กทม.12มี.ค.- บุรีรัมย์ ประกาศความพร้อมจัดงานสงกรานต์บุรีรัมย์ 2564 วิถีใหม่ สาดแสง สาดสี สาดของดี บุรีรัมย์ แต่ไม่สาดน้ำ ต้นแบบสงกรานต์วิถีใหม่ พลิกฟื้นเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ จัดเทศกาล อะเมซิ่ง สงกรานต์บุรีรัมย์ สุดยอดงานสงกรานต์แนวคิดใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ปลอดภัยที่สุด และสนุกสนานที่สุด ภายใต้คอนเซ็ปต์ สาดแสง สาดสี สาดของดี บุรีรัมย์ แต่ไม่สาดน้ำ ตื่นตาตื่นใจไปกับมหกรรมคอนเสิร์ตศิลปินดัง ความบันเทิงทุก และ บุรีรัมย์มาราธอน ในรูปแบบไนท์รัน ประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ตลอดระยะทาง 4.4 กม. และ อุโมงค์ไฟระย้าหลากสีที่ยาวที่สุดด้วยดวงไฟกว่า 2 ล้านดวง สุดอลังการครั้งแรกในบุรีรัมย์ และตลอดงานนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปอาหารของดีเมืองบุรีรัมย์อย่างเต็มอิ่ม Street Food Festival และยังคงประเพณีอันงดงาม กับกิจกรรมรดน้ำดำหัว เป็นกิจกรรมเดียวที่จะใช้น้ำตลอด 10 วันเต็ม ตั้งแต่วันที่ 6-15 เม.ย.64 ณ จ.บุรีรัมย์ โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการแถลงข่าว พร้อมด้วย นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ,นายสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมในการแถลงข่าวความพร้อมจัดงาน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทยบอบช้ำอย่างหนัก ซึ่งหลังจากสถานการณเริ่มคลี่คลาย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้เตรียมแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นที่การให้การสนับสนุนกับกิจกรรมใหญ่ๆ ที่จะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนงาน สงกรานต์บุรีรัมย์ ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นงานอีเว้นท์ใหญ่ที่จะทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดบุรีรัมย์ และภูมิภาคนี้ ทั้งยังสร้างความมั่นใจให้แก่คนทั้งประเทศในด้านการท่องเที่ยว และเป็นต้นแบบให้กับหลายๆ จังหวัด ในการนำไปฟื้นฟูเศรษฐกิจภายในจังหวัดอย่างมั่นคง งานนี้จึงถือเป็นหนึ่งในแผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ทางภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมกันสนับสนุน เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ มีความปลอดภัย ภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่เข้มข้น
คาดว่า 10 ของการจัดงาน จะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้าร่วมงานในพื้นที่ได้ไม่น้อยกว่า 400,000 คน และเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า กว่า 2,000 ล้านบาท อัตราการใช้จ่ายเฉลี่ย 2,200 และ ระยะเวลาพำนักเฉลี่ย 2.2 วัน/ทริป สร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้พี่น้องประชาชนชาวไทยสามารถผ่านพ้นวิกฤติการณ์ครั้งนี้ไปได้อย่างรวดเร็วและร่วมกิจกรรมปีใหม่ไทยในพื้นที่ต่างๆ อย่างมีความสุข มีความปลอดภัย
ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ความพร้อมของการจัดงาน เราได้ประสานงานใกล้ชิดกับทางสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ในการวางมาตรการดูแลโควิด 19 อย่างเข้มข้น จัดส่งเจ้าหน้าที่มาประจำตามจุดคัดกรอง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารคอยดูแลความปลอดภัยตลอดทั้งงาน
ขณะที่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ ได้วางมาตรการในการคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างเข้มงวด โดยเราได้เตรียมเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในจำนวนที่มากเพียงพอ สำหรับทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิและคัดกรองในทุกๆ จุดเข้าและออกของงาน ซึ่งหากผ่านเกณฑ์ความเสี่ยง ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับการติดสติ๊กเกอร์เป็นหลักฐานยืนยันให้เข้าไปยังบริเวณพื้นที่ของการจัดงานได้ อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เราได้กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ต้องทำการกักตัว 14 วัน หรือขอให้ตรวจ Rapid Test ที่ รพ.บุรีรัมย์ ก่อน โดยนักท่องเที่ยวต้องชำระค่าตรวจคนละ 600 บาท และจะทราบผลภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งหากผลออกมาเป็นลบ ก็จะไม่ต้องกักตัวและสามารถเข้าร่วมงานได้ทันที
ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สโมสรฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวว่า สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นความพยายามอย่างยิ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นอีกครั้ง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภายในมาตรการด้านสาธารณสุขที่เข้มข้นและมีมาตรฐาน เราจะสามารถเป็นต้นแบบในการจัดงานขนาดใหญ่ ที่จะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง จากการร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้งานนี้ไม่มีค่าบัตรเข้าชม แต่ประชาชนทุกคนที่เข้างานจะต้องมีบัตรผ่านเป็นหน้ากากอนามัย และสวมหน้ากากตลอดการร่วมงาน ซึ่งกิจกรรมที่มีการใช้นำ มีเพียงอย่างเดียว คือ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และจะประเดิมกิจกรรมด้วยการทำบุญเบิกบ้าน ลูกหลานรัชกาลที่ 1 ในวันที่ 6 เม.ย.64 ณ บริเวณหน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 1 พิธีเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์ 2,564 รูป เพื่อเป็นสิริมงคล ต่อเนื่องด้วยพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ในช่วงค่ำ ณ ลานหน้าช้าง อารีนา เชื่อว่าด้วยศักยภาพของเราชาวบุรีรัมย์ เราจะสามารถเป็นเจ้าบ้านที่ดีได้ และนักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานในครั้งนี้ เชื่อว่าจะได้รับความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน .-สำนักข่าวไทย