สปสช.ย้ำเป้าหมายสู่ปีที่ 20 ปชช.เข้าถึงบริการสาธารณสุข

กทม. 27 พ.ย.- ครบ 19 ปีก้าวสู่ปีที่ 20 ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สปสช.ย้ำยึดมั่นเป้าหมายให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขและไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย แต่จะปรับระบบการทำงานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและโลกยุค Disrupted มากขึ้น

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวในงานเสวนาในหัวข้อ “เข้าสู่ 2 ทศวรรษ ระบบหลักประกันสุขภาพไทยไปไกลแค่ไหน” เนื่องในโอกาสครบรอบ 19 ปี วันสถาปนาสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า หลักการของระบบหลักประกันสุขภาพที่ สปสช. ยึดถือมาตลอด 19 ปี คือหลักการที่ให้ประชาชนเข้าถึงบริการและไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย เป็นเป้าหมายในภาพใหญ่ที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ซึ่งนับตั้งแต่มีการจัดตั้งขึ้นมา ระบบหลักประกันสุขภาพประสบความสำเร็จความสำเร็จในแง่การเพิ่มการเข้าถึงบริการของประชาชนและลดการล้มละลายจากการเจ็บป่วย ขณะเดียวกันยังมีความสำเร็จที่โดดเด่นอีกประการ คือการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สปสช.มีการรับฟังความคิดเห็นและนำปัญหาของประชาชนมาจัดทำนโยบาย อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในอดีตที่ผ่านมาไม่ได้เป็นเรื่องรับประกันความสำเร็จในอนาคต สปสช.ยังมีความท้าทายที่ต้องปิดจุดอ่อนและทำให้ระบบก้าวหน้าต่อไป


นพ.จเด็จ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นการก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 20 ของระบบหลักประกันสุขภาพในประเทศไทย ซึ่งทิศทางการพัฒนาระบบในอนาคตนั้น ในส่วนของเป้าหมายยังไม่เปลี่ยนแปลง กล่าวคือทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพและไม่ล้มละลายจากการเจ็บป่วย อย่างไรก็ดี ในระยะ 3-4 ปีข้างหน้า หากจะทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพสำเร็จมากขึ้น สปสช. ต้องใช้ทฤษฎีในการทำงานที่ต่างไปจากเดิม ซึ่งตนในฐานะเลขาธิการ สปสช.จะเน้นหนักใน 2 ทฤษฎีในการขับเคลื่อนงานคือทฤษฎีเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ซึ่งอธิบายว่าจริงๆแล้วมนุษย์ไม่ค่อยมีเหตุผลแต่ สปสช.ทำได้ ตัวอย่างเช่น อยากให้คนเข้าถึงบริการมากขึ้น แต่ก็อยากได้รับบริการที่รวดเร็วด้วย ซึ่ง สปสช. ได้พัฒนาระบบบริการในเรื่องตามทฤษฎีนี้ เช่น การส่งยาที่บ้าน การผ่าตัดวันเดียวกลับ การให้ยามะเร็งที่บ้าน เป็นต้น ซึ่งระบบบริการลักษณะนี้ สมัยก่อนทำไม่ได้แต่ปัจจุบันทำได้และจะมีเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ

นอกจากนี้ ยังมีทฤษฎีที่ว่าด้วยโลกกำลังจะ Disrupted บริการบางอย่างไม่จำเป็นต้องเป็นของใหม่ที่แพงกว่ามาแทนที่ของเก่า บางครั้งของใหม่ที่ถูกกว่าเดิมมาแทนของเก่าก็มี เช่น ช่วงเดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ผู้คนยังไม่เชื่อมั่นในเรื่อง Home Isolation ซึ่งมีต้นทุนบริการประมาณ 10,000 บาท/คน มีแต่คนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ สู้ Hotel Isolation ซึ่งมีต้นทุนบริการประมาณ 60,000 บาทไม่ได้ แต่ สปสช. พบว่าผู้ติดเชื้อโควิดไม่ชอบไปโรงแรมแต่อยากอยู่บ้านแล้วส่งยามาให้มากกว่า แสดงว่าบริการที่ต้นทุนถูกกว่าไม่ได้แย่เสมอไป ความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีต้องแพงถึงจะดีก็อาจจะไม่จริง ดังนั้นในระยะต่อไป สปสช.ต้องปรับวิธีทำงานโดยนำทฤษฎีใหม่ๆ มาประยุกต์


“อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือความรวดเร็ว สปสช.พยายามเอาความรวดเร็วมาประยุกต์ เช่น เมื่อเราได้รับการติดต่อให้จัดงบประมาณสำหรับผู้ได้รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนโควิด เมื่อวิเคราะห์แล้วพบว่าปัจจัยที่จะทำให้นโยบายนี้ล้มเหลวคือการจ่ายเงินช้า เราถึงพยายามจ่ายเยียวยาให้เร็วที่สุดใน 5 วัน และต้องไม่ใช่ 5 วันทำการเพราะธนาคารยังสามารถจ่ายเงินวันเสาร์-อาทิตย์ได้ เป็นต้น ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องปรับเพื่อไปสู่เป้าหมาย ถ้าเราปรับกระบวนการ ปรับวิธีคิด ปรับบุคลิก แม้เป้าหมายจะเหมือนเดิมแต่ความสำเร็จจะแตกต่างออกไป” นพ.จเด็จ กล่าว

ด้าน น.ส.ศิรินทิพย์ ขัติยะกาญจน์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็งได้รับการช่วยเหลือจาก สปสช. อย่างมากในเรื่องสิทธิประโยชน์ อีกทั้งผู้ป่วยยังเชื่อมั่นในเรื่องมาตรฐานการรักษาที่ทัดเทียมกับกองทุนสุขภาพอื่นๆ ทั้งนี้ โรคมะเร็งเป็นโรคที่ต้องแข่งกับเวลา มีความยุ่งยากในการรักษา มีค่าใช้จ่ายสูง ไม่ได้เดือดร้อนเฉพาะผู้ป่วยแต่ยังกระทบถึงครอบครัวด้วย ผู้ป่วยหลายคนไม่ได้เตรียมงบประมาณไว้ล่วงหน้าแต่การมีระบบหลักประกันสุขภาพก็สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวหลายครอบครัวให้ผ่านเวลาที่ยากลำบากมาได้ พร้อมกล่าวถึงข้อเสนอการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพในอนาคตจากมุมมองผู้ป่วยว่ามี 4 ประเด็นหลักคือ

1.โรคมะเร็งป้องกันได้โดยการตรวจคัดกรอง แต่ยังมีบางชุดสิทธิประโยชน์ที่ไม่เอื้อให้มาตรวจคัดกรอง เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ ดังนั้นถ้าทำให้เกิดความร่วมมือจากหลายๆ ภาคีในการรณรงค์ให้คนมาตรวจคัดกรอง จะเป็นประโยชน์ ช่วยป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยมะเร็งมากขึ้น


2.คุณภาพชีวิตผู้ป่วย ผู้ป่วยบางคนไม่อยากได้ยาราคาแพงแต่ต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่า ดังนั้นการพัฒนาสิทธิประโยชน์จึงอยากให้มองเรื่องคุณภาพชีวิตผู้ป่วยเป็นหลักและเปิดให้ผู้ป่วยมีสิทธิเลือกทางเดินของตัวเองในการรักษา ไม่ใช่พิจารณาแค่ความคุ้มค่าทางตัวเงินอย่างเดียว

3.การมีส่วนร่วมของผู้ป่วย การรวมพลังของเครือผู้ป่วยยังขาดความต่อเนื่อง แม้ สปสช.จะเปิดให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วม แต่ส่วนมากเป็นการเปิดให้แสดงความเห็นของงานที่เสร็จแล้ว แต่เครือข่ายผู้ป่วยอยากเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการวางแผน การกำหนดทิศทาง และอยากให้สร้างเครือข่ายผู้ป่วยในเชิงรุกที่เป็นมากกว่าการทำกิจกรรมร่วมกัน

4.การพัฒนาเทคโนโลยี ปัจจุบันมีโครงการผู้ป่วยมะเร็งรักษาที่ไหนก็ได้ แต่ระบบเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยบริการที่ไม่ได้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขยังมีปัญหา การเก็บข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ถ้าร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายผู้ป่วย ฐานข้อมูลนี้จะเป็น evidence base ที่สำคัญของรัฐในการนำไปพิจารณากำหนดนโยบายและงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ ในอนาคต .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กป้อม” สยบข่าวชิงเก้าอี้กลาโหม ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล

พรรคพลังประชารัฐ 8 ก.ย.-“บิ๊กป้อม” ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล – ไม่นั่ง รมว.กลาโหม ยืนยันยินดีสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เมื่อเวลา 09:18 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวถึงการต่อรองและแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีตนเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ทำให้สับสนวุ่นวาย ว่า ตนมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรีได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนยุบสภาโดยไม่ต้องกังวลต่อการต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ พร้อมทั้งขอประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองที่จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล รวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตามที่เป็นข่าว พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีได้เร่งสรรหาบุคคลที่เหมาะสมที่จะแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และทะนุบำรุงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สามารถทำงานได้จริงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อรองใดๆ โดยเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง “ผมยินดีที่จะสนับสนุนอยู่เบื้องหลังและพร้อมใช้ความรู้ ประสบการณ์และเครือข่ายระหว่างประเทศด้านความมั่นคงของผมที่มี ถ้าสามารถจะเป็นประโยชน์ได้ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม และต้องการที่จะเห็นประเทศชาติของเราเดินหน้าสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเร็ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย