7 กลุ่มเสี่ยง ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี เริ่ม 1 พ.ค.นี้

กรุงเทพฯ 27 เม.ย.- สปสช.ขอความร่วมมือหน่วยบริการทั่วประเทศ เร่งระดม “ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล” เริ่ม 1 พ.ค.-31 ส.ค.นี้ ดูแลประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิการรักษา เบื้องต้นเน้นผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงก่อน อาทิ ผู้ป่วยโรคร่วม ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น พร้อมย้ำปี 2565 ปรับบริการเปิด Walk-in ยกเว้น กทม.ที่เปิดให้จองคิวผ่านแอปฯ เป๋าตัง พร้อมส่งข้อความถึงประชาชนกลุ่มเสี่ยงผ่านแอปฯ เป๋าตัง เตือนฉีดวัคซีน


เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงแนวทางการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ปี 2565 ให้ผู้แทนหน่วยบริการทั่วประเทศและประชาชนที่สนใจ ผ่าน Facebook Live สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการในบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นไปในแนวทางเดียวกันและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

นพ.จักรกริช กล่าวว่า สิทธิประโยชน์บริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น สปสช.และกรมควบคุมโรค ดำเนินการต่อเนื่องเพื่อให้บริการมากว่า 10 ปีแล้ว และในปี 2565 เรายังคงดำเนินการต่อเนื่องเพื่อดูแลประชาชน กำหนดเป้าหมายบริการจำนวน 4.2 ล้านโดส (ไม่รวมหญิงตั้งครรภ์ที่รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตลอดทั้งปีจำนวน 200,000 โดส) พร้อมเร่งรณรงค์เพื่อให้บริการฉีดในช่วง 3 เดือนแรก คือ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-31 กรกฎาคม 2565 จะเน้นไปที่กลุ่มเสี่ยง 608 โดยกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ควบคู่กับการฉีดวัคซีนป้องก้นโรคโควิด-19 สามารถฉีดพร้อมกันได้โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ต้องขอความร่วมมือหน่วยบริการในการร่วมให้บริการ เพื่อลดอัตราเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต จากภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่


ด้าน นพ.ชนินันท์ สนธิไชย หัวหน้ากลุ่มพัฒนางานวัคซีนพื้นฐาน กองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่ก่อนโควิด-19 แพร่ระบาด ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อัตราการป่วยและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้ลดลง ผลจากการรณรงค์มาตรการป้องกันทำให้ลดการแพร่กระจายของโรคไข้หวัดใหญ่ตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่ากลุ่มเสี่ยงยังคงต้องรับการฉีดวัคซีนป้องโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล เพราะด้วยขณะนี้ได้มีการเริ่มมาตรการผ่อนคลายแล้ว และอาจส่งผลให้โรคไข้หวัดใหญ่กลับมาแพร่ระบาดได้ ดังนั้น จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว

“วัตถุประสงค์การวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลก็เพื่อลดอัตราป่วยและเสียชีวิต รวมถึงภาวะแทรกซ้อนจากโรคไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยง ขณะเดียวกันยังช่วยลดจำนวนวันการนอนในโรงพยาบาลของผู้ป่วยลงได้ โดยปีนี้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลครอบคลุมป้องกัน 3 สายพันธุ์ (an A/Victoria/2570/2019 (H1N1) pdm09-like virus, an A/Darwin/9/2021 (H3N2)-like virus; และ a B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage)-like virus.) ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ฉีดพร้อมกับวัคซีนโควิด-19 ได้ โดยให้ฉีดที่แขนคนละข้าง” นพ.ชนินันท์ กล่าว

ด้าน นพ.สาธิต ทิมขำ อำนวยการกลุ่มภารกิจสนับสนุนการเข้าถึงบริการปฐมภูมิและการสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค สปสช. กล่าวว่า บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฯ ในปี 2565 นี้ ต่างจากปีที่ผ่านมา โดย สปสช.ยกเลิกการกำหนดให้หน่วยบริการเปิดระบบการจองฉีดวัคซีน (Slot) แต่ให้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความพร้อมของหน่วยบริการ ซึ่งหน่วยบริการที่ไม่มีระบบจองวัคซีนจะให้บริการในรูปแบบ Walk-in ใครไปก่อนมีสิทธิได้รับบริการก่อน (First come-Frist serve) ยกเว้นกรุงเทพมหานครที่ยังคงระบบเปิดให้จองฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้า ด้วยการลงทะเบียนผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยเป็นความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย และในปีนี้ ยังมีการส่งข้อความเตือนรับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” พร้อมตรวจสอบหน่วยบริการที่อยู่ใกล้ผ่านแอปฯ นี้ได้ โดยอาจโทรสอบถามกับหน่วยบริการก่อนเข้ารับบริการได้


นอกจากนี้ ในส่วนของกลุ่มเป้าหมายรับบริการในปีนี้ จากปีที่ผ่านมากรมควบคุมโรคขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบุคลากรหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการผู้ป่วยโรคโควิด-19 กลุ่มที่อยู่สถานที่ที่มีการร่วมตัวของประชาชนจำนวนมากที่เสี่ยงต่อการระบาด และกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ขึ้นกับสถานการณ์ ในปีนี้ สปสช.ยกเลิกบริการวัคซีนทั้ง 3 กลุ่มนี้ โดยกำหนดบริการเฉพาะประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงเท่านั้น อย่างไรก็ตามข้อมูลปี 2565 จำนวนประชากรที่อยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยงอยู่ที่ 11,555,334 คน ซึ่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ สปสช.จัดสรรเพื่อให้บริการมีจำนวน 4.2 ล้านโดส หรืออยู่ที่ร้อยละ 36.35 ของกลุ่มเป้าหมายเท่านั้น ดังนั้น ขอให้หน่วยบริการเลือกผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาทิ ผู้ที่มีโรคเรื้อรังร่วม ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย เป็นต้น เข้ารับบริการฉีดวัคซีนก่อน

“การรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-31 สิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูกาลก่อนที่จะมีการแพร่ระบาด โดยขณะนี้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เริ่มกระจายวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้กับหน่วยบริการแล้ว หากหน่วยบริการไหนมีความพร้อมก็สามารถให้บริการได้เลย” นพ.สาธิต กล่าว

กลุ่มเป้าหมายประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ในการรับบริการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ได้แก่ 1) หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการตลอดทั้งปี) 2) เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน 3) ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน 4) บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 5) โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) 6) โรคอ้วน (น้ำหนัก> 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร) และ7) ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้

ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]