ปลัด สธ. กำชับเร่งฉีดวัคซีนโควิดให้ผู้สูงอายุ – กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง

กรุงเทพฯ 2 ก.ค.- ปลัดกระทรวงสาธารณสุขประชุมทางไกลกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน ให้เร่งฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง สื่อสารประชาชนให้ป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่บ้าน ป้องการแพร่เชื้อในครอบครัว

วันนี้ (2 กรกฎาคม 2564) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอ (Web Conference) กับผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ


นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวว่า ในวันนี้ ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/ โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชน บริหารจัดการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนตามที่ได้รับจัดสรรอย่างเหมาะสม โดยเน้นในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เพื่อป้องกันการป่วยที่รุนแรงและการเสียชีวิต นอกเหนือจากกลุ่มนี้แล้วให้พิจารณาในกลุ่มที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม ครู พระสงฆ์ และผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 ซึ่งในเดือนกรกฎาคม กระทรวงสาธารณสุขจัดหาวัคซีนได้กว่า 10 ล้านโดส กระจายไปสัปดาห์ละประมาณ 2.5 ล้านโดส เมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนแล้ว ให้เร่งรัดการฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยเร็ว วัคซีนที่ภาครัฐจัดสรรให้กับประชาชนคือวัคซีนที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน องค์การอนามัยโลกให้การรับรอง ทั้งแอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค และยังได้ทำการเจรจากับ ไฟเซอร์ สปุตนิก และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการฉีด

นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด ช่วงนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานครมากกว่าร้อยละ 50 ที่เหลือจากปริมณฑล ขณะนี้พบการติดเชื้อในครอบครัว ชุมชนเพิ่มมากขึ้น จากการสัมผัสใกล้ชิด รับประทานอาหารร่วมกัน ขอให้สื่อสารไปยังประชาชนในพื้นที่เพิ่มความระมัดระวังตนเองและคนในครอบครัว สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อออกจากบ้าน และขณะอยู่ในบ้านร่วมกับสมาชิก


ในครอบครัว แยกสำรับอาหาร เว้นระยะห่าง ไม่สัมผัสใกล้ชิดกัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อในครอบครัว แต่สามารถถอดหน้ากากได้ในครอบครัวที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้ว สำหรับบริษัท สำนักงานให้เข้มมาตรการองค์กร ซึ่งมีจุดเสี่ยงสำคัญคือการรับประทานอาหารร่วมกัน และให้เตรียมแผนการใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อกำหนดรูปแบบที่เหมาะสมในการควบคุมโรคแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ให้ทุกจังหวัดจัดทำแผนเตรียมความพร้อมภาคสาธารณสุขในการเปิดจังหวัดตามนโยบายเปิดประเทศใน 120 วันของรัฐบาล ซึ่งต้องพิจารณาสถานการณ์และความพร้อม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง