สธ. ย้ำตรวจ ATK หากผลเป็นบวกต้องได้รับการดูแลถูกต้อง-รวดเร็ว

กทม. 11 ก.ย.-สธ.ย้ำหน่วยบริการ แจกชุดตรวจ ATK ให้ประชาชนตรวจด้วยตัวเองแล้ว ขอให้วางแนวปฏิบัติให้ชัดเจน โดยประชาชนต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้อง หรือพิมพ์แนวปฏิบัติว่าจะติดต่อหน่วยบริการอย่างไรในกรณีผลตรวจเป็นบวกแจกคู่ไปกับชุดตรวจด้วย ย้ำเมื่อประชาชนติดต่อมาแล้วห้ามปฏิเสธการดูแล ด้าน สปสช.คาดสัปดาห์หน้าเริ่มเปิดลงทะเบียนขอรับชุดตรวจได้

นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการประชุมชี้แจงแนวทางกระจายชุดตรวจ Antigen test kit (ATK) เพื่อแจกประชาชน และการจ่ายชดเชยค่าบริการสำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพ วันที่ 10 ก.ย. 2564 โดยระบุว่าขณะนี้ โหมดในการใช้ชีวิตของคนไทยคือ Living with COVID หรือการใช้ชีวิตร่วมกับโควิด-19 ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจะทำมี 3 เรื่องใหญ่ๆ คือ


  1. ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้ครอบคลุมมากที่สุด แม้ไม่มีวัคซีนยี่ห้อใดในโลกที่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ 100% แต่สามารถป้องกันการป่วยหนักหรือเสียชีวิตได้เกือบ 100% ดังนั้นต้องเร่งฉีดให้ครอบคลุมมากที่สุดโดยเฉพาะกลุ่มที่มีโอกาสป่วยแล้วเสียชีวิตสูง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ โดยในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์นั้น ขณะนี้ยังมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนที่น้อยมาก ดังนั้นขอให้หน่วยบริการดูแลให้มากขึ้น ปกติหญิงตั้งครรภ์ต้องมาคลินิกฝากครรภ์ทุกเดือนอยู่แล้ว ถ้ามาแล้วพบว่ายังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ก็ให้เจ้าหน้าที่ฉีดได้เลย ไม่ต้องรอให้ถึงวันนัดฉีด
  2. universal prevention ให้บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สื่อสารกับประชาชนในเรื่องการป้องกันตัว ขอให้คิดเสมือนว่าตัวเองติดเชื้ออยู่แต่ยังไม่มีอาการ ต้องป้องกันตัวไม่ให้เอาเชื้อไปติดคนอื่น ขณะเดียวกันก็ต้องคิดเสมอว่าคนรอบๆตัวอาจมีเชื้อโควิดโดยที่ยังไม่แสดงอาการ เพราะฉะนั้นก็ต้องป้องกันตัวไม่ให้รับเชื้อจากคนอื่นเช่นกัน
  3. การตรวจหาเชื้อด้วย ATK เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดหนัก ในขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กำลังอยู่ในช่วงขาลง แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าจะไม่กลับมาระบาดหนักอีก การตรวจหาเชื้อด้วย ATK จะเป็นเครื่องมือช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพราะถ้าสามารถค้นหาได้เร็ว แยกได้เร็ว แทนที่ 1 คนจะแพร่เชื้อได้ 8-9 คนก็อาจจะเหลือ 1 คนต่อ 1-2 คนหรือไม่ติดใครเพิ่มเลย

“ต้องขอบคุณ สปสช.ที่สนับสนุนให้ประชาชนมีชุดตรวจ ATK ที่สามารถใช้เองได้ ดังนั้น ATK 8.5 ล้านชิ้นนี้ ต้องฝากทุกจังหวัดในการกระจายและให้ประชาชนได้ทำการตรวจด้วยตัวเอง โดยให้ อสม.ช่วยในการกระจายชุดตรวจและสอนวิธีการใช้” นพ.ธงชัย กล่าว

นพ.ธงชัย เน้นย้ำด้วยว่า ขอให้หน่วยบริการที่กระจายชุดตรวจในแต่ละพื้นที่ จัดทำแนวทางการปฏิบัติให้ชัดเจนว่าถ้าผลตรวจเป็นบวกแล้วต้องทำอย่างไร ติดต่อที่ไหน ให้มาหาที่โรงพยาบาลหรือโทรมาก่อนแล้วโรงพยาบาลไปรับ โดยให้จัดทำแนวทางตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งพิมพ์สติกเกอร์พร้อมหมายเลขติดต่อหน่วยบริการติดไว้ที่กล่อง ATK หรืออาจพิมพ์แนวทางการปฏิบัติใส่ซองไปพร้อมๆกันก็ได้


“เมื่อกระจายชุดตรวจลงไปแล้วขอให้วางแนวปฏิบัติให้ชัดเจน โดยประชาชนต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้องรวดเร็วและไม่มีการปฏิเสธไม่ว่าจะตรวจด้วย ATK จากโครงการนี้หรือไปซื้อมาตรวจเองก็ตาม ถ้าอาการไม่หนักก็แนะนำให้ทำ Home Isolation แต่ถ้าจะรับเข้าโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาล ต้องทำ RT-PCR ก่อน” นพ.ธงชัย กล่าว

นพ.ธงชัย กล่าวย้ำเพิ่มเติมว่า ในการแจก ATK นั้น ขอให้เจ้าหน้าที่มีการสอบถามเบื้องต้นก่อนว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ไม่ใช่ใครมาขอก็ให้หมด ขอให้เน้นกลุ่มเสี่ยงที่มาจากพื้นที่ที่มีการระบาด คนในครอบครัวในชุมชนมีผู้ป่วย รวมทั้งกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในในตลาด โดยหากตรวจครั้งแรกแล้วไม่เจอ ให้แนะนำว่าอย่าเพิ่งวางใจ อีก 4-5 วันให้ตรวจซ้ำอีกครั้งหรือตรวจทันทีที่มีอาการไม่สบาย

นพ.อภิชาติ รอดสม รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คาดว่าชุดตรวจ ATK จะกระจายไปยังหน่วยบริการต่างๆได้ในสัปดาห์หน้าและเริ่มลงทะเบียนรับชุดตรวจได้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2564 เป็นต้นไป ซึ่งในจำนวนชุดตรวจ 8.5 ล้านชุด จะกระจายในเบื้องต้น 96% แบ่งเป็น กทม. 2.5 ล้านชุด เขตสุขภาพที่ 1-12 อีกประมาณ 5 ล้านชุด หน่วยบริการในสังกัดกรมอนามัยอีก 4 แสนชุด ส่วนชุดตรวจที่เหลือจะเป็นส่วนที่สำรองไว้


นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ในพื้นที่ กทม. จะบริหารจัดการโดยสำนักอนามัยของ กทม. กระจายไปยังศูนย์บริการสาธารณสุข แล้วศูนย์บริการสาธารณสุข มอบต่อให้ผู้นำชุมชนหรืออาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) นำไปกระจายให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเน้นชุมชนแออัด ตลาด ร้านเสริมสวย สปา โรงเรียน และกลุ่มที่เกี่ยวกับบริการสาธารณะ

นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถขอรับได้ที่คลินิกชุมชนอบอุ่นและร้านยาที่เข้าร่วมกับโครงการของ สปสช. โดยลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดจะกระจายชุดตรวจ ATK ไปยังโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมี อสม. และจิตอาสา กระจายชุดตรวจให้กลุ่มเสี่ยงที่บ้าน ขณะเดียวกันประชาชนก็ยังขอรับชุดตรวจที่คลินิกชุมชนอบอุ่นและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการในต่างจังหวัด ผ่านการลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตังได้เช่นกัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]