กรุงเทพฯ 8 ต.ค.-แพทย์แผนไทยแนะนำ อาหาร 3 รายการ และชาสมุนไพร 3 ชนิด ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ให้ห่างไกลโรค ในช่วงเทศกาลกินเจ
นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปี 2564 นี้ เทศกาลกินเจจะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม ไปจนถึง วันที่ 14 ตุลาคม สำหรับเทศกาลนี้ประชาชนจะถือเป็นประเพณีที่จะปฏิบัติตนด้วยการรักษาศีล ปฏิบัติตามหลักธรรม และ งดเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ โดยเชื่อว่าการถือศีลเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ การกินเจที่งดเว้นจากการบริโภคเนื้อสัตว์แล้วเน้นการบริโภคผักและผลไม้ จะส่งผลดีต่อสุขภาพกาย โดยเฉพาะระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่ายจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามในช่วงของการถือศีลกินเจ ประชาชน มักบริโภคอาหารที่มีแป้งและไขมันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอาหารที่ต้องทอดหรือผัดด้วยน้ำมัน ถ้าหากไม่ระวังหรือไม่จำกัด การบริโภคก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง เพื่อเป็นการส่งเสริมสุขภาพ ให้ห่างไกลโรค ในช่วงเทศกาลกินเจ
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก จึงขอแนะนำ อาหาร 3 รายการ และ ชาสมุนไพร 3 ชนิด ที่ช่วยเพิ่มโปรตีนและช่วยควบคุมไขมันในกระแสเลือด เป็นการส่งเสริมสุขภาพในช่วงเทศกาลกินเจ ได้แก่ 1.กระเพาะปลาเจ ซึ่งจะเน้นส่วนผสมเป็นเห็ดนานาชนิดพร้อมทั้งมีฟองเต้าหู้ ที่ช่วยเสริมโปรตีน และยังมีหน่อไม้ช่วยเพิ่มกากใยอาหาร 2.ยำสามดรุณี ประกอบไปด้วยผักพื้นบ้าน 3 ชนิด ได้แก่ ดอกแค ดอกขจร ดอกโสน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ ต้านการอักเสบ และบำรุงสายตา อีกทั้งยังมีส่วนผสมของ ใบมะกรูด ขิง ตะไคร้ ที่เป็นสมุนไพรรสเผ็ดร้อน มีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยทำให้เลือดลมไหลเวียนดี และเมนูที่ 3.ลาบเห็ด ซึ่งเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ อีกทั้งเห็ดยังมีสารเบต้ากลูแคนที่มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ส่วนชาสมุนไพรที่แนะนำในช่วงเทศกาลกินเจ ได้แก่ 1.ชามะตูม สรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงธาตุ ปรับความสมดุลของร่างกาย และยังเป็นยาระบายอ่อนๆ 2.ชาอู่หลง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคได้หลายโรค และช่วยควบคุมระดับไขมันและน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี 3.ชากระเจี๊ยบแดง ช่วยลดไขมันในเลือด ขับปัสสาวะ ลดความดันโลหิต และช่วยระบายท้อง เป็นต้น
นายแพทย์ขวัญชัย กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากรายการอาหารและชาสมุนไพรที่แนะนำแล้ว การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การนอนหลับพักผ่อนและดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญมาก อีกทั้งยังควรปฏิบัติตนด้วยการรักษาศีล ปฏิบัติตามหลักธรรม เป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ในช่วงเทศกาลกินเจอย่างเคร่งครัด และหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับศาสตร์การแพทย์แผนไทย สามารถขอคำปรึกษาจากแพทย์แผนไทยในสถานบริการสาธารณสุขของรัฐทั่วประเทศ หรือติดต่อโดยตรง ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก หมายเลขโทรศัพท์ 0 2149 5678 หรือช่องทางออนไลน์ที่ FACEBOOK กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก www.facebook.com/dtam.moph และ line @DTAM .-สำนักข่าวไทย