แนะพ่อแม่เลี้ยงลูกยุคโควิด เพิ่มเวลาให้-ลดการดูจอของเด็ก

สำนักข่าวไทย 20 ส.ค.-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะพ่อแม่ ผู้ดูแลเด็กเล็ก 0-5 ปี เพิ่มจัดสรรเวลาให้ลูก หลีกเลี่ยงให้เด็กดูโทรทัศน์ ลดเล่นโทรศัพท์มือถือ เน้นส่งเสริมพัฒนาการให้รอบด้าน

​นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบกับทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กปฐมวัย 0-5 ปี ซึ่งเป็นช่วงการส่งเสริมกระตุ้นพัฒนาการสมวัย เนื่องจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือโรงเรียน ปิดการเรียนการสอนตามมาตรการควบคุมการระบาด ที่ทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศอาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กที่เกิดจากความไม่พร้อมด้วยปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ 1) ด้านสถานที่ บางครอบครัวต้องพาเด็กออกไปทำงานด้วย ซึ่งที่ทำงานบางสถานที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กเล็ก เช่น งานเก็บขยะ งานตัดต้นไม้ งานก่อสร้าง เป็นต้น หรือบางครอบครัวต้องทิ้งเด็กเล็กไว้ตามลำพัง 2) ด้านโภชนาการ หากเด็กอยู่ศูนย์เด็กเล็กหรือโรงเรียนจะได้กินอาหารครบ 5 หมู่และดื่มนมตรงตามเวลา แต่เมื่อเด็กต้องอยู่บ้าน บางครั้งอาจกินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ครบหมู่ หรือกินข้าวได้น้อยลง เพราะต้องกินอาหารเมนูเดิมซ้ำ ๆ มีส่วนทำให้เด็กได้รับสารอาหาร ไม่ครบถ้วนเช่นกัน 3) ด้านพัฒนาการของเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองบางรายมักให้เด็กอยู่ในห้องแคบ ๆ ใช้เวลาไปกับการดูโทรทัศน์หรือเล่นมือถือมากขึ้นโดยไม่สนใจบุคคลหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว ส่งผลให้มีพฤติกรรมก้าวร้าว เอาแต่ใจตัวเอง และขาดระเบียบวินัย


นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า การกระตุ้นพัฒนาการเด็กในยุคโควิด-19 พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องฝึกการเล่นกับลูกในหลาย ๆ รูปแบบ โดยการศึกษาผ่านคู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM) ของกระทรวงสาธารณสุข ที่สามารถเข้าดูได้จากเว็บไซต์ของสถาบันพัฒนาอนามัยเด็กแห่งชาติ กรมอนามัย หรือสามารถปรึกษาสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่งทั่วประเทศ รวมถึงคอยกำชับและดูแลเด็กเล็ก ให้หลีกเลี่ยงการดูโทรทัศน์หรือเล่นโทรศัพท์มือถือที่มากจนเกินไป จึงควรจัดสรรเวลาอยู่และเล่นกับลูกให้มากขึ้น และที่สำคัญต้องมีการป้องกันโควิด-19 ในเด็กอย่างเคร่งครัด ด้วยการลดการออกนอกบ้าน เพิ่มการสวมหน้ากาก ในบ้านให้มากขึ้น กำชับให้หมั่นล้างมือบ่อย ๆ หมั่นทำความสะอาดเครื่องเล่นหรือของเล่นด้วยน้ำยาทำความสะอาดทั่วไป

“ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์ข้อมูลเฝ้าระวังด้านส่งเสริมสุขภาพด้านพัฒนาการปฐมวัยล่าสุด 11 สิงหาคม 2564 พบว่า เป้าหมายการคัดกรองพัฒนาการเด็กปฐมวัย จำนวน 1,515,545 ราย สามารถคัดกรองได้ 1,345,511 ราย คิดเป็นร้อยละ 88.8 พบพัฒนาการเด็กสมวัยจำนวน 968,253 ราย คิดเป็นร้อยละ 72 และสงสัยพัฒนาการล่าช้า จำนวน 377,253 ราย คิดเป็นร้อยละ 28 ซึ่งในจำนวนที่สงสัยล่าช้าได้มีการส่งต่อไปกระตุ้นพัฒนาการภายใน 30 วัน พบว่า มีพัฒนาการสมวัยร้อยละ 99” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบน อุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศร้อนตอนกลางวัน

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบน อุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศเย็นกับมีหมอกตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และยอดภูอากาศหนาว

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก