กรุงเทพฯ 22 ก.ย.- GISTDA จับมือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศร่วมพัฒนาพื้นที่และสวัสดิการแรงงานไทย
วันอังคารที่ 22 กันยายน 2563 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA จับมือกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ภายใต้กระทรวงแรงงาน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมการใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเพื่อการพัฒนาพื้นที่และสวัสดิการแรงงานอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุม 1 GISTDA อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 7 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพมหานคร
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการความร่วมมือ เพื่อเชื่อมโยง ข้อมูล องค์ความรู้หลากหลายแขนง รวมถึงเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยลดความยากจนและความเหลื่อมล้ำภายในสังคมของประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานเชิงพื้นที่ ตลอดจนเพื่อใช้ในวางแผนบริหารจัดและการพัฒนาศักยภาพแรงงาน การแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของกลุ่มแรงงานได้อย่างเหมาะสม ให้สามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วภายหลังวิกฤติโควิด-19
ทั้งนี้ GISTDA และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มีการหารือและวางแผนการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดาวเทียม และภูมิสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ทั้งในด้านการชี้เป้าตำแหน่งที่ตั้งโรงงานประเภทต่างๆ การบริหารจัดการแรงงานในพื้นที่ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร จำนวนแรงงานทั้งที่อยู่ในระบบและนอกระบบ ตลอดจนประเด็นปัญหาเชิงพื้นที่ต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นการร่วมมือเพื่อนำไปสู่การพัฒนาแพลตฟอร์ม ที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไปในอนาคต
ทางด้านนายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ภายใต้นโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาการว่างงาน และมาตรการช่วยเหลือแรงงานไทย ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานทั้งในและนอกระบบนั้น การใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่ได้ร่วมมือกับทาง GISTDA แผนงาน โครงการและกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไป ทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมใช้ข้อมูล องค์ความรู้ เทคโนโลยี พัฒนาเครื่องมือ นวัตกรรม ที่จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยในการทำงาน เสริมสร้างภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาการทำงานที่มีคุณค่าในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป.-สำนักข่าวไทย