ฮวาเหลียน, ไต้หวัน, 25 ก.ย. – ไต้หวันยังคงค้นหาผู้สูญหาย 22 ราย ในวันพฤหัสบดี หลังซูเปอร์ไต้ฝุ่น “รากาซา” (Ragasa) ที่พัดถล่มทำให้เกิดน้ำท่วมล้นทะเลสาบสันดอนกั้นที่อยู่เหนือเมืองเล็ก ๆ บนชายฝั่งตะวันออกที่ห่างไกล โดยภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุเกินกว่าที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำให้อพยพขึ้นไปอยู่บนชั้นสองของบ้าน
จำนวนผู้เสียชีวิตในไต้หวันถูกปรับลดลงจาก 17 ราย เหลือ 14 ราย หลังเกิดฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุรากาซาในเทศมณฑลฮวาเหลียน ทำให้ทะเลสาบสันดอนกั้นที่บนภูเขามีน้ำล้นทะลักและปล่อยปริมาณน้ำขนาดมหาศาลเข้าท่วมเมืองกว่างฟู่ (Guangfu) รัฐบาลยังปรับลดจำนวนผู้สูญหายจาก 33 ราย เหลือ 22 ราย เนื่องจากสามารถติดตามตัวผู้คนได้มากขึ้น
ตามปกติแล้ว ไต้หวันมีแผนการอพยพที่ซักซ้อมมาอย่างดีก่อนเกิดพายุไต้ฝุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภูเขาและชายฝั่งตะวันออกที่มีประชากรเบาบาง ซึ่งช่วยจำกัดจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายได้ แต่จำนวนผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามว่าคำสั่งให้อพยพจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบนนั้นเหมาะสมหรือไม่ และมีสิ่งใดบ้างที่สามารถทำแตกต่างไปจากเดิมได้
นายกรัฐมนตรีโช จุง-ไถ (Cho Jung-tai) กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดีว่า นอกเหนือจากการไว้อาลัยเหยื่อผูัเสียชีวิตแล้ว รัฐบาลต้องสืบสวนสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ชั้นหนึ่งของบ้านพักอาศัย การหาความกระจ่างในเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปรับปรุงระเบียบปฏิบัติการอพยพในอนาคต
พื้นที่ชนบทหลายแห่งของไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางตะวันออก มีประชากรสูงอายุจำนวนมาก เนื่องจากคนหนุ่มสาวได้ย้ายเข้าเมืองเพื่อหางานที่ดีกว่า นายหลิน จุง-หลู่ (Lin Jung-lu) เจ้าหน้าที่ของฮวาเหลียน บอกกับรอยเตอร์ว่า ผู้สูงอายุที่มีความพิการเป็นกลุ่มที่เสียชีวิตมากที่สุด หลายคนถูกพบในชั้นหนึ่งของบ้าน บุคคลเหล่านี้เดินเหินได้ลำบาก
นายฉาง จื้อ-ซุง (Chang Chih-hsiung) ตัวแทนเยาวชนของชนเผ่าพื้นเมือง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในฮวาเหลียนกล่าวว่า ช่องว่างทางดิจิทัลและการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุบางคนไม่อพยพ เขากล่าวว่า บางคนไม่คุ้นเคยกับการใช้โทรศัพท์มือถือ หัวหน้าหมู่บ้านได้จัดประชุมชี้แจงแล้ว แต่ผู้คนก็ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้จนกระทั่งมันเกิดขึ้นจริง
สถานีรถไฟกว่างฟู่กลับมาให้บริการแล้ว แต่ทางหลวงสายหลักยังถูกตัดขาดหลังจากกระแสน้ำท่วมพัดสะพานขาด แม้ฝนจะหยุดตกแล้ว แต่รัฐบาลยังคงแจ้งเตือนเขื่อนกั้นน้ำในพื้นที่ภูเขาห่างไกลเบื้องหลังกว่างฟู่
ปัญหายุ่งยากเกี่ยวกับวิธีการจัดการกับทะเลสาบสันดอนกั้นที่แม้จะมีขนาดเล็กลงแล้ว แต่ยังคงต้องป้องกันไม่ให้เกิดภัยพิบัติซ้ำรอย นายเฉิน จุนเน-จือ (Chen Junne-jih) รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรกล่าวว่า การใช้ระเบิดเพื่อทำลายตลิ่งที่กั้นทะเลสาบนั้นอันตรายเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดดินถล่มมากขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย