12 ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ โชว์วิสัยทัศน์

รร.หรรษา 29 เม.ย.-12 ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ และจากพรรคการเมือง 1 คน ร่วมแสดงวิสัยทัศน์เวที “BKk Focus2 ดีเบตเดือด ปลายเดือนเมษายน” เสนอไอเดียแก้สารพันปัญหา กทม.


วันที่ 29 เม.ย.65 ที่โรงแรมหรรษา กรุงเทพฯ เวที “BKk Focus2 ดีเบตเดือด ปลายเดือนเมษายน” เชิญผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ 12 คน และจากพรรคการเมือง 1 คน ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ประกอบด้วย นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 5, ดร.ประยูร ครองยศ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 12, พล.อ.ต.ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 15, นายวรัญชัย โชคชนะ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 22, น.ส.วัชรี วรรณศรี ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 9, พล.ต.ท.มณฑล เงินวัฒนะ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 26, นายพิศาล กิตติเยาวมาลย์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 13, ดร.ภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 27, น.ส.สุมนา พันธุ์ไพโรจน์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 18, นายธเนตร วงษา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 14, นายวิทยา จังกอบพัฒนา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 31, นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ หมายเลข 25 และนายกฤตชัย พยอมแย้ม ผู้สมัครพรรคประชากรไทย หมายเลข 29

นายวีรชัย เหล่าเรืองวัฒนา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 5 ชูนโยบายสมาร์ทซิตี้ จะทำให้ไทยเป็นเมืองต้นแบบ ส่งเสริมการบริหารภาครัฐ เน้นให้คนใช้รถสาธารณะ ลดการใช้รถส่วนตัว ส่วนปัญหาปากท้องจะทำแอปฯ เน้นการท่องเที่ยว สตรีทฟู้ด


ดร.ประยูร ครองยศ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 12 แสดงนโยบายสร้างให้กรุงเทพฯ มีความปลอดภัย 24 ชั่วโมง เพิ่มกล่องวงจรปิด และเทศกิจเพิ่มการบริการประชาชนจะต้องรวดเร็ว ประชาชนมีสุขภาพที่ดี เรื่องปากท้อง ส่งเสริมให้มีร้านค้าชุมชน สภาพแวดล้อม ฝุ่น PM2.5 ต้องหมดไป เน้นการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม ให้ประชาชนมาร่วมคิดร่วมวางแผน

พล.อ.ต.ทูตปรีชา เลิศสันทัดวาที ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 15 จะเข้ามาแก้ปัญหาการจราจร โดยใช้ลอนดอนโมเดล แก้ปัญหาการเดินทาง ด้วยการเจรจาใน 6-8 เดือน เพื่อซื้อสัมปทานมาบริการ ลดราคาค่าโดยสารให้เหลือ 20 บาทตลอดสาย ทั้งรถ ราง เรือ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ทำเขื่อนและประตูกั้นน้ำ แก้ปัญหาน้ำทะเลหนุน พัฒนาคลองโดยจ้างบริษัทเกาหลี ร่วมกับบริษัทคนไทยเข้ามาพัฒนาคลองให้สวยและใสเหมือนเกาหลีทั้งกรุงเทพฯ และฝั่งธน สิ่งที่จะทำอันดับแรก หากเป็นผู้ว่าฯ จะแก้ปัญหาคนไร้บ้านใต้สะพาน หาที่พักให้ รวมทั้งจัดศูนย์อาหารฟรีใน กทม.ทั่วทุกเขต ทำอาหารจากวัด มาเลี้ยงเด็กในชุมชนเเออัด

นายวรัญชัย โชคชนะ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 22 ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. มาแล้ว 7 ครั้ง ชูนโยบาย จะบริหารคนและเมืองให้แตกต่างจากจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่ได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ จะเป็นผู้ประสานกับหน่วยงานต่างๆ แก้ปัญหาคนเรร่อน แก้ปัญหาน้ำในคลองที่สกปรกและจัดทำโรงไฟฟ้าขยะ


นายกฤตชัย พยอมแย้ม ผู้สมัครพรรคประชากรไทย หมายเลข 29 ชูนโยบาย 3 ข้อ ใกล้ / ใหม่ / ใหญ่ จะเป็นผู้ว่าที่ใกล้ชิดกับประชาชน รับเรื่องร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน ใช้เทคโนโลยีใหม่มาพัฒนากรุงเทพฯ เช่น เตาเผาขยะขนาดเล็กไร้มลพิษ ติดตั้งในชุมชน พัฒนากรุงเทพฯ ให้มีความยิ่งใหญ่ด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริมเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ให้มีกิจกรรมร่วมกัน ให้เด็กเข้าถึงการศึกษาได้ทุกที่ผ่านการเรียนออนไลน์

น.ส.วัชรี วรรณศรี ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 9 แสดงนโยบาย สร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เน้นการหารายได้และการบริหารงบประมาณ

พล.ต.ท.มณฑล เงินวัฒนะ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 26 มีนโยบายสร้างกรุงเทพฯ ให้ใหญ่ขึ้น แก้กฎหมายให้ควบรวมจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงเข้ากับกรุงเทพฯ เพื่อควบรวมการบริหารแม่น้ำที่ช่วยระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม สร้างแก้มลิงกักเก็บน้ำ เมื่อกรุงเทพฯ ใหญ่ขึ้น จะได้พัฒนาเมืองได้หลายรูปแบบ แบ่งโซนการใช้พื้นที่ แก้ปัญหาเรื่องผังเมืองให้เป็นระเบียบ

นายพิศาล กิตติเยาวมาลย์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 13 ชูนโยบาย จัดให้มีรถขนส่งชุมชน อัตราค่าโดยสารวันละ 3 บาท วิ่งจากชุมชนออกมาถนนใหญ่ ให้เป็นโครงข่ายขนส่ง ทำให้ประชาชนประหยัดค่าเดินทางรายวัน ทำทางจักรยาน เพราะตนเองเป็นคนที่ขี้จักรยานมากว่า 30 ปี แก้ปัญหาคนไร้บ้านด้วยการซื้อใจ ทำให้เค้าไว้วางใจ จ้างงานคนไร้บ้านให้ดูแลทางจักรยาน แก้ปัญหาทางเท้า แก้ปัญหาถนนที่เต็มไปด้วยฝาท่อ ตีเส้นจราจรให้ชัดเจน แก้ปัญหาสายสื่อสารตามเสาไฟฟ้า ให้เปลี่ยนไปใช้ระบบดาวเทียมแทนการเดินสาย เปิดสวนสาธารณะตี 4 ถึง 4 ทุ่ม ขยายเวลาการออกกำลังกาย ให้เป็นสถานที่พักผ่อน มีการแสดงดนตรี การแสดงพื้นบ้าน เปิดเป็นสวนสมุนไพร และเปิดให้มีการขายอาหารในสวนได้ สร้างรายได้ให้คนในชุมชน

ดร.ภูมิพัฒน์ อัศวภูภินทร์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 27 ปรับบทบาทผู้ว่าฯ ไปสู่ผู้บริหารมหานครเบ็ดเสร็จ เพื่อเพิ่มอำนาจผู้ว่าฯ จะสะสางปัญหาของกทม.ที่ค้างอยู่ พัฒนาสิ่งแวดล้อมให้ดี เพิ่มกล้อง CCTV ให้มีคุณภาพ เพิ่มความสะดวกในการบริการประชาชน ทำการจราจรให้มีความสะดวก แก้ปัญหาทางเบี่ยง เส้นจราจรและไฟสัญญาณจราจรนำเทคโนโลยีเข้ามาจัดการ

น.ส.สุมนา พันธุ์ไพโรจน์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 18 ชูนโยบายเน้นดูแลกลุ่มเปราะบาง คนชรา คนพิการ จัดทำบ้านพักคนชรา 4 มุมเมือง จัดลานกิจกรรมให้ผู้พิการ พัฒนาการเรียนการศึกษาประสานกระทรวงศึกษาธิการ เด็กต้องเรียนภาษาอังกฤษก่อนวัยเรียน อุปกรณ์การศึกษาฟรี เด็กต้องได้เรียนศิลปะป้องกันตัวตั้งแต่ ป.1 จะขับเคลื่อนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ติดตั้งไฟพลังงานโซลาร์เซลล์ในที่เปลี่ยว จะพัฒนากล้องวงจรปิด ให้ประชาชนเข้าถึงได้เมื่อเกิดเหตุ จัดระเบียบผู้ค้าไม่ให้กีดขวางทาง แต่ต้องมีโอกาสค้าขาย พัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน ขายในกรุงเทพฯ และส่งออกไปต่างประเทศ จัดให้มีที่ค้าขายทุกเขต

นายธเนตร วงษา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 14 แสดงนโยบายเน้นแก้ปัญหาคอร์รัปชัน แก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ จัดหาเงินงบประมาณเข้ากรุงเทพฯ เพิ่ม เพื่อนำมาพัฒนาระบบสาธารนูปโภคให้คนกรุงเทพฯ

นายวิทยา จังกอบพัฒนา ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 31 ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. มาแล้ว 5 ครั้ง ชูนโยบาย เน้นการพัฒนาการศึกษา ให้เด็กเข้าเข้าโรงเรียนในสังกัด กทม.ได้ โดยไม่ต้องสอบคัดเลือกหรือจับฉลาก เน้นการเรียนภาษาต่างประเทศ ขณะเดียวกัน จะส่งเสริมการเผยแพร่ภาษาไทยไปยังต่างชาติ ส่งนักเรียนไปแลกเปลี่ยนกับจีนทุกมณฑล

นายประพัฒน์ บรรจงศิริเจริญ หมายเลข 25 ชูนโยบายสร้างให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครแห่งโอกาส ให้คนกรุงเทพฯ มีโอกาสเลือก จะพัฒนาให้กรุงเทพฯเป็นเมืองสร้างสรรค์ เมืองแห่ง Soft Power เมืองแห่งกีฬา เมืองแห่งนวัตกรรม ส่งเสริมให้มีการพัฒนาสตาร์ทอัพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]