จ.เลย พัฒนา-เปิดท่องเที่ยววิถีใหม่ รับการท่องเที่ยวปลายปี

เลย 18 ก.ย. – แหล่งท่องเที่ยวใน อ.ภูเรือ จ.เลย พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวตามแบบวิถีใหม่ในหลากหลายกิจกรรม ขณะที่ ททท.เลย ชวนชาวบ้านและนักท่องเที่ยวร่วมกันปลูกต้นกระดุมทองริมน้ำโขง รอวันบานเหลืองอร่ามต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย ร่วมกับหอการค้าจังหวัดเลย และเทศบาลตำบลเชียงคาน จัดกิจกรรมปลูกต้นกระดุมทอง และเก็บขยะ บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำโขง ถนนคนเดิน อ.เชียงคาน เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม รอต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวนี้

น.ส.ธนวัน กาสี ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานเลย กล่าวว่า การปลูกดอกไม้ครั้งนี้จะสร้างภูมิทัศน์ที่สวยงามให้กับริมตลิ่งถนนคนเดินเชียงคาน ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาปั่นจักรยานเลียบริมโขงยามเย็น เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึงในช่วงปลายปี โดยต้นกระดุมทองที่ปลูกในครั้งนี้ ได้นำต้นกล้ามาจากชุมชนท่องเที่ยว ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเชื่อมโยงสายสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว จากภูเขาถึงแม่น้ำโขง ขณะเดียวกัน หอการค้าจังหวัดเลย ได้มอบเมล็ดพันธุ์ปอเทือง กว่า 400 กิโลกรัม และดอกกระดุมทอง กว่า 5,000 เมล็ด ให้แก่ชุมชนชาวเชียงคานได้นำไปปลูกตามบ้านเรือนและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ด้วย เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ใน อ.เชียงคาน


ส่วนที่ อ.ภูเรือ นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยววิถี New Normal อ.ภูเรือ มีกิจกรรมใหม่ๆ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว เช่น การทดลองเที่ยวบนเส้นทางไม้ดอก ธรรมชาติ และวิถีชีวิตท้องถิ่นที่เป็นอัตลักษณ์ของ อ.ภูเรือ, กิจกรรมช้อป ชิม ชิลล์ Phurua New Normal ที่ลานคนเดินปรอทยักษ์ภูเรือ จัดขึ้นเป็นประจําทุกวันศุกร์และวันเสาร์ รวมถึงกิจกรรมของชุมชนและผู้ประกอบการ คาดว่าจะช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วิถีชีวิต และท่องเที่ยวชุมชนใน อ.ภูเรือ มากขึ้น จากในแต่ละปี อ.ภูเรือ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่าปีละ 500,000 คน สร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]