พม.โพล “60+ ฝ่าวิกฤต COVID-19 สู่วิถีถัดไป”

กรุงเทพฯ 10 ก.ย.- กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. จัดทำ พม.โพล ” 60 พลัส ฝ่าวิกฤต COVID-19 สู่วิถีถัดไป (Next Normal)” เพื่อนำข้อมูลที่ทันเหตุการณ์ มาใช้จัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย และออกมาตรการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป


นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการแถลงข่าว พม.โพล “60 พลัส ฝ่าวิกฤต COVID-19 สู่วิถีถัดไป (Next Normal)” ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของและความจำเป็น ในการมีข้อมูลที่ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดนโยบาย และการให้บริการประชาชน จึงได้จัดทำกิจกรรมวัดอุณภูมิทางสังคม หรือ พม.โพล โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 ร่วมกับ “นิด้าโพล” จัดทำเรื่อง “60 พลัส ฝ่าวิกฤติ COVID–19 สู่วิถีถัดไป (Next Normal)”  เนื่องจากกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีมากถึง 11.8 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 17.90 ของประชากรทั้งประเทศ โดยเลือกสำรวจความคิดเห็นของผู้สูงอายุที่มีต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งผลกระทบ และความต้องการของผู้สูงอายุใน 5 มิติ ได้แก่ ด้านสุขภาพกาย-จิต เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี  

พบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่ ได้รับกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยมากถึงร้อยละ 90.00 เกิดความเครียด วิตกกังวล ร้อยละ 59.32 รายได้ลดลง มีภาระค่าใช้จ่าย หนี้สินมากขึ้น ร้อยละ 47.86 การออกไปพบปะสังสรรค์ ทำกิจกรรมนอกบ้าน ลดน้อยลง 


สิ่งที่ผู้สูงอายุวิตกกังวลในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เกิดความเครียดและกังวลว่าจะติดเชื้อ ตามมาด้วยรายได้ รายจ่าย ภาระหนี้สิน และอันดับ 3 การทำมาหาเลี้ยงชีพ การประกอบอาชีพ 

สำหรับวิธีการรับมือกับสถานการณ์ ร้อยละ 86.50  ติดตามข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับการแพร่ระบาด ร้อยละ 81.20 ปฏิบัติตนตามนโยบายมาตรการการควบคุมของรัฐ ร้อยละ 51.98 ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ COVID-19 

สิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด 3 อันดับแรก คือฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 การช่วยเหลือฟื้นฟู เยียวยา เช่น การจ่ายเงินเยียวยาและชดเชย การสร้างงาน สร้างอาชีพ และเรื่องอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ที่พักอาศัยที่ถูกสุขลักษณะ หน้ากากอนามัย เจล ล้างมือตามลำดับ


สิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการให้กระทรวง พม. ช่วยเหลือ เยียวยาหรือฟื้นฟูมากที่สุด คือสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้สะดวก รวดเร็ว ทันเวลา ตามมาด้วยส่งเสริมการมีงานทำ พัฒนาทักษะอาชีพตามความถนัดและความสนใจ และเพิ่มวงเงินกู้ยืมเงินกองทุนประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังเสนอแนะให้เพิ่มสิทธิและสวัสดิการของผู้สูงอายุ ส่งเสริมการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ และอำนวยความสะดวกในการรับบริการทางการแพทย์ที่รวดเร็วในการเข้ารับการรักษา  

 จะเห็นว่าผู้สูงอายุมีความเสี่ยงสูง แต่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 และวางแผนการปฏิบัติตัวไปสู่วิถีถัดไป (Next Normal) ที่มีการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตไปจากเดิม ใส่ใจป้องกัน ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองมากขึ้น ซึ่ง กระทรวง พม. จะนำผลการสำรวจนี้ไปดำเนินการกำหนดเป็นนโยบายที่เหมาะสมกับกลุ่มผู้สูงอายุในอนาคตต่อไป

ด้านนางสุจิตรา พิทยานรเศรษฐ์ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวระหว่างการบรรยายเรื่อง “ทิศทางการกำหนดนโยบายจากผลการสำรวจ ถึงกรณีผู้สูงอายุที่เกษียณงานแล้ว แต่ยังมีความรู้ มีความสามารถ มีความพร้อมในการทำงาน ยังสามารถเข้าร่วมโครงการ  “คลังปัญญาผู้สูงอายุ” เพื่อร่วมถ่ายทอดภูมิปัญญาและองค์ความรู้ของผู้สูงอายุที่มีประสบการณ์ในการทำงาน เปลี่ยนเกษียณเป็นพลัง ผลักดันให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วม และส่งเสริมศักยภาพให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม