สปสช.ย้ำเป้าหมายสู่ปีที่ 20 ปชช.เข้าถึงบริการสาธารณสุข

กทม. 27 พ.ย.- ครบ 19 ปีก้าวสู่ปีที่ 20 ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.ย้ำยึดมั่นเป้าหมายให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขและไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย แต่จะปรับระบบการทำงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและโลกยุค Disrupted มากขึ้น

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวในงานเสวนาในหัวข้อ “เข้าสู่ 2 ทศวรรษ ระบบหลักประกันสุขภาพไทยไปไกลแค่ไหน” เนื่องในโอกาสครบรอบ 19 ปี วันสถาปนาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า หลักการของระบบหลักประกันสุขภาพที่ สปสช. ยึดถือมาตลอด 19 ปี คือหลักการที่ให้ประชาชนเข้าถึงบริการและไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย เป็นเป้าหมายในภาพใหญ่ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ซึ่งนับตั้งแต่มีการจัดตั้งขึ้นมา ระบบหลักประกันสุขภาพประสบความสำเร็จความสำเร็จในแง่การเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชนและลดการล้มละลายจากการเจ็บป่วย ขณะเดียวกันยังมีความสำเร็จที่โดดเด่นอีกประการ คือการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สปสช.มีการรับฟังความคิดเห็นและนำปัญหาของประชาชนมาจัดทำนโยบาย อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมาไม่ได้เป็นเรื่องรับประกันความสำเร็จในอนาคต สปสช.ยังมีความท้าทายที่ต้องปิดจุดอ่อนและทำให้ระบบก้าวหน้าต่อไป


นพ.จเด็จ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นการก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 20 ของระบบหลักประกันสุขภาพในประเทศไทย ซึ่งทิศทางการพัฒนาระบบในอนาคตนั้น ในส่วนของเป้าหมายยังไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวคือทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพและไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย อย่างไรก็ดี ในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า หากจะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพสำเร็จมากขึ้น สปสช. ต้องใช้ทฤษฎีในการทำงานที่ต่างไปจากเดิม ซึ่งตนในฐานะเลขาธิการ สปสช.จะเน้นหนักใน 2 ทฤษฎีในการขับเคลื่อนงานคือทฤษฎีเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ซึ่งอธิบายว่าจริงๆแล้วมนุษย์ไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ สปสช.ทำได้ ตัวอย่างเช่น อยากให้คนเข้าถึงบริการมากขึ้น แต่ก็อยากได้รับบริการที่รวดเร็วด้วย ซึ่ง สปสช. ได้พัฒนาระบบบริการในเรื่องตามทฤษฎีนี้ เช่น การส่งยาที่บ้าน การผ่าตัดวันเดียวกลับ การให้ยามะเร็งที่บ้าน เป็นต้น ซึ่งระบบบริการลักษณะนี้ สมัยก่อนทำไม่ได้แต่ปัจจุบันทำได้และจะมีเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ

นอกจากนี้ ยังมีทฤษฎีที่ว่าด้วยโลกกำลังจะ Disrupted บริการบางอย่างไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่ที่แพงกว่ามาแทนที่ของเก่า บางครั้งของใหม่ที่ถูกกว่าเดิมมาแทนของเก่าก็มี เช่น ช่วงเดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ผู้คนยังไม่เชื่อมั่นในเรื่อง Home Isolation ซึ่งมีต้นทุนบริการประมาณ 10,000 บาท/คน มีแต่คนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ สู้ Hotel Isolation ซึ่งมีต้นทุนบริการประมาณ 60,000 บาทไม่ได้ แต่ สปสช. พบว่าผู้ติดเชื้อโควิดไม่ชอบไปโรงแรมแต่อยากอยู่บ้านแล้วส่งยามาให้มากกว่า แสดงว่าบริการที่ต้นทุนถูกกว่าไม่ได้แย่เสมอไป ความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีต้องแพงถึงจะดีก็อาจจะไม่จริง ดังนั้นในระยะต่อไป สปสช.ต้องปรับวิธีทำงานโดยนำทฤษฎีใหม่ๆ มาประยุกต์


“อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือความรวดเร็ว สปสช.พยายามเอาความรวดเร็วมาประยุกต์ เช่น เมื่อเราได้รับการติดต่อให้จัดงบประมาณสำหรับผู้ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด เมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่าปัจจัยที่จะทำให้นโยบายนี้ล้มเหลวคือการจ่ายเงินช้า เราถึงพยายามจ่ายเยียวยาให้เร็วที่สุดใน 5 วัน และต้องไม่ใช่ 5 วันทำการเพราะธนาคารยังสามารถจ่ายเงินวันเสาร์-อาทิตย์ได้ เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องปรับเพื่อไปสู่เป้าหมาย ถ้าเราปรับกระบวนการ ปรับวิธีคิด ปรับบุคลิก แม้เป้าหมายจะเหมือนเดิมแต่ความสำเร็จจะแตกต่างออกไป” นพ.จเด็จ กล่าว

ด้าน น.ส.ศิรินทิพย์ ขัติยะกาญจน์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รับการช่วยเหลือจาก สปสช. อย่างมากในเรื่องสิทธิประโยชน์ อีกทั้งผู้ป่วยยังเชื่อมั่นในเรื่องมาตรฐานการรักษาที่ทัดเทียมกับกองทุนสุขภาพอื่นๆ ทั้งนี้ โรคมะเร็งเป็นโรคที่ต้องแข่งกับเวลา มีความยุ่งยากในการรักษา มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่ได้เดือดร้อนเฉพาะผู้ป่วยแต่ยังกระทบถึงครอบครัวด้วย ผู้ป่วยหลายคนไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ล่วงหน้าแต่การมีระบบหลักประกันสุขภาพก็สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวหลายครอบครัวให้ผ่านเวลาที่ยากลำบากมาได้ พร้อมกล่าวถึงข้อเสนอการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพในอนาคตจากมุมมองผู้ป่วยว่ามี 4 ประเด็นหลักคือ

1.โรคมะเร็งป้องกันได้โดยการตรวจคัดกรอง แต่ยังมีบางชุดสิทธิประโยชน์ที่ไม่เอื้อให้มาตรวจคัดกรอง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ ดังนั้นถ้าทำให้เกิดความร่วมมือจากหลายๆ ภาคีในการรณรงค์ให้คนมาตรวจคัดกรอง จะเป็นประโยชน์ ช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยมะเร็งมากขึ้น


2.คุณภาพชีวิตผู้ป่วย ผู้ป่วยบางคนไม่อยากได้ยาราคาแพงแต่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่า ดังนั้นการพัฒนาสิทธิประโยชน์จึงอยากให้มองเรื่องคุณภาพชีวิตผู้ป่วยเป็นหลักและเปิดให้ผู้ป่วยมีสิทธิเลือกทางเดินของตัวเองในการรักษา ไม่ใช่พิจารณาแค่ความคุ้มค่าทางตัวเงินอย่างเดียว

3.การมีส่วนร่วมของผู้ป่วย การรวมพลังของเครือผู้ป่วยยังขาดความต่อเนื่อง แม้ สปสช.จะเปิดให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วม แต่ส่วนมากเป็นการเปิดให้แสดงความเห็นของงานที่เสร็จแล้ว แต่เครือข่ายผู้ป่วยอยากเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการวางแผน การกำหนดทิศทาง และอยากให้สร้างเครือข่ายผู้ป่วยในเชิงรุกที่เป็นมากกว่าการทำกิจกรรมร่วมกัน

4.การพัฒนาเทคโนโลยี ปัจจุบันมีโครงการผู้ป่วยมะเร็งรักษาที่ไหนก็ได้ แต่ระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยบริการที่ไม่ได้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขยังมีปัญหา การเก็บข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ถ้าร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายผู้ป่วย ฐานข้อมูลนี้จะเป็น evidence base ที่สำคัญของรัฐในการนำไปพิจารณากำหนดนโยบายและงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ ในอนาคต .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือถึง ครม. ขอผู้ว่าฯ ธปท.เป็นอิสระ

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- 17 นักวิชาการอิสระ ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี-ครม. ระบุผู้ว่าฯ ธปท.คนใหม่ต้องเป็นอิสระ ไม่ถูกกดดันให้ลดดอกเบี้ย เพจเฟชบุ๊ก “เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง” โพสต์หนังสือเปิดผนึกถึงคณะรัฐมนตรี เรื่อง ตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เรียน นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า กรณีการเสนอชื่อผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม 2568 ขอแสดงความห่วงใยและเสนอความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ 1.เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรจะต้องเป็นผู้ที่ให้ความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว แม้จะเข้าใจได้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว รัฐบาลต้องการการเจริญเติบโตของประเทศในระยะสั้น ซึ่งประสบการณ์การของผู้ทำงานธนาคารของรัฐ อาจจะเคยชินในการสนองตอบต่อนโยบายของนักการเมืองที่เข้ามาบริหารประเทศ อย่างไรก็ดี เนื่องจากประเทศชาติต้องการการเติบโตที่มีเสถียรภาพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องเป็นบุคคลที่สามารถประคับประคอง และลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการมุ่งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะสั้นของรัฐบาล 2.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ถูกกดดันเพื่อลดหรือเพิ่มอัตราดอกเบี้ย หรือเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา ตามความต้องการของฝ่ายการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์ เพราะจะทำให้นักการเมืองและคนบางกลุ่ม สามารถแสวงหาประโยชน์ในบางโอกาสจนร่ำรวย แต่ประเทศชาติเสียหาย 3.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเป็นอิสระจากการกดดันของธนาคารพาณิชย์ ธนาคารและสถาบันการเงินของรัฐ แต่จะต้องกำกับดูแลสถาบันการเงินเพื่อประโยชน์ของประเทศระยะยาว 4.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องได้รับการยอมรับระหว่างประเทศ โดยเฉพาะองค์การการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนและสถาบันของต่างประเทศเกิดความมั่นใจที่จะทำธุรกิจและพันธสัญญาในระยะยาว 5.ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องเข้าใจการพัฒนาประเทศในระดับมหภาค และการปรับโครงสร้างเพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขัน […]

กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง

กกต. 21 ก.ค.-กกต. เปิดแล้วคำวินิจฉัย “หมอเกศ” ใช้ตำแหน่ง “ศาสตราจารย์” หลอกลวง ให้ได้มาซึ่งการลงคะแนนเลือก สว. ไม่พบหลักฐานได้รับแต่งตั้ง หลังมีมติยื่นศาลฎีกา เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญา เว็บไซต์สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.รวม 13 หน้า ที่มีมติเมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของนางสาวเกศกมล เปลี่ยนสมัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิก วุฒิสภา 2561 มาตรา 62 และรัฐธรรมนูญมาตรา 226 และให้ดำเนินคดีอาญาแก่ น.ส.เกศกมล ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561มาตรา 77 (4) กรณีใช้ตำแหน่งศาสตราจารย์ในการยื่นสมัครและแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา คดีนี้มีผู้ร้อง น.ส.เกศกมล รวม 7 รายร้องใน 6 ประเด็น ซึ่งมีข้อเท็จจริงเกี่ยวพันกันว่า น.ส.เกศกมล สมัครรับเลือกเป็น สว. กลุ่มที่ 19 โดยระบุในข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร (สว.3) […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย