พระดำรัสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ร.9

กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.-สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563


“อภิลักขิตสมัยคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง ทางราชการได้กำหนดให้เป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย จึงควรที่เราทั้งหลายผู้อาศัยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมเป็นที่พึ่ง จักพึงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และบำเพ็ญคุณงามความดี อุทิศถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระองค์ผู้ทรงเปรียบประดุจบิดาแห่งอาณาประชาราษฎร

ราชธรรม 10 ประการที่เรียกกันว่า ‘ทศพิธราชธรรม’ อันเป็นธรรมะสำหรับพระราชาหรือผู้เป็นใหญ่นั้น แท้จริงแล้ว ย่อมเป็นธรรมซึ่งสาธารณะสำหรับบุคคลทั่วไป คนไทยทุกคนควรจะได้ศึกษาใคร่ครวญโดยตลอด แล้วน้อมนำมาเป็นแบบอย่างทางประพฤติสำหรับตน เพื่อยังผลให้สามารถเข้าใจกระจ่าง จนซาบซึ้งแน่นแฟ้น ไม่มีวันจะคลอนแคลนศรัทธา ที่มีต่อพระราชจริยาสัมมาปฏิบัติของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่น ในอันที่จะทรงสร้างสรรค์ความผาสุกร่มเย็นให้แก่พสกนิกรภายใต้พระบรมโพธิสมภารอันร่มเย็น ตลอด 70 ปีแห่งการดำรงสิริราชสมบัติ


ธรรมประการแรกในทศพิธราชธรรม ซึ่งพึงหยิบยกมาพิจารณาให้ถี่ถ้วนนั้นได้แก่ ‘ทาน’ แปลว่า ‘การให้’ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นั้น ทรงมั่นคงในการบำเพ็ญทานสำคัญยิ่งยวดประการหนึ่ง กล่าวคือ ‘อภัยทาน’ หมายถึง การสละอารมณ์โกรธ ไม่จองเวร ตัดความพยาบาทให้ขาดออกจากใจ เป็นการเจริญเมตตาพรหมวิหารไว้เสมอ

พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชอภัยทาน ก็ด้วยเหตุที่มีพระขันติคุณ และพระมหากรุณาธิคุณล้นเหลือ เมื่อมีผู้กระทำหรือคิดบั่นทอนกำลังพระราชหฤทัย ในการสร้างสรรค์พระราชกรณียกิจด้วยน้ำพระราชหฤทัยบริสุทธิ์ ก็มิทรงหยุด มิทรงท้อถอย มิทรงระงับยับยั้ง ที่จะทรงยังประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม เหตุฉะนี้จึงทรงดำรงพระองค์อยู่อย่างสง่างามในการสั่งสมพระบารมีธรรม

เราทั้งหลายผู้เป็นไทย จึงควรเจริญรอยตามพระราชจริยาในรัชกาลที่ ๙ ด้วยการบำเพ็ญอภัยทานแก่กันและกันอย่างไม่มีประมาณ ขอเราทั้งหลายจงคิดแต่ในทางสร้างสรรค์ ที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลกัน เจรจากันด้วยเหตุผล อดทนอดกลั้นแม้มีความคิดเห็นแตกต่าง สรรค์สร้างคุณสมบัติของความเป็นผู้มีเมตตาอันเป็นประตูไปสู่ความเข้าอกเข้าใจกัน พร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ด้วยปณิธานมุ่งมั่นเพื่อประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนตน ซึ่งจะอำนวยผลเป็นความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมืองไทย สมพระบรมราชปณิธานในรัชกาลที่ 9 และสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ


ขออานุภาพแห่งคุณความดีที่สาธุชนทั้งหลายได้ร่วมกันบำเพ็ญ จงสำเร็จเป็นทิพยสุขแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเป็นเครื่องพิทักษ์รักษาคุ้มครองประชาชาติไทยให้ประสบความเกษมสุขสวัสดี มีกำลังพรั่งพร้อมในอันที่จะทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยให้วัฒนาสถาพรสืบไป ตลอดกาลนาน เทอญ.” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง