เตือน “แม่มือใหม่” ทั่วไทย รีบฝากครรภ์ ป้องกันโรคซิฟิลิสติดลูก

สำนักข่าวไทย 13 ส.ค.-กรมควบคุมโรค เตือนภัยโรคซิฟิลิส ย้ำให้แม่มือใหม่รีบฝากครรภ์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เพื่อป้องกันและรับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เชื้อชนิดนี้ทารกมีโอกาสติดเชื้อจากแม่ได้สูงถึงร้อยละ 60-80

วันนี้ (13 สิงหาคม 2564) นายแพทย์ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญคือ โรคซิฟิลิส( Syphilis) ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเทรโพนีมา พัลลิดัม (Treponema pallidum) เชื้อสามารถถ่ายทอดจากแม่ไปสู่ทารกได้ผ่านทางรก ซึ่งทารกในครรภ์มีโอกาสได้รับเชื้อจากแม่ที่เป็นโรคนี้สูงถึงร้อยละ 60-80 และร้อยละ 40 ของทารกที่ได้รับเชื้อมีโอกาสเสียชีวิตในครรภ์หรือทำให้เกิดการแท้งลูกได้ จึงขอให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนที่มีปีละประมาณ 5 แสนคน ให้รีบไปฝากครรภ์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทุกแห่ง ตั้งแต่เมื่อรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์หรือควรฝากก่อนอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงที่อวัยวะสำคัญของทารกในครรภ์จะสร้างครบสมบูรณ์ทั้งหมด โดยจะมีการตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิส 2 ครั้งฟรี คือ เมื่อฝากครรภ์ครั้งแรก และระหว่างอายุครรภ์ 28-32 สัปดาห์ หากพบว่าติดเชื้อจะได้รับการรักษาทันที ทั้งหญิงตั้งครรภ์และสามีด้วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลทุกแห่งมียารักษาให้หายขาดและไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์


สำหรับเด็กที่ติดโรคซิฟิลิสจากแม่ เรียกว่าโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด จะมีอาการแตกต่างกัน ในช่วงแรกเกิด-2 ปี จะมีผื่นลอกที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ผิวซีด เหลือง ตับม้ามโต กระดูกผิดปกติ บางรายอาจพบการติดเชื้อในระบบประสาทร่วมด้วย จึงต้องรีบพาเด็กเข้ารับการดูแลรักษาโดยเร็วและติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากปล่อยไว้เมื่อเด็กโตขึ้นอาจมีปัญหาหูหนวก จมูกยุบ เพดานปากโหว่ รูปหน้าผิดปกติ เนื่องจากมีความผิดปกติของกระดูก

แพทย์หญิงชีวนันท์ เลิศพิริยสุวัฒน์ ผู้อำนวยการกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ กล่าวว่า จากรายงานทางระบาดวิทยา พบว่าอัตราป่วยโรคซิฟิลิสในประเทศไทยในรอบ 6 ปีมานี้ เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 4 เท่าตัว โดยใน กลุ่มประชาชนทั่วไปพบอัตราป่วย ในปี 2557 จาก 4.4 เพิ่มเป็น 16.4 ต่อประชากรแสนคน ในปี 2563 และพบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 15-24 ปี อัตราป่วย 50.4 ต่อประชากรแสนคน ส่วนในกลุ่มเด็กที่ติดเชื้อซิฟิลิสแต่กำเนิด แนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในปี 2557 มีอัตราป่วยจาก 11.8 เพิ่มเป็น 45.5 ต่อจำนวนเด็กเกิดมีชีพแสนคนในปี 2562 ปัจจัยที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคซิฟิลิสแต่กำเนิด ได้แก่ มารดาอายุน้อยกว่า 25 ปี ร้อยละ 66.5 ไม่มาฝากครรภ์ ร้อยละ 11.3 มาฝากครรภ์ช้า(เกิน 12 สัปดาห์) ร้อยละ 63.8 มาฝากครรภ์ไม่สม่ำเสมอ บางรายเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลเอกชน แต่ไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้รับการส่งต่อเพื่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐ ดังนั้น หน่วยงานสาธารณสุขทุกระดับและทุกภาคส่วน ควรช่วยกันส่งเสริมการป้องกัน เช่น ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะเยาวชนกลุ่มเสี่ยง หญิงตั้งครรภ์และคู่สมรสให้มาฝากครรภ์โดยเร็ว และรับการตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิสและโรคอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น เอชไอวี โรคไวรัสตับอักเสบบี เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว สร้างระบบส่งต่อบริการ การดูแลรักษาระหว่างสถานพยาบาลภาคเอกชนและภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนและเด็กเกิดใหม่ปลอดภัยไร้โรค และลดการระบาดของโรคซิฟิลิสได้


แพทย์หญิงชีวนันท์ กล่าวต่อไปว่า โรคซิฟิลิสนี้ ยังสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรงทางบาดแผลได้เช่นกัน อาการของผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อในระยะแรก จะมีตุ่มขึ้นที่บริเวณอวัยวะเพศ ลิ้น ริมฝีปาก ต่อมาตุ่มจะแตกเป็นแผล โดยลักษณะของแผลจากโรคซิฟิลิสจะแตกต่างจากแผลทั่วไป คือ ขอบแผลจะแข็ง ดูสะอาด และไม่เจ็บ จะหายไปได้เอง ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อคิดว่าไม่เป็นอะไร จึงไม่เข้ารับการรักษา เชื้อจะเข้าไปอยู่ที่ต่อมน้ำเหลืองและเข้าสู่กระแสเลือด ถ่ายทอดเชื้อสู่คนอื่นได้ เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย

ทั้งนี้ หากประชาชนมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือมีอาการสงสัยอาจเป็นโรคซิฟิลิส สามารถเข้ารับบริการตรวจรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง และสถาบันการแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค สอบถามเพิ่มเติมได้ที่กองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โทร.0 2590 3241 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]