ยอดลงทะเบียน “ไทยชนะ” ทะลุ 44 ล้านคน

สธ.15 ก.ย.-ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป ชี้ผลจากความร่วมมือของประชาชนร่วมลงทะเบียน “ไทยชนะ” ช่วยติดตามผู้ติดเชื้อได้รวดเร็ว-จำกัดวงแพร่ระบาดได้ เผยขณะนี้มีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 44 ล้านคน


นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การที่ประเทศไทยสามารถติดตามผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วทำให้จำกัดวงการแพร่ระบาดได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ประชาชนร่วมมือลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ผ่านแอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ซึ่งขณะนี้มีผู้ใช้บริการแล้ว 44,884,100 คน โดยมีกิจการร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วม จำนวน 288,824 แห่ง

นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเองที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น นอกจากจะช่วยป้องกันโรคโควิด-19 ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจอื่นๆ และโรคติดต่อทางเดินอาหาร


จากข้อมูลกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-สิงหาคม 2562 ประเทศไทย มีผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่จำนวน 250,886 ราย เสียชีวิต 17 ราย ซึ่งใน ช่วงเดียวกันของปี2563 มีผู้ป่วย 108,833 ราย เสียชีวิต 3 ราย ส่วนผู้ป่วยโรคท้องร่วงในปี 2562 มีจำนวน 743,934 ราย เสียชีวิต 5 ราย ในปี 2563 มีจำนวน 569,664 ราย เสียชีวิต 2 ราย จากข้อมูลจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่ามาตรการป้องกันตนเองสามารถช่วยลดอุบัติการณ์ของโรคทั้ง 2 กลุ่ม กระทรวงสาธารณสุขจึงขอเน้นย้ำให้ประชาชนยังคงปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างต่อเนื่องเพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี และลดอัตราการป่วยจากโรคดังกล่าว

จากมาตรการป้องกันตนเองทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการควบคุมโรคโควิดจนเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ และยังสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ระบุไว้ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ว่า “การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหะสถาน เป็นหนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ในการลดความเสี่ยงติดเชื้อและแพร่เชื้อโรคติดต่อทางเดินหายใจ โดยยังต้องรักษาสุขอนามัยร่วมกับการล้างมือให้ถูกวิธี และการรักษาระยะห่างจากผู้อื่นให้เป็นปกติสม่ำเสมอ”ขณะนี้มีหลายประเทศนำมาตรการนี้ไปบังคับใช้กับประชากรในประเทศให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโควิดในชุมชน

สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ มีผู้ติดเชื้อ 5 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 ราย และเคยมีประวัติป่วยโควิดมาแล้ว 2 ราย ทั้งหมดเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ (ญี่ปุ่น 1ราย, ปากีสถาน 1ราย, กาตาร์ 1 ราย,บาห์เรน 1ราย, ซาอุดีอาระเบีย 1 ราย) ได้รับการคัดกรองที่ด่านท่าอากาศยาน, เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้, สถานกักตัวทางเลือก หรือโรงพยาบาลรัฐ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 3ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,315 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.26 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 107 ราย หรือร้อยละ 3.07 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,480 ราย


สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ เดินทางมาจากญี่ปุ่น 1รายเป็นหญิงไทย อายุ 33 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทย 9 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ ในจังหวัดชลบุรี พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกวันที่ 12 กันยายน 2563 (วันที่ 3 ของการกักตัว)ไม่มีอาการ

ปากีสถาน 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 19 ปี อาชีพนักศึกษา เดินทางถึงไทยวันที่ 13 กันยายน 2563 ได้รับการคัดกรองที่ด่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบเริ่มป่วยวันที่ 6 กันยายน 2563 มีน้ำมูก อาเจียน และทำการตรวจหาเชื้อในวันที่ 13 กันยายน 2563 ผลพบเชื้อ ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ

กาตาร์ 1 ราย เป็นชาย สัญชาติอิหร่าน อายุ 35 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินทางถึงไทยวันที่ 13 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในโรงพยาบาลทางเลือก ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรกในวันที่ 13 กันยายน 2563 ไม่มีอาการตรวจเชื้อครั้งที่ 1 วันที่ 30 สิงหาคม 2563 เนื่องจากให้ประวัติติดเชื้อเมื่อเดือนมิถุนายน ผลไม่พบเชื้อ และได้รับการ

บาห์เรน 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 63 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงไทยวันที่ 30 สิงหาคม2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ในจังหวัดชลบุรี ได้รับการตรวจหาเชื้อในครั้งที่ 2 วันที่ 11 กันยายน 2563 ผลไม่ชัดเจน จึงตรวจซ้ำในวันที่ 14 กันยายน 2563 ผลพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดชลบุรี โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย

ซาอุดีอาระเบีย 1 ราย เป็นเพศชาย อายุ 40 ปี สัญชาติอังกฤษ อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงไทย วันที่ 1 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือกในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจในครั้งที่ 2 วันที่ 13 กันยายน 2563 (วันที่12 ของการกักตัว) เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพมหานคร ไม่มีอาการ รายนี้มีประวัติการป่วยตรวจพบเชื้อโควิด ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

ทบ.ยันไม่พบทหารกัมพูชาปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต

กทม. 15 มิ.ย.-กองทัพบก ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ ปิดทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น จากกรณีเพจแจ้งข่าวศรีสะเกษ เผยแพร่ข่าวทหารกัมพูชา พร้อมอาวุธครบมือ ปิดถนนทางขึ้นสามเหลี่ยมมรกต บริเวณช่องบก ห้ามไม่ให้ทหารไทยขึ้นไปซ่อมแซมถนน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 12.45 น. ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยขอให้ฟังข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก หรือสามารถสอบถามกองทัพบกได้เป็นกรณีไป พร้อมระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวมีการทำถนนไว้ส่งกำลังบำรุง แต่อยู่ในเขตเราทั้งหมด ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจ.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย