กรมวิทย์ฯ แนะวิธีเลือกใช้เจล-สเปรย์แอลกอฮอล์ให้ปลอดภัย

กรมวิทย์ฯ 22 มี.ค. – กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เตือนประชาชนระวังการใช้เจลแอลกอฮอล์หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ พร้อมแนะ 4 วิธีใช้ให้ปลอดภัย ย้ำผู้บริโภคต้องดูฉลากผลิตภัณฑ์ ระบุข้อมูลสำคัญ สังเกตเลขจดแจ้งที่ฉลาก หรือหากไม่แน่ใจให้ตรวจสอบเลขจดแจ้งผลิตภัณฑ์ฯ ได้ที่เว็บไซต์ของ อย.


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า หนึ่งในมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการล้างมือบ่อย ๆ เพื่อลดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และหากไม่สามารถล้างมือด้วยสบู่และน้ำได้ ทั้งนี้แนะนำให้ใช้เจลแอลกอฮอล์หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ ที่เรียกโดยรวมว่า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือแบบไม่ต้องล้างน้ำออก จัดเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางควบคุมมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ เนื่องจากมีแอลกอฮอล์ ส่วนประกอบสำคัญ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ คือ เอทานอล หรือเอทิลแอลกอฮอล์ในปริมาณไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 โดยปริมาตร และอาจมีสารฆ่าเชื้อ เช่น ไตรโคลซาน สารที่ทำให้เกิดสภาพเจล เช่น คาร์โบเมอร์ สารให้ความชุ่มชื้น ลดการแห้งของผิว เช่น ว่านหางจระเข้ ทีทรีออยล์ กลีเซอรอล สีและน้ำหอม เป็นส่วนผสม

นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อควรระวังและปัญหาที่มักพบในการใช้เจลแอลกอฮอล์หรือ สเปรย์แอลกอฮอล์ มีดังนี้ 1.ระเหยเร็ว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ต้องระมัดระวัง เนื่องจากเป็นสารที่ระเหยง่าย เมื่อหยดหรือฉีดลงบนฝ่ามือแล้ว ควรยื่นให้ออกห่างจากใบหน้าและลำตัว เพื่อป้องกันไอระเหยเข้าสู่จมูกและตา หรือหันหน้าออกไม่ให้รับไอระเหยโดยตรง ถูให้ทั่วทั้งฝ่ามือ หลังมือ ซอกนิ้ว และเล็บ แล้วปล่อยให้ระเหยหรือแห้งหมดก่อนที่จะไปสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการระเหยของแอลกอฮอล์ และการเปิดภาชนะบ่อย ๆ อาจทำให้ปริมาณความเข้มข้นแอลกอฮอล์ลดลง จนส่งผลให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อลดลง


2.ติดไฟง่าย ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ซึ่งสามารถติดไฟได้ ดังนั้นการใช้ควรอยู่ให้ห่างจากเปลวไฟ โดยเฉพาะผู้สูบบุหรี่ ควรระวังเป็นพิเศษ 3.ระคายเคืองผิวหนังและดวงตา ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์กับเด็กทารก และบริเวณผิวบอบบาง เช่น รอบดวงตา และบริเวณที่ผิวอักเสบ มีสิว มีบาดแผล เมื่อหยดเจลแอลกอฮอล์หรือฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ ลงบนฝ่ามือแล้ว ไม่ควรสัมผัสใบหน้า จมูก และตา 4.เครื่องสำอางปลอม หากมีการนำเมทานอล หรือเมทิลแอลกอฮอล์ มาผสมในผลิตภัณฑ์มากกว่าร้อยละ 5 จะจัดเป็นเครื่องสำอางปลอม เนื่องจากเป็นแอลกอฮอล์ที่ใช้สำหรับอุตสาหกรรม และห้ามใช้กับร่างกาย อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น การสัมผัสทางผิวหนัง จะทำให้เกิดการสูญเสียชั้นไขมันของผิวหนัง แห้ง แตก เกิดผื่นแดง การหายใจรับไอระเหยของเมทานอลอาจทำให้หลอดลม ลำคอ และเยื่อบุตาอักเสบ หากหายใจ หรือสัมผัสในปริมาณมาก อาจทำให้ปวดท้อง เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้อกระตุก หายใจลำบาก การมองเห็นผิดปกติและอาจตาบอดได้ เนื่องจากลักษณะภายนอกของเมทิลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ที่อนุญาตให้ใช้ได้ ไม่มีความแตกต่างกันจึงไม่สามารถตรวจสอบได้จากลักษณะ สี หรือกลิ่น ต้องทดสอบด้วยเทคนิคทางห้องปฏิบัติการเท่านั้น

“ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ประกอบการส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือมาตรวจวิเคราะห์ที่สำนักเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด ก่อนขอจดแจ้งกับ อย. ซึ่งยังคงตรวจพบผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอยู่บ้าง ในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือนั้น ผู้บริโภคต้องดูฉลากผลิตภัณฑ์ ระบุข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์ ชื่อและที่อยู่ผู้ผลิต วันที่ผลิต วิธีใช้ คำเตือน และต้องสังเกตเลขจดแจ้งที่ฉลาก หรือหากไม่แน่ใจ สามารถตรวจสอบเลขจดแจ้งผลิตภัณฑ์ฯ ได้ที่เว็บไซต์ของ อย.” นพ.ศุภกิจ กล่าว. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร