รัฐบาลเผยผลงานการปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน

สำนักข่าวไทย ๘ ต.ค.- รัฐบาลเผยรายงานผลการดำเนินงาน ๑ ปี ในการปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่องของรัฐบาล ตัวอย่างผลงานสำคัญของกระทรวงต่างๆ ดังนี้

สำนักนายกรัฐมนตรี/สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  ติดตามการดำเนินงานของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ติดตามประเมินผล การถ่ายโอนภารกิจ การดูแลผู้สูงอายุให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงกลาโหม   โครงการพัฒนาระบบการให้บริการ โรงพยาบาลของเหล่าทัพ/ โครงการข้าราชการพลเรือนกลาโหม


กระทรวงการคลัง ๑) การใหความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  บรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา ตั้งแต่เดือน ต.ค. ๒๕๖๒ – ก.ย. ๒๕๖๓ ช่วยค่าไฟฟ้าไม่เกิน ๒๓๐ บาท/คน/เดือน และค่าน้ำประปาไม่เกิน ๑๐๐ บาท/คน/เดือน   ชําระราค่าสินค้าอุปโภคและบริโภคผ่านเครื่อง EDC ซึ่งระบบจะแยกยอดภาษีมูลคาเพิ่มรอยละ ๗ ออกจากราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และจะนําเงินร้อยละ ๕ มาจ่ายชดเชยผ่านช่อง e-Money โดยไม่เกินจํานวน ๕๐๐ บาท/คน/เดือน  เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ผ่านกองทุนผูสูงอายุ โดยมีแหล่งเงินเข้ากองทุน คือ ภาษีสุราและยาสูบ ในอัตราร้อยละ ๒ ของภาษีที่เก็บ สำหรับโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผูสูงอายุ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ ม.ค. ๒๕๖๑ – ๓๐ มิ.ย. ๒๕๖๓ มียอดเงินจากภาษีสุราและยาสูบเข้าบัญชี กองทุนฯ ทั้งสิ้น ๙,๔๐๑ ล้านบาท โดยได้จ่ายเงินช่วยเหลือแล้วประมาณ ๙,๒๕๕ ล้านบาท จำนวนกว่า ๔.๖๘ ล้านคน สำหรับโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ มียอดบริจาคเข้ากองทุนฯ แล้ว ๑๐.๓ ล้านบาท  ๒) รางพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายบําเหน็จบํานาญแห่งชาติ พ.ศ. ….(ราง พ.ร.บ.คนบ.) และ ๓) ร่างพระราชบัญญัติกองทุนบําเหน็จบํานาญแหงชาติ พ.ศ. …. (ร่าง พ.ร.บ. กบช.)   อยู่ระหว่างดําเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นตั้งแต่วันที่ ๒๙ ก.ค. – ๒๑ ส.ค. ๒๕๖๓ ก่อนนําเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

กระทรวงมหาดไทย ๑) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกรุงเทพมหานคร จำนวน ๕๘๒,๑๙๗ คน   การพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีผู้เข้าร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับฝึกอาชีพในด้านต่างๆ เสร็จสิ้นโครงการ จำนวน ๓,๔๒๗,๓๓๑ คน ๒) เบี้ยยังชีพ “ผู้สูงอายุ” “คนพิการ” ผู้มีรายได้น้อย ขยายสิทธิกลุ่ม “มารดาตั้งครรภ์” “เด็กแรกเกิด” “เด็กวัยเรียน”  กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนรัฐบาลเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน ๘๙๒,๑๑๗ ราย งบประมาณ ๖,๙๙๒,๘๖๓,๒๐๐- บาท และได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนรัฐบาลสนับสนุนสงเคราะห์เบี้ยความพิการ จำนวนผู้พิการ ๙๗,๕๑๐ ราย งบประมาณ ๙๓๖,๐๙๖,๐๐๐บาท ๓) ลดความเหลื่อมล้ำของ “คุณภาพการบริการสุขภาพ” ทั้งระบบ พัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และสนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน   (อสม.) เพื่อนำไปสู่การให้บริการการรักษาพยาบาลที่ดีแก่พี่น้องประชาชน ให้เบิกจ่ายเป็นรายเดือนในอัตรา ๑,๐๐๐ บาท ต่อคน                                                                                            


กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปรับเพิ่มสวัสดิการเบี้ยความพิการ ตั้งแต่ ๑ ต.ค. ๖๓ เป็นต้นไป รวมถึงเด็กพิการทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี ได้รับการปรับเพิ่มเบี้ยความพิการจาก ๘๐๐ บาท เป็น ๑,๐๐๐ บาท

กระทรวงพาณิชย์  ดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ลดภาระค่าครองชีพ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการให้นำสินค้ามาจำหน่ายในร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น มีร้านค้าให้บริการผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน ๙๑,๔๙๙ ร้านค้า เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๖๐ – ๓๑ พฤษภาคม ๖๓ รวมทั้งสิ้น ๑๑๓,๐๑๖ ล้านบาท

กระทรวงคมนาคม การพัฒนาระบบตั๋วร่วม แบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานคร ศรีรัช และอุดรรัถยาในวันหยุดราชการประจำปี รวม ๑๙ วัน ผลักดันการดำเนินมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารสูงสุด ๒๐ บาท ในทุกช่วงเวลา (เดิมอัตราสูงสุด ๔๒ บาท) โดยมีอัตราแรกเข้า ๑๔ บาท ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงร้อยละ ๕๒.๓๘ ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ และกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สูงสุดที่ ๒๕ บาท นอกช่วงเวลาเร่งด่วน (จากเดิม ๔๕ บาท) โดยมีอัตราแรกเข้า ๑๕ บาท ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายลงร้อยละ ๔๔.๔๕ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ มีนาคม – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ เพิ่มการขับขี่รถยนต์คล่องตัวและปลอดภัย สามารถใช้ความเร็วได้สูงสุด ๑๒๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง ปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ ๔ ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน ๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน ๑๒๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด บูรณาการการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองร่วมกับทางรถไฟ


กระทรวงแรงงาน ๑. การให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนมาตรา ๓๓ มาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐ ได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้กฎหมายประกันสังคม จำนวน ๑๖.๓๒ ล้านคน   (ณ ๓๑ กรกฎาคม ๖๓) เป็นเงินทั้งสิ้น ๙๖,๙๒๓.๘๖ ล้านบาท  ๒. สำนักงานประกันสังคม ดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่นายจ้างและผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19  ๑) ลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างจากเดิมร้อยละ ๕  เหลือร้อยละ  ๔   ๒) ผู้ประกันตน ตามมาตรา ๓๓ จากเดิมร้อยละ ๕  เหลือร้อยละ๑  ๓) ผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ จากเดิมร้อยละ ๙ เหลือร้อยละ ๑.๘ เป็นเงิน ๘๖ บาทต่อเดือน ขยายลดอัตราเงินสมทบ และนายจ้าง ผู้ประกันตน มาตรา ๓๓  คงเหลือฝ่ายละ ร้อยละ ๒  และผู้ประกันตนมาตรา ๓๙  คงเหลือเป็นเงิน ๙๖ บาทต่อเดือน ๓ เดือน (ส.ค. – ต.ค. ๖๓) ขยายเวลานำส่งเงินสมทบ ออกไป ๓ เดือน  ๓. โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงิน ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ให้แก่ สถานประกอบการ โดยสำนักงานประกันสังคมจะสนับสนุนเงินฝากเพื่อให้ธนาคาร นำไปปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ ๓% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และ ดอกเบี้ยคงที่ ๕% ต่อปี กรณีไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยสถานประกอบการที่จะยื่นกู้ได้ต้องขึ้นทะเบียนประกันสังคมมาแล้ว ไม่น้อยกว่า ๓ เดือน และต้องรักษาสถานภาพการจ้างงานผู้ประกันตน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ เป็นระยะเวลา ๓ ปี สามารถ ยื่นกู้ได้ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ 

กระทรวงสาธารณสุข การลดความเหลื่อมล้ำของคุณภาพการบริการสุขภาพ ๑ เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิ์ทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients: UCEP)  ๒ การเพิ่มการเข้าถึงบริการรักษาพยาบาลโดยการจัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายบริการปฐมภูมิ โดยมีการจัดตั้งหน่วยบริการปฐมภูมิและเครือข่ายแล้ว จำนวน 1,112 แห่ง ทั่วทุกภาคของประเทศ ครอบคลุมการดูแลประชาชนกว่า 12 ล้านคน ๓ สร้างหลักประกันสุขภาพให้แก่ประชาชนคนไทย  สนับสนุนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)  ศอ บต.  “บริการ ณ จุดเดียว” เช่น ศูนย์ประสานงานและบริการการพัฒนาแบบเบ็ดเสร็จ จชต., ศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในพื้นที่ จชต. และ ศูนย์ประสานงานด้านเด็กและสตรีใน จชต.  เปิดให้บริการที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต