ผอ.นิติฯ สรุป “พลทหารพิชวัฒน์” เสียชีวิตจากแขวนคอ

กรุงเทพฯ10 พ.ย.-ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เผยผลสรุปพลทหาร พิชวัฒน์เสียชีวิตจากเหตุแขวนคอ ไม่พบรอยฟกช้ำ บาดแผลจากร่างกาย ระหว่างตรวจพลิกศพมารดาร่วมสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด รับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว


พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงผลการชันสูตรพลิกศพพลทหาร พิชวัฒน์ เวียงนนท์ อายุ 22 ปี ซึ่งถูกส่งร่างจาก จ.ร้อยเอ็ด เข้าตรวจพิสูจน์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ว่า ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้รับร่างของพลทหารพิชวัฒน์ เมื่อเวลา 07.50 น. ของวันที่ 8 พฤศจิกายน ซึ่งสภาพศพนั้นแช่แข็งมาเป็นอย่างดี ไม่พบการเน่าเปื่อยตามที่เป็นข่าว ซึ่งสถาบันฯ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คือ น.พ.ชัยธวัช หาญคุณากร และ น.พ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ ร่วมตรวจผ่าชันสูตรศพพลทหารพิชวัฒน์ โดยมีมารดาและญาติ เข้าสังเกตการณ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด

สำหรับรายงานผลชันสูตร ระบุว่า ไม่พบการบาดเจ็บภายในลำคอ หรือกล่องเสียง ขณะที่สภาพร่างกายไม่พบรอยฟกช้ำ หรือร่องรอยการบาดเจ็บภายนอก ทำให้แพทย์ลงความเห็นว่า การกดรัดจากการแขวนคอ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต อย่างไรตามเมื่อได้ผลการพิสูจน์แล้ว เมื่อเวลา 8.30 น.วันนี้ (10 พ.ย.) มารดาของพลทหารพิชวัฒน์ได้รับร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว


พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า การเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ซึ่งปรากฎเป็นข่าวว่า ญาติของพลทหารพิชวัฒน์ติดใจการเสียชีวิต สภาพศพเน่าและพบข้อโต้แย้งเรื่องสถานที่ผ่าพิสูจน์พลิกศพนั้น ในรายละเอียดคือพลทหาร พิชวัฒน์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน และทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รับร่างเพื่อผ่าพิสูจน์ วันที่ 8 พฤศจิกายน โดยสภาพศพเมื่อมาถึงสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สภาพสด ไม่เน่า เพราะมีกระบวนการแช่งแข็งอย่างดี ทั้งนี้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะเป็นหน่วยงานที่รับร่างเพื่อผ่าพิสูจน์ แต่เมื่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ประสานเข้ามา ต้องพร้อมให้บริการและการตรวจสอบนั้น เป็นไปตามมาตรฐานและอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย

“แม่ผู้ตายและญาติเข้าไปดูการผ่าพิสูจน์อย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ได้ตรวจสอบสิ่งที่แม่พลทหารพิชวัฒน์ติดใจ เช่น การถูกซ้อมที่บริเวณหลัง ซึ่งการเข้าสังเกตการณ์ของแพทย์นั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ เพื่อให้การตรวจพิสูจน์ของทีมแพทย์ได้รับความเชื่อถือ และเกิดความโปร่งใส ซึ่งที่ผ่านมาเคยมีคดีที่ญาติและผู้ใกล้ชิดของผู้เสียชีวิตเคยเข้าสังเกตการณ์การผ่าพลิกศพ แล้ว สมัยคดีของนายห้างทอง ธรรมวัฒนะ” พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าว

ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบของสถาบันฯ ยังมีรายละเอียดที่ต้องรอผลการตรวจสอบทางพยาธิ และทางเคมี อื่นๆ อีกประมาณ 6-8 สัปดาห์ เช่น ดีเอ็นเอ, สารในร่างกาย ซึ่งตรวจได้จากน้ำในลูกตา, ปัสสาวระ, อาหารในกระเพาะอาหาร , เส้นขน, เส้นผม และส่งชิ้นเนื้อตรวจสอบ โดยต้องใช้เวลาเพื่อให้ได้ผลตรวจสอบที่แม่นยำ และเป็นไปตามมาตรฐานสากล


อย่างไรก็ตามผลการตรวจสอบของทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถสรุปหรือยืนยันถึงเหตุการณ์เสียชีวิตที่เกิดขึ้นตามที่มีหลายฝ่าย ตั้งคำถามว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นก่อน หรือ ถูกวางยาก่อนแขวนคอ หรือนำผลของแพทย์ชี้ว่าใครกระทำความผิดหรือเป็นการกระทำความผิดของใครได้ เนื่องจากเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะนำรายละเอียดไปดำเนินการสอบสวนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงถึงการเสียชีวิต ซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันถึงการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางเพื่ออำนวยความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน