในการเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่นของประเทศไทย (Endemic Approach) พร้อมทั้งจะสนับสนุนให้แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินการให้เกิดผลตามที่คาดหวัง เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการควบคุม ป้องกันโรค และการขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจของประเทศ


โดยที่ผ่านมา ได้ขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่โรคประจำถิ่น ทั้งกิจกรรม Meet the Press : Move on จากโควิด-19 ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ ที่ช่วยสร้างความเข้าใจให้สื่อมวลชนนำข้อมูลที่ถูกต้องไปสื่อสารกับประชาชน และ Meet & Greet “Thailand Moving Together : กอด กิน บิน เที่ยว ใช้ชีวิตใกล้ชิดอีกครั้ง”

ที่อิมแพคเมืองทองธานี ซึ่งมีการรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนสมาคม หน่วยงานผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยว ร้านอาหาร โรงแรม นำมาวางแผนจัดทำมาตรการด้านสาธารณสุขต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับผู้ประกอบการและประชาชน, ยกเลิก Thailand Pass, จัดให้มีแพทย์อาสาสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น

“รู้สึกดีใจ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับมามีชีวิตชีวาเหมือนเดิม นักท่องเที่ยว ผู้เดินทางจำนวนมากกลับมาใช้บริการด้วยรอยยิ้ม เจ้าหน้าที่ บุคลากร และผู้ประกอบการ พร้อมทำหน้าที่อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันของทุกภาคส่วน อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำ


ท่าอากาศยาน (ศปม.ทย.) ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว บริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ สายการบิน ตลอดจนผู้ประกอบการ ที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างดีเสมอมา จากนี้เชื่อมั่นว่าหากมุ่งพัฒนาด้านสาธารณสุขควบคู่กับการพัฒนาประเทศ จะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม ให้มีความเข้มแข็ง สร้างความมั่นใจให้กับคนไทย และชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวได้” นายอนุทิน กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงปกติและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่สิ่งสำคัญขอให้ทุกคนยังต้องปฏิบัติตามมาตรการ 2 U คือ Universal Prevention เว้นระยะห่าง ล้างมือ และใส่หน้ากาก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานที่อากาศปิด สถานที่แออัด และเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้ และ Universal Vaccination เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น หรืออย่างน้อยได้รับวัคซีน 3 เข็ม แต่เนื่องจากมีการพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน BA.4 และ BA.5 ในกลุ่มผู้เดินทางจากต่างประเทศในสัดส่วนสูงกว่าผู้ติดเชื้อในประเทศ จึงขอให้ผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นทุก 4-6 เดือน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันให้มีความปลอดภัยมากขึ้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​