กรุงเทพฯ 11 ส.ค.-กระทรวงสาธารณสุขกำชับเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างจังหวัดให้ครอบคลุมมากขึ้น ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ตั้งเป้าฉีดในจังหวัดสีแดงเข้มให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 7 โรคเสี่ยง หญิงตั้งครรภ์ ทั้งชาวไทยและต่างชาติ และ อสม.
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยตั้งแต่เดือนสิงหาคมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เน้นฉีดให้กับกลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง โดยให้ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพต่างๆ สำรวจและติดตามแผนการฉีดวัคซีนของแต่ละจังหวัดในเขตสุขภาพ เพื่อให้กรมควบคุมโรคจัดสรรวัคซีนให้ตามคำขอ กำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนสีแดงเข้มให้ได้ร้อยละ 70 ของประชากรเป้าหมาย ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ครอบคลุมร้อยละ 50 เน้นผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์ ทั้งชาวไทย และต่างชาติที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน รวมถึงกลุ่ม อสม. ซึ่งได้มอบหมายให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้บริหารจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชน
ขณะที่แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต ย้ำความมั่นใจกับผู้ที่ได้คิวฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่าสถานการณ์ตอนนี้การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน การตื่นตัวเป็นเรื่องสำคัญมาก มองว่าความกลัวและกังวลเป็นเรื่องปกติ ทั้งก่อนฉีดวัคซีนหรือแม้ไปฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม ส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลที่ได้รับเรื่องการฉีดวัคซีนและกังวลว่าจะเกิดอาการข้างเคียงหรือไม่ แต่ที่สำคัญที่สุดต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจก่อนไปฉีดวัคซีน เพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะการพักผ่อนให้เพียงพอก่อนไปฉีดวัคซีน
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า เมื่อไปถึงจุดที่ฉีดวัคซีนระหว่างรอการฉีดวัคซีนเป็นอีกส่วนที่มีความสำคัญ ผ่อนคลายตนเองด้วยการทำกิจกรรมต่าง ๆ อ่านหนังสือ ดูวิดีโอแนะนำความรู้ จะช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์ขณะฉีดวัคซีน.-สำนักข่าวไทย