อย่าแชร์ “ลานีญา”กระทบหนาวกว่าปกติ

กรุงเทพฯ 26 พ.ย.-เตือนอย่าแชร์ปรากฎการณ์ลานีญาอากาศจะหนาวกว่าค่าปกติในช่วง ธ.ค.63- ม.ค.64 ตั้งแต่ช่วงนี้ถึง ม.ค.64 อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศมีแนวโน้มใกล้เคียงกับค่าปกติ ไม่ได้ส่งผลให้เกิดอากาศหนาวกว่าค่าปกติแต่อย่างใด


ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) แจ้งเตือนผ่านไลน์แอปพลิเคชัน ว่า ตามที่มีข้อความเตือนภัยถึงเรื่องปรากฎการณ์ลานีญา อากาศจะหนาวกว่าค่าปกติในช่วงธันวาคม 2563 ถึงมกราคม 2564 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีการเตือนภัยเรื่องสภาพอากาศ ที่ระบุว่าเตรียมรับลมหนาวมากกว่าค่าปกติ ส่วนปี64 ฝนมากกว่าปกติ ทางกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงว่าเป็นการนำเสนอข้อมูลที่เกินความจริง เนื่องจากอุณหภูมิผิวน้ำทะเล และระบบการหมุนเวียนบรรยากาศบริเวณตอนกลางและด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรมีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องมา จนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2563


ประกอบกับเมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติ และแบบจำลองเชิงพลวัตแล้ว คาดว่าปรากฏการณ์ ENSO ที่มีสถานะเป็นลานีญาจะต่อเนื่องต่อไปจนถึงต้นปี 2564 โดยมีแนวโน้มที่จะกำลังแรงที่สุด ระดับลานีญากำลังปานกลาง ในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2564 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงและมีความน่าจะเป็นร้อยละ 65 ที่จะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเดือน มีนาคม-พฤษภาคม 2564 ปรากฎการณ์ลานีญาจะส่งผลต่อสภาวะอากาศของประเทศไทย

โดยคาดว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563ถึงเดือนมกราคม 2564 ปริมาณฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีค่าสูงกว่าค่าปกติเพียง10 % ส่วนบริเวณภาคใต้ปริมาณฝนจะสูงกว่าค่าปกติ 20% ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยมีแนวโน้มใกล้เคียงกับค่าปกติ ไม่ได้ส่งผลให้เกิดอากาศหนาวกว่าค่าปกติแต่อย่างใด

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าวและขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือโทร. 1182


บทสรุปของเรื่องนี้คือปรากฎการณ์ลานีญาจะส่งผลต่อสภาวะอากาศของประเทศไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ถึงเดือนมกราคม 2564 ปริมาณฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีค่าสูงกว่าค่าปกติเพียง 10 % ส่วนบริเวณภาคใต้ปริมาณฝนจะสูงกว่าค่าปกติ 20% ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยนั้นมีแนวโน้มใกล้เคียงกับค่าปกติ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”